ปุจฉา
สังคมจอมปลอม
กราบนมัสการองค์หลวงปู่ ลูกมีปัญหาทางใจในตอนนี้ เนื่องจาก สังคมในห้องของลูกนั้น ดูจอมปลอม และ ทุกคนต่างสวมหน้ากากให้กัน ซึ่งทำให้ลูกรู้สึกอึดอัดใจอย่างมาก ไม่อยากที่จะไปเรียน และร่วมกิจกรรมกับพวกเขา เพื่อนลูกนั้น เราไม่สามารถบอกอะไรที่ตรงไปตรงมาได้ และยังมีการแบ่งพวก เวลาจะคุยก็ตีสีหน้ายิ้มแย้งทั้งๆที่เขาไม่อยากจะร่วมสนทนา ลูกควรจะทำอย่างไรดีเจ้าคะ ขอความเมตตาให้คำตอบลูกด้วยเจ้าค่ะ
วิสัชนา
เปลี่ยนคนอื่นลำบาก แต่เปลี่ยนตนเองไม่ยาก ทำไมเราต้องไปแบกอะไรๆ ของใครๆ เอาไว้มากมายขนาดนั้น วางๆ มันลงไปบ้างเถิดหนู
"คบทุกคนที่อยู่ในสังคม แต่อย่าปล่อยให้เขามามีอำนาจเหนือเรา"
ปุจฉา
คนชอบนินทา ทำไมได้ดี
กราบเรียนถามหลวงปู่ครับ ทำไมคนที่ชอบนินทาคนอื่น และชอบคิดร้ายกับคนอื่นจึงได้รับผลตอบแทนที่ดีและมีเพื่อนฝูงมาก และมีคนยอมรับในตัวเขามากด้วย เหมือนไม่ตรงกับคำว่าทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว
วิสัชนา
จิตที่เศร้าหมองย่อมสู่ทุคติ การที่เขาคิดจะด่าคนอื่นเขาต้องเศร้าหมอง มีใครบ้างที่คิดด่าคนอื่นแล้วไม่เครียด มีใครบ้างที่คิดด่าคนอื่นแล้วชื่นบานเป็นสุข คนที่คิดจะด่าคนอื่นมีแต่ความเศร้าร้อนรุ่ม กลัดกลุ้ม อึดอัด โมโห โกรธ อาฆาต พยาบาท สิ่งเหล่านี้เป็นอัปมงคล แต่เราไม่รู้เองว่าเขาเป็นทุกข์ เราเห็นเขาเสแสร้งหน้าชื่นตาบาน ก็เลยนึกว่าเขาทำชั่วได้ดี และเหตุที่เขามีเพื่อนมาก ก็เพราะเป็นธรรมชาติของมนุษย์ที่ไม่มีใครอยากเห็นคนอื่นดี
ปุจฉา
ขอวิธีบรรเทาทุกข์
กราบนมัสการหลวงปู่ที่เคารพ เราจะมีวิธีปฏิบัติตัวอย่างไร เพื่อให้บรรเทาทุกข์ลงไปได้บ้าง
วิสัชนา
เริ่มต้นจากการเจริญสติ เพราะความทุกข์เกิดจากการขาดสติ ความทุกข์เกิดจากอวิชชาคือความไม่รู้ ความทุกข์เกิดจากความหลง เกิดจากความยึดติด ดังนั้นถ้าเรามีสติ มีวิชา มีความรู้มันก็จะทำให้ไม่โง่ ไม่หลง ไม่ยึดติด ความทุกข์ก็จะลดลง
