ปุจฉา
น้อยใจจริงๆ
กราบนมัสการหลวงปู่ที่เคารพอย่างสูง ดิฉันเลี้ยงแม่และน้องๆ โดยไม่มีพ่อ ช่วยเลี้ยงมาตั้งแต่อายุ 9 ขวบ คือ 9 ขวบเริ่มไม่มีพ่อ เพราะพ่อเลิกกับแม่ไปมีเมียใหม่ ดิฉันจึงดิ้นรนหาเลี้ยงครอบครัวด้วยตนเองตั้งแต่อายุยังน้อยนิดมาก จนบางคืนนอนไม่หลับ ต่อสู้ชีวิตมาจนเรียนจบได้อาชีพรับราชการครู มีครอบครัวก็พยายามเลี้ยงลูกอย่างดี เลี้ยงน้องๆจนจบปริญญา ลูกๆจบปริญญาจบจากอเมริกา แต่ดิฉันก็ไม่เคยได้รับความช่วยเหลือ หรือได้รับการดูแลจากผู้ที่ดิฉันเลี้ยงดูมาเท่าที่ควร คือจะไม่มีใครให้ความเอาใจใส่เคารพนับถือเท่าที่ควร เขาทั้งหลายจะพูดจาแบบเหยียบย่ำน้ำใจแทบตลอดเวลา จึงทำให้ดิฉันสับสนว่าบุญมีจริงหรือไม่ สู้อุตส่าห์เสียสละเงิน แรงกาย แรงใจ ถนอมเลี้ยงดูทุกคนแบบนุ่มนวล เกรงว่าเขาจะกระทบกระเทือนใจ ใช้จิตวิทยาในการเลี้ยงดู กลัวน้องๆ แม่ ลูกๆและ สามี จะกระทบกระเทือนใจ ดิฉันทำดีที่สุดแล้ว คิดก่อนทำ คิดก่อนพูด แต่ผลที่ได้รับจากการกระทำของพวกเขาแบบไม่ให้ความเคารพในคำพูด ในท่าทางการปฏิบัติตัว ดิฉันจึงคิดว่า"บุญ" ไม่มีจริง จึงคิดไม่อยากเอื้อเฟื้อใคร ทำดีกับใคร ไม่ช่วยเหลือใคร ปกติดิฉันจะเป็นคนมีน้ำใจ ช่วยเหลือคนแม้แต่คุณแม่รับน้องมาเลี้ยงเป็นบุตรบุญธรรม ก็เลี้ยงเขาอย่างดี ให้การศึกษาจนจบอนุปริญญา จึงขอนมัสการถามหลวงปู่ว่าความดีที่ได้สร้างมาชั่วชีวิตนี้ (ตอนนี้ดิฉันอายุ 60 ปีแล้ว) เป็นตัว "บุญ" หรือไม่ ทำไมจึงต้องเจอแต่คนไม่ดี แม้ลูกซึ่งเป็นเลือดในอก ท้อใจมาก ไม่อยากทำบุญ ทำดีกับใครอีกแล้ว
วิสัชนา
ฉันนึกว่า การคิดน้อยเนื้อต่ำใจ ไร้เหตุผล ไร้สัมมาทิฐิ จะมีแต่เฉพาะคนเยาว์วัย ที่ไหนได้ แก่ๆ อย่างคุณก็ยังมีได้ คนกินแกงย่อมรู้รสแกง คนกินเกลือ ย่อมรู้รสเกลือ คนทำดี ย่อมรู้รสดี เว้นเสียแต่ว่า ทำด้วยหัวใจที่ไร้อารี เพียงแค่ต้องการให้เขาเห็นดีของตน คนเช่นนี้ย่อมน่าสงสาร
คุณกล้าที่จะยืนยันจริงๆ หรือเปล่าว่า ขณะที่คุณทำดี หลังจากทำดี คุณมิได้ลืมรสชาติของความดีเลย
ปุจฉา
ศีล 5 เอาไม่อยู่แล้ว!
