ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกหากคุณได้รับการ์ดแต่งงานที่ระบุว่า ขอเชิญร่วมงานมงคลสมรสระหว่าง.... ที่โรงพยาบาลสงฆ์ ทั้งนี้ก็เพราะที่โรงพยาบาลสงฆ์ ถนนศรีอยุธยา แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี กทม. แห่งนี้ เปิดรับบริการจัดงานแต่งงาน มากว่า 30 ปีแล้ว
หลายคนเคยใช้บริการจัดงานมงคลสมรสที่โรงพยาบาลแห่งนี้มาแล้ว ในขณะที่อีกหลายคนยังไม่รู้ว่าที่นี่มีบริการแบบนี้ด้วย เพราะพูดถึงโรงพยาบาลทีไร ก็มักจะนึกถึงแต่เรื่องของคนเกิด คนเจ็บ คนตาย ไม่ค่อยมีใครนึกถึงเรื่องการแต่งงานในโรงพยาบาล
เราจะไปดูกันว่าบริการจัดงานแต่งงานของที่นี่เป็นอย่างไร แล้วทำไมหลายคนจึงเลือกใช้บริการที่โรงพยาบาลสงฆ์แทนที่จะเป็นโรงแรม
ประหยัด ถูกหลักพิธีกรรม และได้ทำบุญ
สำหรับสาเหตุที่คู่บ่าวสาวนิยมจัดพิธีแต่งงานที่โรงพยาบาลสงฆ์นั้น เพราะเหตุผลหลัก 3 ประการ คือ ประหยัด ถูกหลักพิธีกรรม และได้ทำบุญ เพราะค่าบริการต่างๆนั้นล้วนแล้วแต่นำไปบำรุงโรงพยาบาล เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับพระภิกษุสงฆ์ที่อาพาธ
การจัดพิธีสมรสมีให้เลือก 2 แบบด้วยกัน แบบแรก จะเป็นพิธีสมรสหมู่ ซึ่งทางโรงพยาบาลให้บริการได้วันละไม่เกิน 20 คู่ อัตราค่าบริการในพิธีสงฆ์และพิธีมงคลสมรสตกคู่ละ 1,000 บาท แต่ถ้ามีพิธีรดน้ำสังข์เพิ่มเข้ามาก็ต้องเพิ่มค่าใช้จ่ายอีก 1,750-2,750 บาท(แล้วแต่ห้องที่จัด) ซึ่งจะรับบริการพิธีรดน้ำสังข์ไม่เกิน วันละ 4 คู่
ส่วนแบบที่สอง จะเป็นการสมรสเพียงคู่เดียวในห้องส่วนตัว ซึ่งมีทั้งหมด 6 ห้อง สำหรับจัดให้คู่บ่าวสาวได้ 6 คู่ โดยเสียค่าใช้จ่ายราคาเหมาต่อหนึ่งห้อง ซึ่งมีสถานที่ให้เลือกคือถ้าใช้ห้องที่หอฉัน อัตราค่าบริการในพิธีสงฆ์และพิธีมงคลสมรส 5,430 บาท ส่วนห้องที่อาคารมูลนิธิ และอาคารพิธีสงฆ์ ค่าบริการ 7,450 บาท ซึ่งค่าใช้จ่ายนี้รวมค่าบริการพิธีรดน้ำสังข์ไว้ให้เรียบร้อยแล้ว แต่หากต้องการอาหารว่างก็มีบริการให้ชุดละ 30 บาท
ทั้งสองแบบนี้โรงพยาบาลจะเตรียมข้าวของที่ใช้ในพิธีไว้ให้ทุกอย่าง อาทิ ภัตตาหารสำหรับถวายพระ อุปกรณ์ที่ใช้ในพิธีรดน้ำสังข์ เช่น ตั่งรดน้ำสังข์ มงคลแฝด พานดอกไม้รองรับน้ำสังข์ พวงมาลัยคู่บ่าว สาว ฯลฯ แต่สิ่งที่คู่บ่าวสาวจะต้องเตรียมมาเองในพิธีรดน้ำสังฆ์ คือ ดอกไม้ ธูป เทียน พร้อมซองปัจจัยถวายพระ 9 ชุด เพราะในส่วนนี้โรงพยาบาลจะไม่มีการ เตรียมไว้ให้
นอกจากนี้หากต้องการจัดงานเลี้ยงฉลองแต่งงาน ทางโรงพยาบาลก็มีบริการให้ด้วย โดยคิดอัตราค่าอาหารจัดเลี้ยงแขกตั้งแต่ 50 คนขึ้นไป คนละ 180 บาท แต่ถ้า 30-49 คน คนละ 200 บาท ส่วนอัตราค่าห้องจัดเลี้ยง(ในกรณีที่เจ้าภาพนำอาหารมาเอง)ใช้สถานที่ที่หอฉัน 300 บาท ห้องมูลนิธิ 500 บาท และห้องรับรองอาคารมูลนิธิ 1,500 บาท