ปุจฉา
เห็นถูกตามครองธรรม
กราบเท้าหลวงปู่ด้วยความเคารพ ทาน 10 ประการคือ1.ทาน 2.ศีล 3.ภาวนา 4.อ่อนน้อมถ่อมตน 5.ทำหน้าที่ถูกต้อง 6.อุทิศแบ่งผลบุญ 7.เห็นคนอื่นทำดี พลอยยินดี 8.ฟังธรรม 9.เผยแพร่ธรรม10.มีความเห็นถูกต้องตามครองธรรม
อยากขอกราบเรียนหลวงปู่ว่าข้อที่ 10 ทำยังไงครับ
วิสัชนา
เห็นว่า"สัตว์โลก เป็นไปตามกรรม ทำกรรมดี ย่อมได้ผลดี ทำกรรมชั่ว ผลที่ชั่วย่อมตอบแทน" แม้ที่สุด เห็นว่าสรรพสิ่งทั้งปวง ไม่เที่ยง ไม่มีตัวตน เป็นทุกข์ เกิดขึ้นตั้งอยู่ แล้วก็ดับไป เมื่อมีความดังนี้แล้ว ก็ขวนขวายทำแต่กรรมดี บริจาคทาน รักษาศีล เจริญภาวนา เจริญปัญญา จนรู้ชัดตามความเป็นจริง ดังกล่าวมา
ปุจฉา
แนวทางสร้างบารมีธรรม
กราบนมัสการ องค์หลวงปู่พุทธอิสระ แนวทางสร้างบารมีธรรม เรื่องการทำบุญ 10 วิธีในข้อ "ทำบุญด้วยการเจริญภาวนา" มีความหมายแตกต่างอย่างไรกับ ในข้อ "ทำบุญด้วยวิธีปฏิบัติธรรม" ขอหลวงปู่เมตตาขยายความด้วยค่ะ
วิสัชนา
เจริญภาวนา ถือว่าเป็นบุญที่เกิดโดยการทำจิตให้สงบ และมีปัญญาโดยตรง แต่ปฏิบัติธรรม หมายรวมไปถึง การบริจาคทาน รักษาศีล สวดมนต์ ฟังธรรม แผ่เมตตา
ปุจฉา
พระพุทธเจ้าผู้เป็นเลิศ
พระพุทธเจ้าประเภท ปัญญาธิกะ วิริยาธิกะ ศรัทธาธิกะ แตกต่างกันตรงไหน อย่างไรครับ
วิสัชนา
ปัญญาธิกะ คือ ผู้ที่เป็นเลิศในด้านปัญญา
วิริยาธิกะ คือ ผู้ที่เป็นเลิศในด้านความเพียร
ศรัทธาธิกะ คือ ผู้ที่เป็นเลิศในด้านความศรัทธา ตั้งมั่น
ปุจฉา
แผ่เมตตาให้เขาไม่เกลียดเรา
การแผ่เมตตาให้กับคนที่เกลียดเรา ควรจะแผ่เมตตาให้เขาอย่างไร ถึงจะทำให้เขาไม่เกลียดเรา ให้ความเมตตารักเรา
วิสัชนา
อันดับแรกต้องยิ้มให้เขา ด้วยความเอื้ออาทร มีไมตรี แล้วก็ภาวนาในใจว่า ขอสัตว์ทั้งปวงจงเป็นสุข
ปุจฉา
คนตายเร็วหมดเวรหรือบุญน้อย?
