สวัสดีค่ะ ก่อนอื่นต้องออกแขกก่อนค่ะ ว่าคอลัมน์นี้ผู้เขียนได้รับมอบหมายให้มารับผิดชอบในการนำเสนอสื่อธรรม ให้หลากหลายขึ้น โดยจะหยิบยกทั้งหนังสือธรรมะ และภาพ-ยนตร์ที่สะท้อนเนื้อหาทางธรรมได้น่าสนใจมาแนะนำท่านผู้อ่านค่ะ ผู้เขียนเชื่อว่าภาพยนตร์แม้เป็นเรื่องแต่งขึ้น แต่ก็มีพื้นฐานมาจากเรื่องที่เกิดขึ้นจริงเสียเป็นส่วนใหญ่ อีกทั้งก็ให้แง่คิดอะไรมากมายกับเราเหมือนคำที่ว่าดูละครแล้วย้อนดูตัว ดูหนังเรื่องหนึ่งจบอย่างน้อยก็มีแง่มุมบางอยางที่สะท้อนมุมมอง ทางความคิด และท่าทีของเราต่อสิ่งต่างๆ ได้
ดังนั้นภาพยนตร์แต่ละเรื่องที่จะหยิบยกมาพูดคุยในคอลัมน์นี้ จะเลือกสรรมาอย่างดี ไม่มีพิษมีภัย อีกทั้งก็มีภาพยนตร์ที่เกี่ยวกับพุทธศาสนาไม่ว่าจะทางตรงทางอ้อม ซึ่งผู้เขียนเชื่อว่า ธรรมะกับชีวิต คือ สิ่งเดียวกัน เมื่อเราเข้าใจธรรมะเราก็จะเข้าใจชีวิต
ภาพยนตร์ที่จะขอหยิบยกมาเปิดโรงครั้งแรกนี้ ขอนำเรื่องคุนดุน (Kundun) มาแนะนำค่ะ “คุนดุน” เป็นชีวประวัติขององค์ทะไลลามะ ซึ่งบทภาพยนตร์ ได้รับการตรวจทานจากสำนักงานขององค์ทะไลลามะ ก่อนถ่ายทำ และก่อนออกฉาย
เรื่องเล่ามาตั้งแต่ตอนท่านทะไลลามะองค์ที่ 13 สิ้นพระชนม์ แล้วก็ต้องมีการตามหาองค์ทะไลลามะที่จะกลับมาจุติเป็นทะไลลามะองค์ต่อไป เมื่อพบตัวเด็กที่เชื่อว่าเป็นองค์ทะไลลามะแล้วก็มีการเสี่ยงทาย พร้อมกับนำสิ่งของขององค์ทะไลลามะ องค์ที่ ๑๓ มาด้วย แล้ววางปนกับสิ่งของหลายอย่างให้เด็กเลือกจับ ซึ่งเด็กก็เลือกได้ถูกต้อง ทั้งยังบอกว่า “ของฉัน ของฉัน” ทำให้คณะค้นหา มั่นใจว่าได้พบแล้ว แต่ก็ยังมีเด็กอีกคนหนึ่งที่อยู่ในข่ายที่ต้องไปพิสูจน์ แต่ท้ายที่สุด เด็กน้อยลาโม ดอนดุบ ก็ได้รับการยอมรับว่าเป็นทะไลลามะ องค์ที่ ๑๔
หลังการค้นพบ และทดสอบแล้ว เด็กจะถูกนำไปอยู่วัด และได้รับการบำรุงเลี้ยงจากพระ ซึ่งต้องเอาใจใส่ พิถีพิถัน และเข้มงวดกวดขันมาก เพื่อให้จิตใจของเด็กน้อย ได้ตระหนักถึงต้นกำเนิดอันศักดิ์สิทธิ์ และภาระหน้าที่อันยิ่งใหญ่ที่รออยู่เบื้องหน้า เมื่อเด็กมีอายุได้ราว ๑๖-๑๘ ปี ก็จะได้รับการสถาปนาให้เป็น “เกียลวา รินโปเช่” หรือ “องค์ทะไลลามะ” ปกครองทิเบต ทั้งฝ่ายบ้านเมือง และฝ่ายศาสนา
เรื่องทั้งหมดนี้เป็นเรื่องจริงตั้งแต่วัยเด็กของท่านทะไลลามะองค์ที่ 14 และถ่ายทอดให้เห็น ประวัติศาสตร์ของทิเบต และเหตุที่ท่านต้องลี้ภัย ไปพำนักอาศัยที่ธรรมศาลา ประเทศอินเดีย จนมาถึงปัจจุบันนี้ค่ะ
หนังเรื่องนี้เมื่อคราวออกฉายเมื่อปี 1997 ทำเอาการเมืองจีนต้องสั่นสะเทือน อีกทั้งผู้กำกับมือดีอย่าง Martin Scorsese ก็กลาย เป็น 1 ใน 50 ของบัญชีรายชื่อบุคคลที่ห้าม เหยียบแผ่นดินทิเบต
สำหรับภาพสวยๆ และมุมกล้องทะเลทราย เทือกเขาต่างๆ นั้น อย่าหลงคิดไปว่า ถ่ายทำในทิเบตนะคะ ทั้งหมดนั้นถ่ายทำใน โรงถ่ายแอตลาสต์ ที่ประเทศโมร็อคโคค่ะ โดยนำนักแสดงที่เป็นนักบวชจริงๆ จากวัดทั้งในทิเบต และในอินเดียมาที่นี่
การดำเนินเรื่องของหนัง และการเลือกตัวแสดงเป็นไปอย่างน่าสนใจมาก โดยเฉพาะมุมกล้องและภาพก็งดงามสุดบรรยายจริงๆ สำหรับเพลงประกอบก็พลาดไม่ได้เพราะเป็นการประพันธ์ของบรมครูด้านดนตรี Phillip Glass ค่ะ
หนังเรื่องนี้ ไม่ได้พยายามจะทำให้เป็นหนังที่จะครอบงำเรื่องศาสนา แต่เป็นเรื่องราวที่เต็มไปด้วยจิตวิญญาณขั้นสูง ความรัก ความเมตตา ดูแล้วรู้สึกอิ่มใจ รู้สึกได้ว่าตัวตนค่อยๆ สลายไปอย่างไม่รู้เนื้อรู้ตัว
ภาพยนต์เรื่องคุนดุนนั้นยังพอหาได้ตาม ร้านขายดีวีดีทั่วไปค่ะ