สำหรับวันงานพิธีนั้น ในส่วนของพิธีสมรสหมู่ จะเริ่มตั้งแต่เวลา 06.00 น. คู่บ่าวสาวและญาติสนิทมิตรสหายเข้าร่วมพิธีอย่างพร้อมเพรียงกัน โดยพิธีกรจะบรรยายขั้นตอนพิธีแต่งงานให้ทราบ คร่าวๆ จากนั้นเวลา 06.30 น. พิธีกรจะเชิญคู่บ่าวสาวถวายภัตตาหารเช้าแด่พระภิกษุสงฆ์ที่อาพาธบนตึกผู้ป่วย จนกระทั่งเวลา 07.00 น. พระเถระชั้นผู้ใหญ่เดินทาง มาถึง จึงเริ่มประกอบพิธีทางศาสนา โดยมีพระภิกษุทั้งหมด 9 รูปร่วมเจริญพระ พุทธมนต์ เพื่อความเป็นสิริมงคลกับคู่บ่าวสาว พิธีกรจะเชิญคู่บ่าวสาวรับศีลรับพร ถวายปัจจัยไทยธรรม พร้อมดอกไม้ ธูปเทียน 9 ชุด จากนั้นพระสงฆ์จะให้พรและประพรมน้ำพระพุทธมนต์ทีละคู่ เป็นอันเสร็จพิธี แต่ถ้าบ่าวสาวคู่ใดได้จองพิธีรดน้ำสังข์ไว้ด้วย ก็ทำพิธีต่อจนกว่าจะเสร็จ
หากเป็นการสมรสเดี่ยวที่มีการจองห้องส่วนตัวไว้ พิธีทางสงฆ์จะเริ่มเวลา 10.30 น. (ถ้ามีพิธีหมั้นจะต้องทำให้เสร็จ ก่อน 10.15 น.) พอถึงเวลา 11.00 น. คู่บ่าว สาวจะถวายภัตตาหารเพลแด่พระที่มาประกอบพิธี 9 รูป แล้วถวายจตุปัจจัยไทยธรรม พระสงฆ์ให้พรประพรมน้ำพระ พุทธมนต์ หลังจากนั้นจึงประกอบพิธีรดน้ำสังข์ เป็นอันเสร็จพิธี
ยอดผู้มาใช้บริการพิธีแต่งงานเพิ่มขึ้นทุกปี
ทันตแพทย์แสง จตุรานนท์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการโรงพยาบาลสงฆ์ เล่าว่า การจัดพิธีมงคลสมรสที่โรงพยาบาลสงฆ์ จะเป็นลักษณะแบบเรียบง่าย ไม่ว่าจะเป็นภาคไหนก็สามารถจัดได้ถูกต้องตามประเพณีที่สืบทอดกันมา ที่ผ่านมามีทั้งคนไทย และชาวต่างชาติให้ความสนใจเข้าร่วมพิธีแต่งงานที่โรงพยาบาลสงฆ์เป็นจำนวนมาก โดยสถิติที่ผ่านมาตั้งแต่ปี 2545 มีคู่บ่าวสาวมาจัดพิธีแต่งงาน จำนวน 2,859 คู่ ปี 2546 จำนวน 2,991 คู่ และปี 2547 จำนวน 3,472 คู่ จะเห็นได้ว่ามีจำนวนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งเป็นเรื่องที่โรงพยาบาลภาคภูมิใจ
ทั้งนี้เพราะโรงพยาบาลได้อำนวยความสะดวกสบายให้กับคู่บ่าวสาวที่มาจัดพิธีแต่งงานที่โรงพยาบาล ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของสถานที่ ลำดับขั้นตอนการทำพิธีกรรมต่างๆ จะมีพิธีกรคอยให้คำแนะนำตลอดเวลา
“ในส่วนของพิธีสงฆ์นั้นหลายคนอาจจะเข้าใจผิดว่าเรานิมนต์พระที่อาพาธมาทำพิธี ซึ่งที่จริงแล้วไม่ได้ทำเช่นนั้น เพราะท่านอาพาธอยู่แล้วไม่สามารถลงมาทำพิธีได้ แต่ทางโรงพยาบาลจะนิมนต์พระเถระชั้นผู้ใหญ่ ซึ่งเป็นกรรมการสงฆ์ประจำวันมาประกอบพิธีมงคลสมรสให้คู่บ่าวสาว โดยผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันไป ซึ่งมีทั้งหมด 31 รูป ที่อยู่ในเขต กทม. ตัวอย่างเช่น สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ วัดสุวรรณาราม, พระธรรมกิตติเวที วัดเบญจมบพิตร, พระเทพเมธี วัดมหาธาตุ เป็นต้น และการมาจัดพิธีแต่งงานที่นี่นอกจากได้รับความถูกต้องในการจัดพิธีแล้ว ยังได้ทำบุญกับพระอาพาธ นับเป็น มงคลที่สูงสุดในชีวิตการแต่งงานอีกด้วย”
คู่บ่าวสาวเผยประทับใจมาก เป็นสิริมงคล ได้ทำบุญสองต่อ
‘ธรรมลีลา’ ได้มีโอกาสคุยกับคู่บ่าว สาว 3 คู่ที่มาใช้บริการจัดงานแต่งงานที่โรงพยาบาลสงฆ์ ล้วนแต่บอกว่าประทับใจและเป็นสิริมงคล
