xs
xsm
sm
md
lg

คนรู้ใจ : เตรียมตัวก่อนตายอย่างไร จึงจะไม่ไปทุคติ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เรื่องที่ 100 ตีสนิทกับความตาย ตอนที่2

ฉบับที่แล้วผมลงท้ายไว้ว่า การเตรียมตัวก่อนตาย ก็คือตายอย่างไรจึงจะไม่ไปทุคติ คือเราตายแล้วไม่ไปเกิดในทุคติ ตายแล้วไปสู่สุคตินั้น ก็จะต้องระวังใจไม่ให้ใจเศร้าหมอง ต้องทำใจให้ผ่องใส อยู่ตลอดเวลา

หลายคนเมื่ออ่านมาถึงตรงนี้ อาจตั้งปุจฉาขึ้นในใจทันทีว่า "ทำอย่างไรใจจะผ่องใส???"

พระอาจารย์มานพ อุปสโม แห่งวัดนายโรง กรุงเทพมหานคร บอกไว้ว่า ใจของบุคคลเรานั้นจะผ่องใสก็ต้องมีการฝึก มีการอบรม ฝึกจิตอบรมจิต อยู่บ่อยๆ ก็จะทำให้เรารู้เท่าทันจิต เมื่อเรารู้เท่าทันจิตของเราก็จะไม่ให้ขุ่นมัว

ท่านทั้งหลายถามใจตัวเองว่า ถ้าวันนี้เราจะตาย กลัวตายไหม ความรู้สึกลึกๆ กลัวหรือไม่กลัว ถ้ามีความกลัว ความกลัวเป็นปฏิฆะ ความกลัวเป็นโทสะ บุคคลตายไปเพราะความหวาดกลัว เพราะโทสะคือ ความหวาดกลัวในความตาย

ความกลัวจะนำเราไปสู่ทุคติ แต่เมื่อเราถามใจตัวเองแล้ว ตอบว่าตายเป็นตาย ตายวันนี้ก็ตาย ตายพรุ่งนี้ก็ตาย มีความพร้อมที่จะตาย เมื่อพร้อมที่จะตายไม่อาลัยอาวรณ์อะไรๆ แล้ว เมื่อใจไม่หวาดกลัว จิตก็จะผ่องใส ตายแล้วจะไปสู่สุคติ

พระอาจารย์มานพ ยังอธิบายใน "ตีสนิทกับความตาย" อีก ว่า จิตผ่องใสจิตขุ่นมัว เกิดด้วยอำนาจของกรรม กรรมที่เรา ได้ทำไว้แล้ว และกรรมเหล่านั้นได้โอกาสส่งผล ในเวลาใกล้จะตายนั้นทุกคนจะประสบเหมือนกันหมด คือเวลาใกล้จะตายจะมีอารมณ์มาปรากฏให้เราได้รับทราบ

โดยอารมณ์ที่มาปรากฏในเวลาใกล้ตาย มี 3 ประการ

กรรมอารมณ์ คือ อารมณ์ที่เป็นตัวกรรมประการหนึ่ง กรรมนิมิตอารมณ์ คืออารมณ์ที่เป็นเครื่องหมายของกรรมอีกประการหนึ่ง และคตินิมิตอารมณ์ คือ อารมณ์ได้แก่ สถานที่ ที่จะนำพาสรรพสัตว์ไปอุบัติเกิดขึ้นในภพใหม่หรือภูมิใหม่

กรรมอารมณ์คือ อารมณ์ที่มาปรากฏนั้น เป็นตัวกรรม ได้แก่ กุศล อกุศล ที่ผู้ใกล้ตายนั้นระลึกได้ในขณะใกล้จะตาย ใจจะหวนระลึกนึกถึงกุศลกรรมที่เราได้เคยกระทำไว้ หรือหวนระลึกนึกถึงอกุศลกรรมที่เราได้เคยทำไว้