นมัสการหลวงปู่ที่เคารพ ผมต้องขอรบกวนหลวงปู่ช่วยหาทางสายกลางและหลักธรรมในการครองเรือนของผม เพราะศีล5 ตอนนี้เอาไม่อยู่แล้วครับ ทั้งพ่อแม่ และภรรยาผม ทุกคนต่างมีความต้องการกันมากมาย จนผมจะบ้าตายแล้วครับ ทุกวันนี้ผมใช้ศีล 5 ไม่พอจะจัดการปัญหาได้ ปุจฉา คือ หลักธรรมใดใช้ในการครองเรือนและต้องปฏิบัติเช่นไรครับ
วิสัชนา
พอใจในสิ่งที่ตนเองมี ยินดีในสิ่งที่ตนเองได้
ปุจฉา
ผิดศีลหรือไม่
ถ้าหากการที่เราทำงานเป็นพนักงานบริษัทขายปลากระป๋อง เมื่อมีลูกค้าสั่งของ เราก็สั่งต่อไปยังโรงงานให้ผลิตและจัดจำหน่ายให้ลูกค้า เช่นนี้ถือว่าเป็นการผิดศีล หรือศีลด่างบ้างไหม เป็นสัมมาอาชีวะหรือไม่ เพราะเหมือนเป็นการสนับสนุนการกินเนื้อปลา ทำให้เกิดการสั่งซื้อวัตถุดิบเนื้อปลา แม้เป็นลูกจ้างพนักงานถือว่าบาปไหมคะ นมัสการค่ะ
วิสัชนา
- กรรม ที่เข้าลักษณะผิดศีลปาณาติบาต ต้องมีองค์ประกอบด้วย สั่งเขาฆ่า เห็นเขาฆ่า ยินดีในการฆ่า ถ้าไม่ครบอาการเช่นนี้ ถือว่าไม่ผิดศีลปาณาฯ
- ยังไม่เข้าข่ายในมิจฉาวณิชา เหตุเพราะคุณยังมิได้เป็นผู้ผลิต ผู้ค้าโดยตรง เป็นแต่เพียงช่วยสั่ง
ปุจฉา
ผิดศีลข้อ 3
ผมขอเรียนถามท่านดังต่อไปนี้
1. การที่ผู้ชายไปเที่ยวหญิงโสเภณี จะผิดศีลข้อ 3 กาเม หรือไม่
2. โทษของการผิดศีลข้อ 3 กาเมนี้ จะมีวิธีการแก้ไขอย่างไร
3. ถ้าเราผิดศีลจะแก้ไขอย่างไร
วิสัชนา
1. ศีลข้อ 3 ท่านหมายถึง การผิดต่อเมียตน และเมียคนอื่น รวมทั้งลูกตน และลูกคนอื่นที่เขามิได้อนุญาต ถ้าไม่ผิดตามนี้แล้ว คุณทั้งสองฝ่าย (คุณกับหญิงโสเภณี) ตกลงปลงใจกันเอง ก็ถือว่าไม่ผิด แต่มันจะเป็นการผิดต่อสุขภาพของตนเอง
2. เมื่อผิดไปแล้ว คงจะคืนไม่ได้ แต่คุณควรจะจำเอาไว้เป็นบทเรียน แล้วบอกกับตนเองว่าทีหลังอย่าทำ
3. ตอบเหมือนกันกับข้อ 2 แต่ถ้าจะให้ดี มีวิธีป้องกันมิให้ผิดศีล ก็คือ มีสติ มีความละอายชั่วกลัวบาป มีความสำรวม ระวังตาเห็นรูป หูฟังเสียง จมูกดมกลิ่น ลิ้นรับรส กายถูกต้องสัมผัส และอารมณ์ที่เกิดกับใจ ต้องระวัง อย่าให้มันแสดงอะไร ออกมาจนเป็นอารมณ์
ปุจฉา
สวดมนต์แต่ใจคิดเรื่องอกุศล
กราบนมัสการหลวงปู่ กระผมมีเรื่องจะรบกวนหลวงปู่ช่วยบอกวิธีแก้ปัญหานี้ให้ด้วยครับ คือว่าตอนที่ผมนั่งสวดมนต์ หรือนั่งสมาธิทำไมจิตของผมคิดแต่เรื่องที่เป็นอกุศลกรรม ทั้งๆที่พยายามจะระลึกถึง พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ และบิดามารดา แต่มันก็ยังกลับมาคิดเรื่องเดิมทุกทีครับ รบกวนหลวงปู่ด้วยนะครับ
วิสัชนา