สุณัฏฐา สุขเทศ ผู้เป็นเจ้าสาวของ MR. VANNA VIK เจ้าบ่าวสัญชาติเยอรมัน เปิดเผยความรู้สึกภายหลังจากเสร็จพิธีแต่งงานว่า ทราบข่าวการจัดพิธีแต่งงานที่โรงพยาบาลสงฆ์จากพี่ที่ทำงาน ซึ่งเคยมาจัดงานแต่งงานที่นี่ แต่พอบอกกับแฟนซึ่งเป็นชาวต่างชาติ ตอนแรกเขาก็ยังไม่เข้าใจว่ามาแต่งงานที่โรงพยาบาลแล้วพิธีจะเป็นลักษณะอย่างไร ก็เลยพาเขามาดูให้เห็นกับตาว่า จัดกันแบบไหน พอเขาเห็นแล้วก็ประทับใจ ทั้งสถานที่ และบรรยากาศของพิธีแต่งงาน เขาเลยสนใจที่จะมาแต่งงานที่นี่เป็นอย่างมาก “ก็อยาก เชิญชวนให้คู่บ่าวสาวที่เตรียมตัวจะแต่งงาน และกำลังมองหาสถานที่อยู่ น่าจะลองมาดูที่โรงพยาบาลสงฆ์ ทั้งสถานที่ และขั้นตอนพิธีต่างๆ ทำได้ดีมากค่ะ”
ด้านนิวัฒน์ บุญเลี้ยง เจ้าบ่าวของ ศรุตยา มีบง กล่าวถึงความรู้สึกที่ได้มาแต่งงานที่โรงพยาบาลสงฆ์ว่า “ตอนแรกผมกับแฟนก็ไม่ทราบว่าที่โรงพยาบาลสงฆ์มีการรับจองจัดพิธีแต่งงาน ได้ทราบข่าวจากเพื่อนที่เคยมาแต่งงานที่นี่ เพื่อนแนะนำให้ลองมาคุยกับเจ้าหน้าที่ แล้วดูสถานที่ว่าชอบหรือไม่ แต่พอมาถึงผมก็ได้รับคำแนะนำจากเจ้าหน้าที่เป็นอย่างดี ทั้งเรื่องสถานที่ และพิธีกรรมต่างๆ ส่วนค่าใช้จ่ายถือได้ว่าถูกมากๆ เมื่อเทียบกับสถานที่อื่นๆ ที่รับจัดงานมงคลสมรส แถมเงินที่เราเสียไปยังเป็นการทำบุญกับพระภิกษุสงฆ์ที่อาพาธ ก็รู้สึกดีมากๆ ถ้าให้ผมมองการแต่งงานในยุคปัจจุบัน ผมว่าควรจะต้องเรียบง่ายไม่ยุ่งยาก เพราะปัจจุบันค่าครองชีพสูง ถ้าไปแต่งตามสถานที่แพงๆ ก็เหมือนกับตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ ซึ่งถือได้ว่าเป็นการเสียเงินโดยเปล่าประโยชน์ การมาจัดงานแต่งงานที่นี่ญาติผู้ใหญ่ก็เห็นดีด้วยทั้งสองฝ่าย แค่เขารู้ว่ามาแต่งงานที่โรงพยาบาลสงฆ์ เขาก็ยินดีเพราะถือว่าได้มาทำบุญ”
ส่วนคู่ของประเสริฐ อรรถมานะ กับผุสดี ฉิมจุ้ม ได้กล่าวถึงความประทับใจที่ได้มาแต่งงานที่โรงพยาบาลสงฆ์ว่า ก่อนหน้านี้ไม่ว่าจะเป็นการทำบุญวันเกิด หรือว่าทำบุญให้กับบรรพบุรุษที่ล่วงลับไปแล้ว ก็จะมาทำบุญที่โรงพยาบาลสงฆ์ ก็เลยทราบว่ามีการรับจัดพิธีมงคลสมรสด้วย เราทั้งสองคนจึงได้ตัดสินใจแต่งงานกันที่นี่ ซึ่งทางญาติผู้ใหญ่ก็เห็นดีด้วย เพราะเป็นการทำบุญไปด้วยในตัว ก็เหมือนกับสนับสนุนช่วยเหลือพระสงฆ์ที่อาพาธ “การได้มาจัดงานที่นี้รู้สึกประทับใจเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของพิธี หรือสถานที่ จัดทำได้เหมาะสมและถูกต้อง ไม่ต้องเสียเงินไปจัดในสถานที่แพงๆ เป็นการสิ้นเปลืองโดยเปล่าประโยชน์ ผมคิดว่าการได้มาจัดพิธีมงคลสมรสที่โรงพยาบาลสงฆ์ เป็นความสุขที่หาที่ไหนไม่ได้อีกแล้ว ในชีวิตหนึ่งของการแต่งงาน เป็นความสุขที่แท้จริงที่คู่บ่าวสาวจะได้รับแต่ความเป็นสิริมงคลกับชีวิต ”ประเสริฐ อรรถมานะ เจ้าบ่าวคนใหม่กล่าวกับ‘ธรรมลีลา’
เจ้าคณะแขวงดุสิตหนุนจัดแต่งงานที่ รพ.สงฆ์ ถือว่าได้ช่วยเหลือพระอาพาธด้วย