กุศล อกุศล เกิดจากสิ่งใด สิ่งนั้นเป็นนิมิตเครื่องหมายของกรรม ถ้าเราเคยทำบุญ เคยให้ทาน เคยรักษาศีล เคยเจริญภาวนา ในขณะใกล้ตาย สิ่งที่เราเคยกระทำไว้จะมาปรากฏ มองเห็นสำรับข้าวปลาอาหารที่เราเคยใส่บาตรพระเคยถวายพระ มองเห็นพระที่เราเคยใส่บาตรให้ท่าน มองเห็นตัวเรากำลังใส่บาตรพระ เห็นอย่างนี้ท่านเรียกว่ากรรมนิมิตอารมณ์

เมื่อบุคคลทำกุศลแล้ว กุศลก็จะนำพาไปสู่สุคติ ไปเกิดเป็นมนุษย์ ไปเกิดเป็นเทวดา เวลาใกล้ตายจะมองเห็นภพภูมิของมนุษย์ มองเห็นภพภูมิของเทวดา มองเห็นตัวเราไปเกิดเป็นมนุษย์อีก มองเห็นตัวเราไปอุบัติเกิดขึ้น เป็นเทวดา ถ้าเห็นอย่างนี้ท่านเรียกว่า คตินิมิตอารมณ์

ถ้าเป็นกรรมอารมณ์ กรรมนิมิตอารมณ์ คตินิมิตอารมณ์ฝ่ายดีปรากฏ จิตของบุคคลนั้นก็จะผ่องใส เมื่อจิตผ่องใสแล้วตายไปก็จะไปสู่สุคติ จะไปเกิดในสุคติ

ถ้ากรรมอารมณ์ นิมิตอารมณ์ หรือคตินิมิตอารมณ์ฝ่ายอกุศลมาปรากฏ ในขณะใกล้จะตาย เราก็หวนระลึกนึกถึงบาป นึกถึงอกุศลกรรมที่เราเคยกระทำไว้ในขณะใกล้จะตาย มองเห็นสัตว์ที่เราเคยฆ่า มาดิ้นทุรนทุรายต่อหน้าให้เราเห็น

เหล่านี้คือกรรมนิมิตอารมณ์ฝ่ายอกุศลกรรมมาปรากฏ หรือในเวลาใกล้จะตายมองเห็นภพภูมิอารมณ์ฝ่ายอกุศลกรรมมาปรากฏ หรือในเวลาใกล้จะตายมองเห็นภพภูมิอันเป็นทุคติ มองเห็นตัวเราไปเกิดเป็นสัตว์เดรัจฉาน มองเห็นสัตว์นรกเห็นเปรต เห็นอสุรกาย เห็นภพภูมิของสัตว์นรก เปรตอสุรกาย หรือมองเห็นตัวเราไปอุบัติเกิดขึ้นเป็นสัตว์นรก เป็นอสุรกาย เป็นสัตว์เดรัจฉาน ถ้าเห็นอย่างนี้ตายแล้วก็จะไปสู่ทุคติแน่นอน

เมื่อถึงตรงนี้ หลายคนอาจตั้งคำถามว่า "เมื่อใจขุ่นมัวตอนใกล้ตาย จะทำอย่างไรไม่ให้ไปทุคติภูมิ"

พระอาจารย์มานพบอกว่า วิธีแก้ไขอารมณ์ให้ตัวเองนั้นมีอยู่ ถ้าเราสามารถสังเกตจิตที่ขุ่นมัว เศร้าหมองได้จะทำให้จิตเป็นกุศล ทำให้จิตผ่องใสได้ในขณะนั้น ก็จะสามารถสกัดกั้นอบายภูมิได้

การจะสกัดกั้นอบายภูมิได้ เราจะต้องมีการฝึกจิตจนชำนาญ บุคคลใดเป็นผู้ฉลาดในจิตของตัวเอง รู้เท่าทันความรู้สึกของตัวเอง บุคคลนั้นในขณะใกล้ตายจะไม่เศร้าหมอง จิตจะผ่องใส

ถึงตรงนี้ เกิดคำถามขึ้นอีกแล้วครับว่า ทำอย่างไรถึงจะสกัดกั้นจิตไม่ให้เศร้าหมองก่อนตาย อยากรู้อ่านต่อฉบับหน้าครับ
กำลังโหลดความคิดเห็น