คนที่ตายเร็วนั้น บางคนก็็พูดกันว่าหมดเวรหมดกรรม ส่วนบางคนก็บอกว่าเพราะเกิดมามีบุญน้อย จริงๆแล้วอย่างไหนถูกต้องคะ
วิสัชนา
การตายเร็วเพราะหมดเวรหมดกรรมนั้นไม่จริง คนตายเร็วอาจจะมีเวรมีกรรมต่อก็ได้ เพราะว่าอายุขัยของคนโดนกำหนดด้วยกฎของกรรม แล้วก็มีกรรมอีกประเภทหนึ่ง คือ อุปฆาตกรรม เช่น เราจะมีอายุขัย 80 ปี แต่มีอุปฆาตกรรมซึ่งเป็นกรรมชั่วอันหนักมาตัดรอน ทำให้เราต้องตายภายในอายุ 20 ปี เพราะฉะนั้นเราก็ต้องระหกระเหินเร่ร่อนอยู่จนครบ 80 จึงจะไปเกิดใหม่
เพราะฉะนั้น ตายแล้วยังมีเวรมีกรรมต่อก็เยอะ หรือหมดอายุขัยแล้ว ก็ไม่แน่ว่าจะได้ไปเกิดเป็นคน เทวดา หรือตายแล้วได้ไปขึ้นสวรรค์ เพราะคุณอาจจะต้องชดใช้กรรมที่คุณทำไว้ตอนมีชีวิตอยู่
ส่วนที่บอกว่าตายเร็วเพราะเกิดมามีบุญน้อย บางครั้งคนตายเร็วเกิดมาก็มีบุญมากเหมือนกัน มันอยู่ที่การกระทำของคนคนนั้นเหมือนกัน พระพุทธเจ้าจึงสอนว่า ขณะที่มีชีวิตอยู่ จงสร้างแต่กุศลกรรม
ปุจฉา
ไม่มีปัจจัยทำบุญ
เมื่อใจเป็นกุศล แต่ขาดปัจจัยในการทำบุญ แล้วเราจะทำอย่างไร เพราะคนส่วนมากใช้วัตถุเป็นตัววัด ส่วนใจอยู่ข้างในไม่มีใครเห็น
วิสัชนา
คุณเข้าใจผิดแล้ว การทำบุญไม่จำเป็นต้องมีปัจจัยเสมอไป บุญของพระพุทธเจ้ามีตั้ง 10 อย่าง 1ใน 10 อย่างเท่านั้นคือการบริจาคทาน เป็นการแบ่งปันสิ่งของ ส่วนอีก 9 อย่างนั้นเป้นเรื่องที่เราต้องลงมือทำเอง เช่น รักษาศีล เจริญภาวนา แผ่เมตตา ฟังธรรม เป็นต้น
สังคมจอมปลอม
กราบนมัสการองค์หลวงปู่ ลูกมีปัญหาทางใจในตอนนี้ เนื่องจาก สังคมในห้องของลูกนั้น ดูจอมปลอม และ ทุกคนต่างสวมหน้ากากให้กัน ซึ่งทำให้ลูกรู้สึกอึดอัดใจอย่างมาก ไม่อยากที่จะไปเรียน และร่วมกิจกรรมกับพวกเขา เพื่อนลูกนั้น เราไม่สามารถบอกอะไรที่ตรงไปตรงมาได้ และยังมีการแบ่งพวก เวลาจะคุยก็ตีสีหน้ายิ้มแย้งทั้งๆที่เขาไม่อยากจะร่วมสนทนา ลูกควรจะทำอย่างไรดีเจ้าคะ ขอความเมตตาให้คำตอบลูกด้วยเจ้าค่ะ
วิสัชนา
เปลี่ยนคนอื่นลำบาก แต่เปลี่ยนตนเองไม่ยาก ทำไมเราต้องไปแบกอะไรๆ ของใครๆ เอาไว้มากมายขนาดนั้น วางๆ มันลงไปบ้างเถิดหนู
"คบทุกคนที่อยู่ในสังคม แต่อย่าปล่อยให้เขามามีอำนาจเหนือเรา"
ปุจฉา
คนชอบนินทา ทำไมได้ดี
กราบเรียนถามหลวงปู่ครับ ทำไมคนที่ชอบนินทาคนอื่น และชอบคิดร้ายกับคนอื่นจึงได้รับผลตอบแทนที่ดีและมีเพื่อนฝูงมาก และมีคนยอมรับในตัวเขามากด้วย เหมือนไม่ตรงกับคำว่าทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว
วิสัชนา