พระครูใบฏีกาปารีส นาควํโส เจ้าคณะแขวงดุสิต พระวินยาธิการส่วนกลาง ได้กล่าวถึงการที่คู่บ่าวสาวให้ความสนใจมาจัดพิธีมงคลสมรสที่โรงพยาบาลสงฆ์ว่า “อาตมาคิดว่าเป็นสิ่งที่น่าสนับสนุน ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีมาก เพราะการได้มาแต่งงานที่โรงพยาบาลสงฆ์ ค่าใช้จ่ายที่คู่บ่าวสาวเสียไปในการจัดงานนั้น จะนำมาช่วยเหลือ พระภิกษุสามเณรที่อาพาธ เป็นส่วนที่ช่วยเหลือโรงพยาบาลอย่างมาก เป็นทั้งค่ายารักษาโรค ค่าอาหาร แล้วการมาจัดงานสมรสที่นี่ยังเป็นการประหยัดค่าใช้จ่าย และทำพิธีถูกต้องทุกขั้นตอนตามแบบประเพณีที่สืบทอดกันมา ไม่ต้องไปคิดว่าการมาแต่งงานที่โรงพยาบาลสงฆ์จะจัดพิธีไม่ถูกต้อง แล้วการจัดงานที่โรงพยาบาลสงฆ์ไม่ว่าจะแต่งคู่เดียว หรือสมรสหมู่ พิธีก็เหมือนกันหมดครบถ้วนตามขบวน การที่ทำกัน”
เจ้าคณะแขวงดุสิต เปิดเผยต่อว่าโรงพยาบาลสงฆ์ถือได้ว่าเป็นจุดศูนย์รวมของ พระที่อาพาธทั่วประเทศ พระที่อยู่ต่างจังหวัดบางรูปเมื่อมีอาการอาพาธรุนแรงไม่สามารถรักษาในจังหวัดที่ท่านพักอาศัย ได้ ก็จะถูกส่งมาที่โรงพยาบาลสงฆ์ส่วนกลาง ซึ่งมีเครื่องไม้เครื่องมืออุปกรณ์ที่ครบถ้วนทันสมัย โดยที่พระคุณเจ้าไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น โดยเฉลี่ยแล้วแต่ละวันจะมีพระสงฆ์เข้ามารักษาอาการอาพาธประมาณ 500 รูป โรงพยาบาลต้องรับผิดชอบทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นเรื่องของอาหาร ยารักษาโรค “อาตมาก็ขออนุโมทนากับญาติโยมที่เห็นความสำคัญกับพระภิกษุ สามเณรที่อาพาธ ที่ได้ให้การช่วยเหลืออุปถัมภ์มาโดยตลอด”
ไม่แต่งงานก็มาทำบุญได้
หากไม่ได้มีโอกาสมาจัดพิธีแต่งงานที่โรงพยาบาลสงฆ์แห่งนี้ ก็สามารถมาทำ บุญในวาระโอกาสต่างๆได้ เช่น วันปีใหม่ วันสำคัญทางศาสนา วันเกิด ทำบุญให้กับบรรพบุรุษ หรือทำบุญฉลองความสำเร็จของบริษัท เป็นต้น โดยจะเปิดให้ทำบุญตั้งแต่เวลา 06.00-16.00 น. ทุกวันไม่เว้นวันหยุดราชการ
ผู้ช่วยผู้อำนวยการโรงพยาบาลสงฆ์บอกถึงเรื่องการทำบุญที่โรงพยาบาลสงฆ์ว่า “ผมอยากจะฝากกับประชาชนทั่วไปว่าการมาทำบุญเป็นถังสังฆทาน ที่จริงแล้วถังสังฆทานจะช่วยชีวิตพระไม่ได้ เพราะถังสังฆทานเป็นข้าวของเครื่องใช้ยังชีพชั่วคราวเท่านั้น การทำบุญที่จะช่วยชีวิตพระจริงๆ ก็คือ เรามาร่วมบุญกันโดยบริจาคเงินคนละเล็กละน้อยช่วยกัน เพื่อนำเงินไปซื้อน้ำยาล้างไตต่ออายุให้กับพระ ยารักษาโรคมะเร็ง อวัยวะเทียมต่างๆ เลนส์แก้วตาเทียม ฟันปลอม หรือแม้แต่โลงศพ ล้วนเป็นบุญเป็นกุศลมหากุศล เพราะพระที่มารักษาอาการอาพาธที่โรงพยาบาลจะไม่มีการเก็บค่ารักษาใดๆทั้งสิ้น ทางโรงพยาบาลเป็นผู้ออกให้หมด โรงพยาบาลสงฆ์เป็นจุดศูนย์รวมที่มีพระอาพาธมาจากวัดทั่วประเทศ เพราะฉะนั้นท่านทำบุญที่นี่จุดเดียวก็เหมือนไปทำบุญหลายร้อยวัด”
