วันที่ 16 ต.ค. 2548 เวลาประมาณ 08.30 นายสุวัจน์ ลิปตพัลภ รองนายกรัฐมลตรี , ศาสตราจารย์ ดร.พระเทพโสภณอธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย,พระครูภาวนาวรานุศาสก์ เจ้าอาวาสวัดไผ่เหลือง จังหวัดนนบุรี,ดร.สันติภาพ เตชะวนิช ผู้ว่าการกีฬาแห่งประเทศไทยและนักกีฬาทีมชาติไทยชุดซีเกมส์จำนวน 800 คนที่กำลังจะเดินทางไปแข่งขันที่ประเทศฟิลิปปินส์ซึ่งจะมีขึ้นเดือนพฤศจิกายนนี้ร่วมเปิดงาน “พุทธศาสตร์การกีฬา ปฐมนิเทศนักกีฬาไทยใช้สมาธิ” ณ อินดอร์สเตเดียมหัวหมาก มีการแสดงโยคะสร้างสมาธิ ฉายวีดีทัศน์ชุดสมาธิดีกีฬาเป็นเลิศ การพรรณาและสาธิตใช้ลมหายใจเพื่อให้เกิดสมาธิ โดยพระครูภาวนานุศาสตร์ วัดไผ่เหลือง บางใหญ่ จังหวัดนนบุรี ซึ่งเป็นอาจารย์ของนักกอล์ฟชื่อดังอย่างวี เจ ซิงห์ที่สอนหลักการทำสมาธิจนประสบผลสำเร็จในระดับโลกมาแล้ว
พระเทพโสภณอธิการบดีมหาวิทยาลัยจุฬาราชวิทยาลัยกล่าวว่าไม่ใช่เรื่องใหม่นักกับการนำหลักของพุทธศาสนามามาส่งเสริมความสำเร็จของการแข่งขันกีฬา ในอดีตนั้นจะเห็นว่ามีพระจำนวนไม่น้อยที่สนับสนุนนักกีฬาโดยฝึกเรื่องการทำสมาธิ เช่น มวย, สำนักดาบพุทธไทสวรรค์ และในปัจจุบันนี้พระครูภาวนาวรานุศาสก์ หลวงพ่อวัดไผ่เหลืองที่เป็นแบบอย่างช่วยสอนให้กับลูกศิษย์ประสบผลสำเร็จในระดับชาติมาแล้ว และในช่วงที่ ภารดร ศรีชาพันธ์ นักเทนนิสชื่อดังของไทยประสบผลสำเร็จอย่างสูงนั้นผู้สื่อข่าว CNN จากฮ่องกงได้ถามว่าความเป็นชาวพุทธช่วยอะไรได้บ้าง? “ ภราดรให้สัมภาษณ์ว่าทำให้ขณะแข่งขันนั้นจิตปลอดโปร่งเพราะว่าปล่อยวาง ไม่เครียดมีความสุขสนุกกับการแข่ง”
อธิการบดีมหาวิทยาลัยจุฬาราชวิทยาลัยกล่าวต่อไปว่า กีฬาเป็นเรื่องของการเล่น เล่นแล้วมีความสุข แต่เมื่อมีความเครียด เกร็ง แล้วก็จะไม่ประสบผลสำเร็จต้องอาศัยสมาธิ เหมือนกับในญี่ปุ่นที่ใช้เรื่องของการทำสมาธิกับการกีฬามานานนับศตวรรษโดยนำเอาหลักปฏิบัติของเซนที่มีหลักของการทำสมาธิเข้ามาช่วย เพราะการทำสมาธิทำให้เกิดความนิ่งโดยเน้นความสงบสยบความเคลื่อนไหว ความสนุกกับการเล่นไม่รู้สึกกดดันเมื่อเวลาลงแข่งไม่สนใจสิ่งรอบข้าง ปล่อยวาง รวบรวมเอาสติปัญญามาใช้อย่างเต็มที่ สิ่งสำคัญสุดของนักกีฬาคือ เมื่อเกิดสมาธิก็สามารถที่ดึงเอาศักยภาพที่มีอยู่ในตนเองออกมาใช้ได้อย่างไม่มีขีดจำกัด เหมือนกับการที่เราเอากระจกมารวมแสงของพระอาทิตย์เป็นจุดๆเดียวจนทำให้สิ่งของไหม้ได้นั้นเอง
พระครูภาวนาวรานุศาสก์ เจ้าอาวาสวัดไผ่เหลือง กล่าวว่านับว่าเป็นนิมิตหมายอันดีนำเอาหลักของพระพุทธศาสนามาใช้กับการกีฬา ซึ่งคิดว่าน่าจะนำมาใช้นานแล้ว ส่วนตัวแล้วได้ติดตามกีฬามาตลอดและเมื่อมีนักกีฬามาขอคำปรึกษาจึงสอนให้รู้จักการทำสมาธิ ให้รู้จักกำหนดลมหายใจ มีความแน่วแน่ในการเล่น ตาต้องไม่กระพริบ จิตต้องนิ่ง ไม่วอกแวกหวั่นไหว หายใจลึกๆ ทำให้เป็นประจำทำบ่อยๆเพื่อที่จะไม่ต้องสับสนทำให้เกิดสติปัญญาสามารถนำมาใช้ได้ในขณะแข่ง นอกจากนั้นนักกีฬาทุกคนต้องมีใจที่พร้อมจะสู้ไม่ย่อท้อเพราะหากมีสมาธิแต่จิตใจไม่สู้ก็ไม่เกิดประโยชน์อะไร
การแข่งขันกีฬาซีเกมส์ในเดือนพฤศจิกายนนี้ขอให้นักกีฬาทุกคนตั้งใจทำให้สุดความสามารถ แพ้ชนะเป็นเรื่องของกีฬาและให้ตระหนักว่าจะนำเหรียญชัยชนะมาเพื่อถวายเป็นราชสักการะแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ทรงครองราชย์ครบ 60 ปี ในปีหน้า ซึ่งเป็นหน้าที่ของคนไทยทุกคนควรต้องทำ “และการที่ได้รับนิมนต์ให้มาเป็นวิทยากรในการอบรมนักกีฬาครั้งนี้อาตมามีความภูมิใจเป็นอย่างมากที่ได้มีส่วนในการรับใช้ชาติบ้านเมืองและคิดว่าจากความไว้วางใจที่ได้รับให้ฝึกอบรมนักกีฬาในครั้งนี้อาตมาคงไม่ปล่อยเฉยๆคงไม่สอนแล้วปล่อยอยากจะตามผลงานและจะดูว่าช่วงไหนที่เป็นช่วงที่สำคัญอาตมาจะเดินทางไปฟิลิปปินส์โดยใช้ทุนตัวอาตมาเองเพื่อช่วยให้นักกีฬาของอาตมาบรรลุตามเป้าหมายที่วางเอาไว้โดยให้สำนักพระพุทธศาสนาทำเรื่องนิมนต์ไป และขอให้นักกีฬาทุกคนให้ความร่วมมือในการฝึกอย่างจริงจังด้วย” เจ้าอาวาสวัดไผ่เหลืองกล่าว