จิตที่เศร้าหมองย่อมสู่ทุคติ การที่เขาคิดจะด่าคนอื่นเขาต้องเศร้าหมอง มีใครบ้างที่คิดด่าคนอื่นแล้วไม่เครียด มีใครบ้างที่คิดด่าคนอื่นแล้วชื่นบานเป็นสุข คนที่คิดจะด่าคนอื่นมีแต่ความเศร้าร้อนรุ่ม กลัดกลุ้ม อึดอัด โมโห โกรธ อาฆาต พยาบาท สิ่งเหล่านี้เป็นอัปมงคล แต่เราไม่รู้เองว่าเขาเป็นทุกข์ เราเห็นเขาเสแสร้งหน้าชื่นตาบาน ก็เลยนึกว่าเขาทำชั่วได้ดี และเหตุที่เขามีเพื่อนมาก ก็เพราะเป็นธรรมชาติของมนุษย์ที่ไม่มีใครอยากเห็นคนอื่นดี
ปุจฉา
ขอวิธีบรรเทาทุกข์
กราบนมัสการหลวงปู่ที่เคารพ เราจะมีวิธีปฏิบัติตัวอย่างไร เพื่อให้บรรเทาทุกข์ลงไปได้บ้าง
วิสัชนา
เริ่มต้นจากการเจริญสติ เพราะความทุกข์เกิดจากการขาดสติ ความทุกข์เกิดจากอวิชชาคือความไม่รู้ ความทุกข์เกิดจากความหลง เกิดจากความยึดติด ดังนั้นถ้าเรามีสติ มีวิชา มีความรู้มันก็จะทำให้ไม่โง่ ไม่หลง ไม่ยึดติด ความทุกข์ก็จะลดลง
ปุจฉา
เห็นถูกตามครองธรรม
กราบเท้าหลวงปู่ด้วยความเคารพ ทาน 10 ประการคือ1.ทาน 2.ศีล 3.ภาวนา 4.อ่อนน้อมถ่อมตน 5.ทำหน้าที่ถูกต้อง 6.อุทิศแบ่งผลบุญ 7.เห็นคนอื่นทำดี พลอยยินดี 8.ฟังธรรม 9.เผยแพร่ธรรม10.มีความเห็นถูกต้องตามครองธรรม
อยากขอกราบเรียนหลวงปู่ว่าข้อที่ 10 ทำยังไงครับ
วิสัชนา
เห็นว่า"สัตว์โลก เป็นไปตามกรรม ทำกรรมดี ย่อมได้ผลดี ทำกรรมชั่ว ผลที่ชั่วย่อมตอบแทน" แม้ที่สุด เห็นว่าสรรพสิ่งทั้งปวง ไม่เที่ยง ไม่มีตัวตน เป็นทุกข์ เกิดขึ้นตั้งอยู่ แล้วก็ดับไป เมื่อมีความดังนี้แล้ว ก็ขวนขวายทำแต่กรรมดี บริจาคทาน รักษาศีล เจริญภาวนา เจริญปัญญา จนรู้ชัดตามความเป็นจริง ดังกล่าวมา
ปุจฉา
แนวทางสร้างบารมีธรรม
กราบนมัสการ องค์หลวงปู่พุทธอิสระ แนวทางสร้างบารมีธรรม เรื่องการทำบุญ 10 วิธีในข้อ "ทำบุญด้วยการเจริญภาวนา" มีความหมายแตกต่างอย่างไรกับ ในข้อ "ทำบุญด้วยวิธีปฏิบัติธรรม" ขอหลวงปู่เมตตาขยายความด้วยค่ะ
วิสัชนา
เจริญภาวนา ถือว่าเป็นบุญที่เกิดโดยการทำจิตให้สงบ และมีปัญญาโดยตรง แต่ปฏิบัติธรรม หมายรวมไปถึง การบริจาคทาน รักษาศีล สวดมนต์ ฟังธรรม แผ่เมตตา
ปุจฉา
พระพุทธเจ้าผู้เป็นเลิศ
พระพุทธเจ้าประเภท ปัญญาธิกะ วิริยาธิกะ ศรัทธาธิกะ แตกต่างกันตรงไหน อย่างไรครับ
วิสัชนา
ปัญญาธิกะ คือ ผู้ที่เป็นเลิศในด้านปัญญา
วิริยาธิกะ คือ ผู้ที่เป็นเลิศในด้านความเพียร
ศรัทธาธิกะ คือ ผู้ที่เป็นเลิศในด้านความศรัทธา ตั้งมั่น
ปุจฉา
แผ่เมตตาให้เขาไม่เกลียดเรา
การแผ่เมตตาให้กับคนที่เกลียดเรา ควรจะแผ่เมตตาให้เขาอย่างไร ถึงจะทำให้เขาไม่เกลียดเรา ให้ความเมตตารักเรา
วิสัชนา
อันดับแรกต้องยิ้มให้เขา ด้วยความเอื้ออาทร มีไมตรี แล้วก็ภาวนาในใจว่า ขอสัตว์ทั้งปวงจงเป็นสุข
ปุจฉา
คนตายเร็วหมดเวรหรือบุญน้อย?