สำหรับท่านที่สนใจจะแต่งงานแล้วได้บุญ หนุนชีวิตคู่ ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่แผนกรับจอง อาคารพิธีสงฆ์ โรงพยาบาลสงฆ์ ได้ทุกวันตั้งแต่เวลา 06.30-16.30 น. โทร.0-2354-4271-2 หรือ 0-2640-9537, 0-2354-4310 ต่อ 3501, 3502
หลายคนเคยใช้บริการจัดงานมงคลสมรสที่โรงพยาบาลแห่งนี้มาแล้ว ในขณะที่อีกหลายคนยังไม่รู้ว่าที่นี่มีบริการแบบนี้ด้วย เพราะพูดถึงโรงพยาบาลทีไร ก็มักจะนึกถึงแต่เรื่องของคนเกิด คนเจ็บ คนตาย ไม่ค่อยมีใครนึกถึงเรื่องการแต่งงานในโรงพยาบาล
เราจะไปดูกันว่าบริการจัดงานแต่งงานของที่นี่เป็นอย่างไร แล้วทำไมหลายคนจึงเลือกใช้บริการที่โรงพยาบาลสงฆ์แทนที่จะเป็นโรงแรม
ประหยัด ถูกหลักพิธีกรรม และได้ทำบุญ
สำหรับสาเหตุที่คู่บ่าวสาวนิยมจัดพิธีแต่งงานที่โรงพยาบาลสงฆ์นั้น เพราะเหตุผลหลัก 3 ประการ คือ ประหยัด ถูกหลักพิธีกรรม และได้ทำบุญ เพราะค่าบริการต่างๆนั้นล้วนแล้วแต่นำไปบำรุงโรงพยาบาล เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับพระภิกษุสงฆ์ที่อาพาธ
การจัดพิธีสมรสมีให้เลือก 2 แบบด้วยกัน แบบแรก จะเป็นพิธีสมรสหมู่ ซึ่งทางโรงพยาบาลให้บริการได้วันละไม่เกิน 20 คู่ อัตราค่าบริการในพิธีสงฆ์และพิธีมงคลสมรสตกคู่ละ 1,000 บาท แต่ถ้ามีพิธีรดน้ำสังข์เพิ่มเข้ามาก็ต้องเพิ่มค่าใช้จ่ายอีก 1,750-2,750 บาท(แล้วแต่ห้องที่จัด) ซึ่งจะรับบริการพิธีรดน้ำสังข์ไม่เกิน วันละ 4 คู่
ส่วนแบบที่สอง จะเป็นการสมรสเพียงคู่เดียวในห้องส่วนตัว ซึ่งมีทั้งหมด 6 ห้อง สำหรับจัดให้คู่บ่าวสาวได้ 6 คู่ โดยเสียค่าใช้จ่ายราคาเหมาต่อหนึ่งห้อง ซึ่งมีสถานที่ให้เลือกคือถ้าใช้ห้องที่หอฉัน อัตราค่าบริการในพิธีสงฆ์และพิธีมงคลสมรส 5,430 บาท ส่วนห้องที่อาคารมูลนิธิ และอาคารพิธีสงฆ์ ค่าบริการ 7,450 บาท ซึ่งค่าใช้จ่ายนี้รวมค่าบริการพิธีรดน้ำสังข์ไว้ให้เรียบร้อยแล้ว แต่หากต้องการอาหารว่างก็มีบริการให้ชุดละ 30 บาท
ทั้งสองแบบนี้โรงพยาบาลจะเตรียมข้าวของที่ใช้ในพิธีไว้ให้ทุกอย่าง อาทิ ภัตตาหารสำหรับถวายพระ อุปกรณ์ที่ใช้ในพิธีรดน้ำสังข์ เช่น ตั่งรดน้ำสังข์ มงคลแฝด พานดอกไม้รองรับน้ำสังข์ พวงมาลัยคู่บ่าว สาว ฯลฯ แต่สิ่งที่คู่บ่าวสาวจะต้องเตรียมมาเองในพิธีรดน้ำสังฆ์ คือ ดอกไม้ ธูป เทียน พร้อมซองปัจจัยถวายพระ 9 ชุด เพราะในส่วนนี้โรงพยาบาลจะไม่มีการ เตรียมไว้ให้
นอกจากนี้หากต้องการจัดงานเลี้ยงฉลองแต่งงาน ทางโรงพยาบาลก็มีบริการให้ด้วย โดยคิดอัตราค่าอาหารจัดเลี้ยงแขกตั้งแต่ 50 คนขึ้นไป คนละ 180 บาท แต่ถ้า 30-49 คน คนละ 200 บาท ส่วนอัตราค่าห้องจัดเลี้ยง(ในกรณีที่เจ้าภาพนำอาหารมาเอง)ใช้สถานที่ที่หอฉัน 300 บาท ห้องมูลนิธิ 500 บาท และห้องรับรองอาคารมูลนิธิ 1,500 บาท
