ประธานฯ อิสลามนราธิวาส เผยทหารทำหญิงมุสลิมท้องย่อมผิดหลักศาสนา แต่หากปฏิบัติตามจารีตประเพณีถือว่าไม่ผิด ส่วนการปรับเปลี่ยนบุคลากรแก้ปัญหาไฟใต้ไม่สำคัญเท่ากับเรื่องของนโยบาย
วานนี้ (29 พ.ค.) นายอับดุลเราะห์มาน อับดุลสอมัด ประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดนราธิวาส เปิดเผยว่า กรณีที่มีข่าวว่าทหารที่ลงไปปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ทำหญิงสาวชาวมุสลิมตั้งครรภ์ว่า หากเป็นเรื่องจริงถือเป็นเรื่องผิดหลักศาสนาอิสลาม อีกทั้งทำให้ประชาชนในพื้นที่มองภาพของเจ้าหน้าที่ผิดไปจนสามารถนำไปสู่ปัญหาอื่นๆ และบานปลายขึ้นมาได้ โดยเฉพาะปัญหาทางสังคมที่ยืดเยื้อมานาน จึงเห็นควรให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องเร่งสะสางเรื่องดังกล่าวโดยเร็วที่สุด
อย่างไรก็ตาม หากเหล่าทหารที่ลงมาปฏิบัติงานในพื้นที่มีความจริงใจกับหญิงสาวชาวมุสลิม และปฏิบัติตามจารีตประเพณีของชาวมุสลิมก็ไม่น่าจะเป็นปัญหา และถือว่าเป็นสิ่งที่ไม่ผิดหลักศาสนาด้วย
ส่วนกรณีการปรับเปลี่ยนเจ้าหน้าที่ระดับผู้บังคับบัญชาหลายตำแหน่งในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้นั้น ประธานคณะกรรมการอิสลามนราธิวาสเห็นว่า การปรับเปลี่ยนบุคลากรระดับผู้บังคับบัญชาในพื้นที่ไม่ได้เป็นปัญหาในการปฏิบัติงาน เพราะสิ่งสำคัญของการแก้ปัญหาในพื้นที่คือนโยบายการแก้ปัญหา ไม่ใช่ตัวบุคคล แต่ทั้งนี้บุคลากรที่จะลงมาทำงานในพื้นที่จะต้องมีความจริงใจ เข้าใจในสังคมและวัฒนธรรมของชาวมุสลิม จึงจะสามารถแก้ปัญหาได้อย่างเข้าถึง
วานนี้ (29 พ.ค.) นายอับดุลเราะห์มาน อับดุลสอมัด ประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดนราธิวาส เปิดเผยว่า กรณีที่มีข่าวว่าทหารที่ลงไปปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ทำหญิงสาวชาวมุสลิมตั้งครรภ์ว่า หากเป็นเรื่องจริงถือเป็นเรื่องผิดหลักศาสนาอิสลาม อีกทั้งทำให้ประชาชนในพื้นที่มองภาพของเจ้าหน้าที่ผิดไปจนสามารถนำไปสู่ปัญหาอื่นๆ และบานปลายขึ้นมาได้ โดยเฉพาะปัญหาทางสังคมที่ยืดเยื้อมานาน จึงเห็นควรให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องเร่งสะสางเรื่องดังกล่าวโดยเร็วที่สุด
อย่างไรก็ตาม หากเหล่าทหารที่ลงมาปฏิบัติงานในพื้นที่มีความจริงใจกับหญิงสาวชาวมุสลิม และปฏิบัติตามจารีตประเพณีของชาวมุสลิมก็ไม่น่าจะเป็นปัญหา และถือว่าเป็นสิ่งที่ไม่ผิดหลักศาสนาด้วย
ส่วนกรณีการปรับเปลี่ยนเจ้าหน้าที่ระดับผู้บังคับบัญชาหลายตำแหน่งในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้นั้น ประธานคณะกรรมการอิสลามนราธิวาสเห็นว่า การปรับเปลี่ยนบุคลากรระดับผู้บังคับบัญชาในพื้นที่ไม่ได้เป็นปัญหาในการปฏิบัติงาน เพราะสิ่งสำคัญของการแก้ปัญหาในพื้นที่คือนโยบายการแก้ปัญหา ไม่ใช่ตัวบุคคล แต่ทั้งนี้บุคลากรที่จะลงมาทำงานในพื้นที่จะต้องมีความจริงใจ เข้าใจในสังคมและวัฒนธรรมของชาวมุสลิม จึงจะสามารถแก้ปัญหาได้อย่างเข้าถึง