มันเป็นธรรมดา ของม้าที่มันกำลังพยศ คึกคะนอง คงเป็นเรื่องยาก ที่จะเอาชนะมันทั้งที่มันยังมีแรง ผู้ฉลาดเขาจะปล่อยให้มันพยศ คึกคะนอง วิ่งไปจนกว่า มันจะหมดแรง แล้วจึงจะจูงมันเข้าคอกฝึกต่อไป
สรุป เรื่องที่ฉันว่ามาทั้งหมด ก็เพื่อจะบอกคุณให้รู้ว่า ถ้ามันจะคิดก็ปล่อยให้มันคิด เพียงแต่เฝ้ามองดูมันว่า มันจะคิดไปในทางไหน เลิกคิดเมื่อไหร่ แล้วจึงจับมันมาฝึกให้เชื่องต่อไป
น้อยใจจริงๆ
กราบนมัสการหลวงปู่ที่เคารพอย่างสูง ดิฉันเลี้ยงแม่และน้องๆ โดยไม่มีพ่อ ช่วยเลี้ยงมาตั้งแต่อายุ 9 ขวบ คือ 9 ขวบเริ่มไม่มีพ่อ เพราะพ่อเลิกกับแม่ไปมีเมียใหม่ ดิฉันจึงดิ้นรนหาเลี้ยงครอบครัวด้วยตนเองตั้งแต่อายุยังน้อยนิดมาก จนบางคืนนอนไม่หลับ ต่อสู้ชีวิตมาจนเรียนจบได้อาชีพรับราชการครู มีครอบครัวก็พยายามเลี้ยงลูกอย่างดี เลี้ยงน้องๆจนจบปริญญา ลูกๆจบปริญญาจบจากอเมริกา แต่ดิฉันก็ไม่เคยได้รับความช่วยเหลือ หรือได้รับการดูแลจากผู้ที่ดิฉันเลี้ยงดูมาเท่าที่ควร คือจะไม่มีใครให้ความเอาใจใส่เคารพนับถือเท่าที่ควร เขาทั้งหลายจะพูดจาแบบเหยียบย่ำน้ำใจแทบตลอดเวลา จึงทำให้ดิฉันสับสนว่าบุญมีจริงหรือไม่ สู้อุตส่าห์เสียสละเงิน แรงกาย แรงใจ ถนอมเลี้ยงดูทุกคนแบบนุ่มนวล เกรงว่าเขาจะกระทบกระเทือนใจ ใช้จิตวิทยาในการเลี้ยงดู กลัวน้องๆ แม่ ลูกๆและ สามี จะกระทบกระเทือนใจ ดิฉันทำดีที่สุดแล้ว คิดก่อนทำ คิดก่อนพูด แต่ผลที่ได้รับจากการกระทำของพวกเขาแบบไม่ให้ความเคารพในคำพูด ในท่าทางการปฏิบัติตัว ดิฉันจึงคิดว่า"บุญ" ไม่มีจริง จึงคิดไม่อยากเอื้อเฟื้อใคร ทำดีกับใคร ไม่ช่วยเหลือใคร ปกติดิฉันจะเป็นคนมีน้ำใจ ช่วยเหลือคนแม้แต่คุณแม่รับน้องมาเลี้ยงเป็นบุตรบุญธรรม ก็เลี้ยงเขาอย่างดี ให้การศึกษาจนจบอนุปริญญา จึงขอนมัสการถามหลวงปู่ว่าความดีที่ได้สร้างมาชั่วชีวิตนี้ (ตอนนี้ดิฉันอายุ 60 ปีแล้ว) เป็นตัว "บุญ" หรือไม่ ทำไมจึงต้องเจอแต่คนไม่ดี แม้ลูกซึ่งเป็นเลือดในอก ท้อใจมาก ไม่อยากทำบุญ ทำดีกับใครอีกแล้ว
วิสัชนา
ฉันนึกว่า การคิดน้อยเนื้อต่ำใจ ไร้เหตุผล ไร้สัมมาทิฐิ จะมีแต่เฉพาะคนเยาว์วัย ที่ไหนได้ แก่ๆ อย่างคุณก็ยังมีได้ คนกินแกงย่อมรู้รสแกง คนกินเกลือ ย่อมรู้รสเกลือ คนทำดี ย่อมรู้รสดี เว้นเสียแต่ว่า ทำด้วยหัวใจที่ไร้อารี เพียงแค่ต้องการให้เขาเห็นดีของตน คนเช่นนี้ย่อมน่าสงสาร
คุณกล้าที่จะยืนยันจริงๆ หรือเปล่าว่า ขณะที่คุณทำดี หลังจากทำดี คุณมิได้ลืมรสชาติของความดีเลย
ปุจฉา
ศีล 5 เอาไม่อยู่แล้ว!