สำหรับวันงานพิธีนั้น ในส่วนของพิธีสมรสหมู่ จะเริ่มตั้งแต่เวลา 06.00 น. คู่บ่าวสาวและญาติสนิทมิตรสหายเข้าร่วมพิธีอย่างพร้อมเพรียงกัน โดยพิธีกรจะบรรยายขั้นตอนพิธีแต่งงานให้ทราบ คร่าวๆ จากนั้นเวลา 06.30 น. พิธีกรจะเชิญคู่บ่าวสาวถวายภัตตาหารเช้าแด่พระภิกษุสงฆ์ที่อาพาธบนตึกผู้ป่วย จนกระทั่งเวลา 07.00 น. พระเถระชั้นผู้ใหญ่เดินทาง มาถึง จึงเริ่มประกอบพิธีทางศาสนา โดยมีพระภิกษุทั้งหมด 9 รูปร่วมเจริญพระ พุทธมนต์ เพื่อความเป็นสิริมงคลกับคู่บ่าวสาว พิธีกรจะเชิญคู่บ่าวสาวรับศีลรับพร ถวายปัจจัยไทยธรรม พร้อมดอกไม้ ธูปเทียน 9 ชุด จากนั้นพระสงฆ์จะให้พรและประพรมน้ำพระพุทธมนต์ทีละคู่ เป็นอันเสร็จพิธี แต่ถ้าบ่าวสาวคู่ใดได้จองพิธีรดน้ำสังข์ไว้ด้วย ก็ทำพิธีต่อจนกว่าจะเสร็จ
หากเป็นการสมรสเดี่ยวที่มีการจองห้องส่วนตัวไว้ พิธีทางสงฆ์จะเริ่มเวลา 10.30 น. (ถ้ามีพิธีหมั้นจะต้องทำให้เสร็จ ก่อน 10.15 น.) พอถึงเวลา 11.00 น. คู่บ่าว สาวจะถวายภัตตาหารเพลแด่พระที่มาประกอบพิธี 9 รูป แล้วถวายจตุปัจจัยไทยธรรม พระสงฆ์ให้พรประพรมน้ำพระ พุทธมนต์ หลังจากนั้นจึงประกอบพิธีรดน้ำสังข์ เป็นอันเสร็จพิธี
ยอดผู้มาใช้บริการพิธีแต่งงานเพิ่มขึ้นทุกปี
ทันตแพทย์แสง จตุรานนท์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการโรงพยาบาลสงฆ์ เล่าว่า การจัดพิธีมงคลสมรสที่โรงพยาบาลสงฆ์ จะเป็นลักษณะแบบเรียบง่าย ไม่ว่าจะเป็นภาคไหนก็สามารถจัดได้ถูกต้องตามประเพณีที่สืบทอดกันมา ที่ผ่านมามีทั้งคนไทย และชาวต่างชาติให้ความสนใจเข้าร่วมพิธีแต่งงานที่โรงพยาบาลสงฆ์เป็นจำนวนมาก โดยสถิติที่ผ่านมาตั้งแต่ปี 2545 มีคู่บ่าวสาวมาจัดพิธีแต่งงาน จำนวน 2,859 คู่ ปี 2546 จำนวน 2,991 คู่ และปี 2547 จำนวน 3,472 คู่ จะเห็นได้ว่ามีจำนวนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งเป็นเรื่องที่โรงพยาบาลภาคภูมิใจ
ทั้งนี้เพราะโรงพยาบาลได้อำนวยความสะดวกสบายให้กับคู่บ่าวสาวที่มาจัดพิธีแต่งงานที่โรงพยาบาล ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของสถานที่ ลำดับขั้นตอนการทำพิธีกรรมต่างๆ จะมีพิธีกรคอยให้คำแนะนำตลอดเวลา
“ในส่วนของพิธีสงฆ์นั้นหลายคนอาจจะเข้าใจผิดว่าเรานิมนต์พระที่อาพาธมาทำพิธี ซึ่งที่จริงแล้วไม่ได้ทำเช่นนั้น เพราะท่านอาพาธอยู่แล้วไม่สามารถลงมาทำพิธีได้ แต่ทางโรงพยาบาลจะนิมนต์พระเถระชั้นผู้ใหญ่ ซึ่งเป็นกรรมการสงฆ์ประจำวันมาประกอบพิธีมงคลสมรสให้คู่บ่าวสาว โดยผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันไป ซึ่งมีทั้งหมด 31 รูป ที่อยู่ในเขต กทม. ตัวอย่างเช่น สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ วัดสุวรรณาราม, พระธรรมกิตติเวที วัดเบญจมบพิตร, พระเทพเมธี วัดมหาธาตุ เป็นต้น และการมาจัดพิธีแต่งงานที่นี่นอกจากได้รับความถูกต้องในการจัดพิธีแล้ว ยังได้ทำบุญกับพระอาพาธ นับเป็น มงคลที่สูงสุดในชีวิตการแต่งงานอีกด้วย”
คู่บ่าวสาวเผยประทับใจมาก เป็นสิริมงคล ได้ทำบุญสองต่อ
‘ธรรมลีลา’ ได้มีโอกาสคุยกับคู่บ่าว สาว 3 คู่ที่มาใช้บริการจัดงานแต่งงานที่โรงพยาบาลสงฆ์ ล้วนแต่บอกว่าประทับใจและเป็นสิริมงคล