คนที่ตายเร็วนั้น บางคนก็็พูดกันว่าหมดเวรหมดกรรม ส่วนบางคนก็บอกว่าเพราะเกิดมามีบุญน้อย จริงๆแล้วอย่างไหนถูกต้องคะ
วิสัชนา
การตายเร็วเพราะหมดเวรหมดกรรมนั้นไม่จริง คนตายเร็วอาจจะมีเวรมีกรรมต่อก็ได้ เพราะว่าอายุขัยของคนโดนกำหนดด้วยกฎของกรรม แล้วก็มีกรรมอีกประเภทหนึ่ง คือ อุปฆาตกรรม เช่น เราจะมีอายุขัย 80 ปี แต่มีอุปฆาตกรรมซึ่งเป็นกรรมชั่วอันหนักมาตัดรอน ทำให้เราต้องตายภายในอายุ 20 ปี เพราะฉะนั้นเราก็ต้องระหกระเหินเร่ร่อนอยู่จนครบ 80 จึงจะไปเกิดใหม่
เพราะฉะนั้น ตายแล้วยังมีเวรมีกรรมต่อก็เยอะ หรือหมดอายุขัยแล้ว ก็ไม่แน่ว่าจะได้ไปเกิดเป็นคน เทวดา หรือตายแล้วได้ไปขึ้นสวรรค์ เพราะคุณอาจจะต้องชดใช้กรรมที่คุณทำไว้ตอนมีชีวิตอยู่
ส่วนที่บอกว่าตายเร็วเพราะเกิดมามีบุญน้อย บางครั้งคนตายเร็วเกิดมาก็มีบุญมากเหมือนกัน มันอยู่ที่การกระทำของคนคนนั้นเหมือนกัน พระพุทธเจ้าจึงสอนว่า ขณะที่มีชีวิตอยู่ จงสร้างแต่กุศลกรรม
ปุจฉา
ไม่มีปัจจัยทำบุญ
เมื่อใจเป็นกุศล แต่ขาดปัจจัยในการทำบุญ แล้วเราจะทำอย่างไร เพราะคนส่วนมากใช้วัตถุเป็นตัววัด ส่วนใจอยู่ข้างในไม่มีใครเห็น
วิสัชนา
คุณเข้าใจผิดแล้ว การทำบุญไม่จำเป็นต้องมีปัจจัยเสมอไป บุญของพระพุทธเจ้ามีตั้ง 10 อย่าง 1ใน 10 อย่างเท่านั้นคือการบริจาคทาน เป็นการแบ่งปันสิ่งของ ส่วนอีก 9 อย่างนั้นเป้นเรื่องที่เราต้องลงมือทำเอง เช่น รักษาศีล เจริญภาวนา แผ่เมตตา ฟังธรรม เป็นต้น