xs
xsm
sm
md
lg

ศัพท์ธรรมคำวัด : สิกขา สิกขาบท ลาสิกขา

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ทั้ง ๓ คำนี้ คือ “สิกขา สิกขาบท ลาสิกขา” ชาวบ้านโดยทั่วไปมักจะรู้จัก รู้ความหมาย และคุ้นเคยอยู่เพียงคำเดียวคือ “ลาสิกขา” เพราะพูดกันบ่อยเวลาที่พระจะสึก และบ่อยครั้งมีที่ผู้ใช้คำสับสนปนเปไปว่า “ลาสิกขาบท” ทั้งนี้อาจเนื่องด้วยไม่รู้ความหมายอันแท้จริงของคำแต่ละคำนั่นเอง ดังนั้นผู้เขียน จึงได้ค้นคว้าความหมายของคำเหล่านี้มาบอกเล่าไว้อีกครั้ง เพื่อความเข้าใจที่ถูก ต้อง
โดยใน ‘พจนานุกรมพุทธศาสน์ ฉบับประมวลศัพท์’ โดย พระธรรมปิฎก (ป.อ.ปยุตฺโต) และหนังสือ ‘พูดจาภาษาวัด’ โดยกรมการศาสนา ปี ๒๕๔๔ ได้อธิบายความหมายของคำเหล่านี้ไว้ว่า
สิกขา หมายถึง การศึกษา,การสำเหนียก,ข้อที่จะต้องศึกษา,ข้อปฏิบัติสำหรับฝึกอบรม มี ๓ อย่างคือ
๑.อธิศีลสิกขา ได้แก่ การศึกษาในอธิศีล,ข้อปฏิบัติสำหรับฝึกอบรมในทางความประพฤติอย่างสูง,การฝึกฝนอบรมความประพฤติทางกาย วาจา ใจ คือระเบียบวินัย การอยู่ร่วมกับผู้อื่นและในสิ่งแวดล้อมต่างๆด้วยดี ให้เกื้อกูล ไม่เบียด เบียน ไม่ทำลาย เป็นพื้นฐานแห่งการฝึกอบรมจิตใจในอธิจิตตสิกขา
๒.อธิจิตตสิกขา ได้แก่ ข้อปฏิบัติสำหรับฝึกอบรมจิต เพื่อให้เกิดสมาธิอย่างสูง, การฝึกฝนอบรมจิตใจให้เข้มแข็ง มั่นคง มีคุณธรรม เช่น ขันติ เมตตา กรุณา สดชื่น เบิกบาน เป็นสุข ผ่องใส เหมาะแก่การใช้ความคิดพิจารณา เป็นฐานแห่ง การเจริญปัญญา
๓.อธิปัญญาสิกขา ได้แก่ ข้อปฏิบัติสำหรับฝึกอบรมปัญญา เพื่อให้เกิดความรู้แจ้งอย่างสูง มองเห็นสิ่งทั้งหลายตามเป็นจริง จนจิตใจหลุดพ้นเป็นอิสระปราศ จากกิเลสและความทุกข์
สิกขาทั้ง ๓ นี้ รวมเรียกว่า “ไตรสิกขา” หรือเรียกกันโดยทั่วไปว่า “ศีล สมาธิ ปัญญา”
ส่วน สิกขาบท หมายถึง ข้อศีล,ข้อวินัย บทบัญญัติข้อหนึ่งๆในพระวินัยที่ภิกษุพึงศึกษาปฏิบัติ, ศีล ๕ ศีล ๘ ศีล ๑๐ ศีล ๒๒๗ ศีล ๓๑๑ แต่ละข้อๆเรียก ว่าสิกขาบท เพราะเป็นข้อที่จะต้องศึกษา หรือเป็นบทฝึกฝนอบรมตนของสาธุชน อุบาสก อุบาสิกา สามเณร สามเณรี ภิกษุ และภิกษุณี ตามลำดับ
สำหรับคำว่า ลาสิกขา หมายถึง การสึก หรือลาออกจากความเป็นภิกษุ สามเณร โดยการกล่าวปฏิญญาตนเป็นผู้อื่น ต่อหน้าพระภิกษุด้วยกัน หรือต่อหน้าบุคคลอื่นว่า ขอลาสิกขาเป็นคฤหัสถ์
ดังนั้น การสึกจากพระ ซึ่งมักจะมีผู้ใช้ว่า “ลาสิกขาบท” เป็นการใช้ไม่ถูกต้อง เพราะที่ถูกนั้น จะต้องใช้คำว่า “ลาสิกขา”
นอกจากนี้ ในพระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๐ พระสุตันตปิฎกที่ ๑๒ อังคุตตรนิกาย เอก-ทุก-ติกนิบาต คัทรภสูตร พระพุทธองค์ได้ตรัสถึงภิกษุผู้ไร้ไตรสิกขาว่าดุจ ดังลาที่ติดตามฝูงโค ความว่า
    “ดูกรภิกษุทั้งหลาย ลาติดตามไปเบื้องหลังฝูงโค มันร้องว่า แม้เราก็เป็นโค แต่สี เสียงและรอยเท้าของมันหาเหมือนของโคไม่ มันเป็นแต่เดินตามหลังฝูงโคร้องว่า แม้เราก็เป็นโคๆ ดังนี้เท่านั้น แม้ฉันใด ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุบางรูปในธรรมวินัยนี้ ฉันนั้นเหมือนกันแล ติดตามไปเบื้องหลังภิกษุสงฆ์ร้องประกาศว่า แม้เรา ก็เป็นภิกษุๆ แต่ความพอใจในการสมาทานอธิศีลสิกขา อธิจิตตสิกขา และอธิปัญญาสิกขาของเรา หาเหมือนของภิกษุทั้งหลายไม่ เขาเป็นแต่ติดตามไปเบื้องหลังภิกษุสงฆ์ร้องประกาศว่า แม้เราก็เป็นภิกษุๆ ดังนี้เท่านั้น เพราะฉะนั้นแหละ ภิกษุทั้งหลาย ท่านทั้งหลายพึงศึกษาว่า เราจักมีความพอใจอย่างแรงกล้าในการสมาทานอธิศีลสิกขา เราจักมีความพอใจอย่างแรงกล้าในการสมาทานอธิจิตตสิกขา เราจักมีความพอใจอย่างแรงกล้าในการสมาทานอธิปัญญาสิกขา ดูกรภิกษุ ทั้งหลาย ท่านทั้งหลายพึงศึกษาเช่นนี้แลฯ”
กำลังโหลดความคิดเห็น