สุณัฏฐา สุขเทศ ผู้เป็นเจ้าสาวของ MR. VANNA VIK เจ้าบ่าวสัญชาติเยอรมัน เปิดเผยความรู้สึกภายหลังจากเสร็จพิธีแต่งงานว่า ทราบข่าวการจัดพิธีแต่งงานที่โรงพยาบาลสงฆ์จากพี่ที่ทำงาน ซึ่งเคยมาจัดงานแต่งงานที่นี่ แต่พอบอกกับแฟนซึ่งเป็นชาวต่างชาติ ตอนแรกเขาก็ยังไม่เข้าใจว่ามาแต่งงานที่โรงพยาบาลแล้วพิธีจะเป็นลักษณะอย่างไร ก็เลยพาเขามาดูให้เห็นกับตาว่า จัดกันแบบไหน พอเขาเห็นแล้วก็ประทับใจ ทั้งสถานที่ และบรรยากาศของพิธีแต่งงาน เขาเลยสนใจที่จะมาแต่งงานที่นี่เป็นอย่างมาก “ก็อยาก เชิญชวนให้คู่บ่าวสาวที่เตรียมตัวจะแต่งงาน และกำลังมองหาสถานที่อยู่ น่าจะลองมาดูที่โรงพยาบาลสงฆ์ ทั้งสถานที่ และขั้นตอนพิธีต่างๆ ทำได้ดีมากค่ะ”
ด้านนิวัฒน์ บุญเลี้ยง เจ้าบ่าวของ ศรุตยา มีบง กล่าวถึงความรู้สึกที่ได้มาแต่งงานที่โรงพยาบาลสงฆ์ว่า “ตอนแรกผมกับแฟนก็ไม่ทราบว่าที่โรงพยาบาลสงฆ์มีการรับจองจัดพิธีแต่งงาน ได้ทราบข่าวจากเพื่อนที่เคยมาแต่งงานที่นี่ เพื่อนแนะนำให้ลองมาคุยกับเจ้าหน้าที่ แล้วดูสถานที่ว่าชอบหรือไม่ แต่พอมาถึงผมก็ได้รับคำแนะนำจากเจ้าหน้าที่เป็นอย่างดี ทั้งเรื่องสถานที่ และพิธีกรรมต่างๆ ส่วนค่าใช้จ่ายถือได้ว่าถูกมากๆ เมื่อเทียบกับสถานที่อื่นๆ ที่รับจัดงานมงคลสมรส แถมเงินที่เราเสียไปยังเป็นการทำบุญกับพระภิกษุสงฆ์ที่อาพาธ ก็รู้สึกดีมากๆ ถ้าให้ผมมองการแต่งงานในยุคปัจจุบัน ผมว่าควรจะต้องเรียบง่ายไม่ยุ่งยาก เพราะปัจจุบันค่าครองชีพสูง ถ้าไปแต่งตามสถานที่แพงๆ ก็เหมือนกับตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ ซึ่งถือได้ว่าเป็นการเสียเงินโดยเปล่าประโยชน์ การมาจัดงานแต่งงานที่นี่ญาติผู้ใหญ่ก็เห็นดีด้วยทั้งสองฝ่าย แค่เขารู้ว่ามาแต่งงานที่โรงพยาบาลสงฆ์ เขาก็ยินดีเพราะถือว่าได้มาทำบุญ”
ส่วนคู่ของประเสริฐ อรรถมานะ กับผุสดี ฉิมจุ้ม ได้กล่าวถึงความประทับใจที่ได้มาแต่งงานที่โรงพยาบาลสงฆ์ว่า ก่อนหน้านี้ไม่ว่าจะเป็นการทำบุญวันเกิด หรือว่าทำบุญให้กับบรรพบุรุษที่ล่วงลับไปแล้ว ก็จะมาทำบุญที่โรงพยาบาลสงฆ์ ก็เลยทราบว่ามีการรับจัดพิธีมงคลสมรสด้วย เราทั้งสองคนจึงได้ตัดสินใจแต่งงานกันที่นี่ ซึ่งทางญาติผู้ใหญ่ก็เห็นดีด้วย เพราะเป็นการทำบุญไปด้วยในตัว ก็เหมือนกับสนับสนุนช่วยเหลือพระสงฆ์ที่อาพาธ “การได้มาจัดงานที่นี้รู้สึกประทับใจเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของพิธี หรือสถานที่ จัดทำได้เหมาะสมและถูกต้อง ไม่ต้องเสียเงินไปจัดในสถานที่แพงๆ เป็นการสิ้นเปลืองโดยเปล่าประโยชน์ ผมคิดว่าการได้มาจัดพิธีมงคลสมรสที่โรงพยาบาลสงฆ์ เป็นความสุขที่หาที่ไหนไม่ได้อีกแล้ว ในชีวิตหนึ่งของการแต่งงาน เป็นความสุขที่แท้จริงที่คู่บ่าวสาวจะได้รับแต่ความเป็นสิริมงคลกับชีวิต ”ประเสริฐ อรรถมานะ เจ้าบ่าวคนใหม่กล่าวกับ‘ธรรมลีลา’
เจ้าคณะแขวงดุสิตหนุนจัดแต่งงานที่ รพ.สงฆ์ ถือว่าได้ช่วยเหลือพระอาพาธด้วย