นมัสการหลวงปู่ที่เคารพ ผมต้องขอรบกวนหลวงปู่ช่วยหาทางสายกลางและหลักธรรมในการครองเรือนของผม เพราะศีล5 ตอนนี้เอาไม่อยู่แล้วครับ ทั้งพ่อแม่ และภรรยาผม ทุกคนต่างมีความต้องการกันมากมาย จนผมจะบ้าตายแล้วครับ ทุกวันนี้ผมใช้ศีล 5 ไม่พอจะจัดการปัญหาได้ ปุจฉา คือ หลักธรรมใดใช้ในการครองเรือนและต้องปฏิบัติเช่นไรครับ
วิสัชนา
พอใจในสิ่งที่ตนเองมี ยินดีในสิ่งที่ตนเองได้
ปุจฉา
ผิดศีลหรือไม่
ถ้าหากการที่เราทำงานเป็นพนักงานบริษัทขายปลากระป๋อง เมื่อมีลูกค้าสั่งของ เราก็สั่งต่อไปยังโรงงานให้ผลิตและจัดจำหน่ายให้ลูกค้า เช่นนี้ถือว่าเป็นการผิดศีล หรือศีลด่างบ้างไหม เป็นสัมมาอาชีวะหรือไม่ เพราะเหมือนเป็นการสนับสนุนการกินเนื้อปลา ทำให้เกิดการสั่งซื้อวัตถุดิบเนื้อปลา แม้เป็นลูกจ้างพนักงานถือว่าบาปไหมคะ นมัสการค่ะ
วิสัชนา
- กรรม ที่เข้าลักษณะผิดศีลปาณาติบาต ต้องมีองค์ประกอบด้วย สั่งเขาฆ่า เห็นเขาฆ่า ยินดีในการฆ่า ถ้าไม่ครบอาการเช่นนี้ ถือว่าไม่ผิดศีลปาณาฯ
- ยังไม่เข้าข่ายในมิจฉาวณิชา เหตุเพราะคุณยังมิได้เป็นผู้ผลิต ผู้ค้าโดยตรง เป็นแต่เพียงช่วยสั่ง
ปุจฉา
ผิดศีลข้อ 3
ผมขอเรียนถามท่านดังต่อไปนี้
1. การที่ผู้ชายไปเที่ยวหญิงโสเภณี จะผิดศีลข้อ 3 กาเม หรือไม่
2. โทษของการผิดศีลข้อ 3 กาเมนี้ จะมีวิธีการแก้ไขอย่างไร
3. ถ้าเราผิดศีลจะแก้ไขอย่างไร
วิสัชนา
1. ศีลข้อ 3 ท่านหมายถึง การผิดต่อเมียตน และเมียคนอื่น รวมทั้งลูกตน และลูกคนอื่นที่เขามิได้อนุญาต ถ้าไม่ผิดตามนี้แล้ว คุณทั้งสองฝ่าย (คุณกับหญิงโสเภณี) ตกลงปลงใจกันเอง ก็ถือว่าไม่ผิด แต่มันจะเป็นการผิดต่อสุขภาพของตนเอง
2. เมื่อผิดไปแล้ว คงจะคืนไม่ได้ แต่คุณควรจะจำเอาไว้เป็นบทเรียน แล้วบอกกับตนเองว่าทีหลังอย่าทำ
3. ตอบเหมือนกันกับข้อ 2 แต่ถ้าจะให้ดี มีวิธีป้องกันมิให้ผิดศีล ก็คือ มีสติ มีความละอายชั่วกลัวบาป มีความสำรวม ระวังตาเห็นรูป หูฟังเสียง จมูกดมกลิ่น ลิ้นรับรส กายถูกต้องสัมผัส และอารมณ์ที่เกิดกับใจ ต้องระวัง อย่าให้มันแสดงอะไร ออกมาจนเป็นอารมณ์
ปุจฉา
สวดมนต์แต่ใจคิดเรื่องอกุศล
กราบนมัสการหลวงปู่ กระผมมีเรื่องจะรบกวนหลวงปู่ช่วยบอกวิธีแก้ปัญหานี้ให้ด้วยครับ คือว่าตอนที่ผมนั่งสวดมนต์ หรือนั่งสมาธิทำไมจิตของผมคิดแต่เรื่องที่เป็นอกุศลกรรม ทั้งๆที่พยายามจะระลึกถึง พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ และบิดามารดา แต่มันก็ยังกลับมาคิดเรื่องเดิมทุกทีครับ รบกวนหลวงปู่ด้วยนะครับ
วิสัชนา
มันเป็นธรรมดา ของม้าที่มันกำลังพยศ คึกคะนอง คงเป็นเรื่องยาก ที่จะเอาชนะมันทั้งที่มันยังมีแรง ผู้ฉลาดเขาจะปล่อยให้มันพยศ คึกคะนอง วิ่งไปจนกว่า มันจะหมดแรง แล้วจึงจะจูงมันเข้าคอกฝึกต่อไป
สรุป เรื่องที่ฉันว่ามาทั้งหมด ก็เพื่อจะบอกคุณให้รู้ว่า ถ้ามันจะคิดก็ปล่อยให้มันคิด เพียงแต่เฝ้ามองดูมันว่า มันจะคิดไปในทางไหน เลิกคิดเมื่อไหร่ แล้วจึงจับมันมาฝึกให้เชื่องต่อไป