พระครูใบฏีกาปารีส นาควํโส เจ้าคณะแขวงดุสิต พระวินยาธิการส่วนกลาง ได้กล่าวถึงการที่คู่บ่าวสาวให้ความสนใจมาจัดพิธีมงคลสมรสที่โรงพยาบาลสงฆ์ว่า “อาตมาคิดว่าเป็นสิ่งที่น่าสนับสนุน ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีมาก เพราะการได้มาแต่งงานที่โรงพยาบาลสงฆ์ ค่าใช้จ่ายที่คู่บ่าวสาวเสียไปในการจัดงานนั้น จะนำมาช่วยเหลือ พระภิกษุสามเณรที่อาพาธ เป็นส่วนที่ช่วยเหลือโรงพยาบาลอย่างมาก เป็นทั้งค่ายารักษาโรค ค่าอาหาร แล้วการมาจัดงานสมรสที่นี่ยังเป็นการประหยัดค่าใช้จ่าย และทำพิธีถูกต้องทุกขั้นตอนตามแบบประเพณีที่สืบทอดกันมา ไม่ต้องไปคิดว่าการมาแต่งงานที่โรงพยาบาลสงฆ์จะจัดพิธีไม่ถูกต้อง แล้วการจัดงานที่โรงพยาบาลสงฆ์ไม่ว่าจะแต่งคู่เดียว หรือสมรสหมู่ พิธีก็เหมือนกันหมดครบถ้วนตามขบวน การที่ทำกัน”
เจ้าคณะแขวงดุสิต เปิดเผยต่อว่าโรงพยาบาลสงฆ์ถือได้ว่าเป็นจุดศูนย์รวมของ พระที่อาพาธทั่วประเทศ พระที่อยู่ต่างจังหวัดบางรูปเมื่อมีอาการอาพาธรุนแรงไม่สามารถรักษาในจังหวัดที่ท่านพักอาศัย ได้ ก็จะถูกส่งมาที่โรงพยาบาลสงฆ์ส่วนกลาง ซึ่งมีเครื่องไม้เครื่องมืออุปกรณ์ที่ครบถ้วนทันสมัย โดยที่พระคุณเจ้าไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น โดยเฉลี่ยแล้วแต่ละวันจะมีพระสงฆ์เข้ามารักษาอาการอาพาธประมาณ 500 รูป โรงพยาบาลต้องรับผิดชอบทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นเรื่องของอาหาร ยารักษาโรค “อาตมาก็ขออนุโมทนากับญาติโยมที่เห็นความสำคัญกับพระภิกษุ สามเณรที่อาพาธ ที่ได้ให้การช่วยเหลืออุปถัมภ์มาโดยตลอด”
ไม่แต่งงานก็มาทำบุญได้
หากไม่ได้มีโอกาสมาจัดพิธีแต่งงานที่โรงพยาบาลสงฆ์แห่งนี้ ก็สามารถมาทำ บุญในวาระโอกาสต่างๆได้ เช่น วันปีใหม่ วันสำคัญทางศาสนา วันเกิด ทำบุญให้กับบรรพบุรุษ หรือทำบุญฉลองความสำเร็จของบริษัท เป็นต้น โดยจะเปิดให้ทำบุญตั้งแต่เวลา 06.00-16.00 น. ทุกวันไม่เว้นวันหยุดราชการ
ผู้ช่วยผู้อำนวยการโรงพยาบาลสงฆ์บอกถึงเรื่องการทำบุญที่โรงพยาบาลสงฆ์ว่า “ผมอยากจะฝากกับประชาชนทั่วไปว่าการมาทำบุญเป็นถังสังฆทาน ที่จริงแล้วถังสังฆทานจะช่วยชีวิตพระไม่ได้ เพราะถังสังฆทานเป็นข้าวของเครื่องใช้ยังชีพชั่วคราวเท่านั้น การทำบุญที่จะช่วยชีวิตพระจริงๆ ก็คือ เรามาร่วมบุญกันโดยบริจาคเงินคนละเล็กละน้อยช่วยกัน เพื่อนำเงินไปซื้อน้ำยาล้างไตต่ออายุให้กับพระ ยารักษาโรคมะเร็ง อวัยวะเทียมต่างๆ เลนส์แก้วตาเทียม ฟันปลอม หรือแม้แต่โลงศพ ล้วนเป็นบุญเป็นกุศลมหากุศล เพราะพระที่มารักษาอาการอาพาธที่โรงพยาบาลจะไม่มีการเก็บค่ารักษาใดๆทั้งสิ้น ทางโรงพยาบาลเป็นผู้ออกให้หมด โรงพยาบาลสงฆ์เป็นจุดศูนย์รวมที่มีพระอาพาธมาจากวัดทั่วประเทศ เพราะฉะนั้นท่านทำบุญที่นี่จุดเดียวก็เหมือนไปทำบุญหลายร้อยวัด”
สำหรับท่านที่สนใจจะแต่งงานแล้วได้บุญ หนุนชีวิตคู่ ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่แผนกรับจอง อาคารพิธีสงฆ์ โรงพยาบาลสงฆ์ ได้ทุกวันตั้งแต่เวลา 06.30-16.30 น. โทร.0-2354-4271-2 หรือ 0-2640-9537, 0-2354-4310 ต่อ 3501, 3502