เรื่องที่ 91 พลังใจ
ช่วงนี้มีหลายเรื่องทำให้เราสับสน สับสนด้วยเพราะความปัจจุบันทันด่วนต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จนเกิดความรู้สึก "ช็อก" เมื่อแรกรับรู้
หนุ่มน้อยญี่ปุ่นที่ชื่นชอบกับการพักผ่อนในรูปแบบการท่องเที่ยว คงไม่คิดว่าการเที่ยวของเขาจะนำพาไปซึ่งจุดจบของชีวิต เพื่อสนองความกระหายในกิเลสของมนุษย์ด้วยกัน
เช่นเดียวกับหลายคน ที่ถูกจับกุมในกลุ่มผู้ชุมนุมประท้วงหน้าอำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส ไม่คิดว่าการเดินออกจากบ้านเช้าวันนั้น จะเป็นการจากครอบครัวอย่างไม่มีวันกลับ
ทุกเหตุการณ์ทิ้งไว้แต่ความรู้สึกสับสนในใจของคนใกล้ชิด รอเพียงเวลาที่จะรักษาบาดแผลในใจให้หายสนิท แผลจะแห้งช้าหรือเร็ว แห้งแล้วจะเป็นรอยแผลเป็นใหญ่หรือเล็ก ขึ้นอยู่กับพลังใจของแต่ละคน
คนเราจะสามารถชนะอุปสรรคขวากหนามที่อยู่เบื้องหน้าได้ ขั้นแรกสุดต้อง "ชนะใจ" ตัวเองก่อน จึงขึ้นอยู่ว่าคนคนนั้นจะมีจิต
ใจที่เข้มแข็งต่อเรื่องราวๆ ต่างๆ ที่มากระทบมากน้อยเพียงใด
โลกของคนบ้าส่วนหนึ่ง เพราะปฎิเสธการรับรู้ความจริงที่แสนเจ็บปวด ด้วยเพราะใจที่อ่อนแอจนเกินไป (หรือโลกโหดร้ายจนเกินไป)
ตรงกันข้ามกับ โลกอันแสนสดใสของคนบางคน ด้วยเพราะเพียง "พลังใจ" ที่มีแต่ความเชื่อมั่นว่าจะสามารถฝันฝ่าอุปสรรคที่อยู่เบื้องหน้าได้ แม้จะมีเสียงทัดทานจากซอกลึกของหัวใจก็ตามที
ช่วงนี้โลกเรากำลังอ่อนแออยู่หรือเปล่าครับ เหมือนกับเมื่อร่างกายเราอ่อนแอ ไม่มีภูมิต้านทานโรค เชื้อโรคร้ายเข้าสู่ร่างกายเราได้โดยง่าย
แต่หากร่างกายเราแข็งแรงแล้ว ไม่ว่าจะมีการแพร่ระบาดเชื้อโรครุนแรงอย่างไร ก็ไม่สามารถเข้าสู่ร่างกายเราได้ครับ
ทุกเช้าผมตื่นขึ้นมาพร้อมกับการรับรู้เรื่องราวความเป็นไปของโลกในรูปแบบของข่าว และสถานการณ์ปัจจุบัน มีบางข่าวที่ผมฟังแล้ว ไม่เห็นด้วย เพราะมนุษย์เรามีสิทธิแสดงความคิดเห็นคัดค้านได้ ตามหลักว่าด้วยเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น เช่น ข่าวเกี่ยวกับการสร้างพลังศรัทธา และ"พลังชีวิต" ที่เป็นที่ฮือฮาในช่วงปลายปีนี้ ถึงขนาดมีการพูดไปไกลว่า จะหันเหให้คนไทยเปลี่ยนศาสนาในช่วงที่ศาสนาพุทธกำลังมีปัญหา ในข่าวเชิงลบเกี่ยวกับพระสงฆ์มากมาย
โดยเฉพาะใช้พรีเซนเตอร์ที่ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานและครอบครัว และเป็นที่ชื่นชอบของวัยรุ่นมาเชิญชวนคนรุ่นใหม่
ผมฟังแล้วให้ไม่เห็นด้วยครับ ด้วยเพราะเหตุผลหลักและง่ายๆ คือ เมื่อเรารู้ว่าเรากำลังเผชิญกับวิกฤตศรัทธาอยู่ ทำไมเราไม่หาต้นตอของปัญหา เพื่อแก้ปัญหานั้น มากกว่าที่จะคอยปิดปัญหา พร้อมกับสร้างวงล้อมแบบหนีปัญหา
ยิ่งเราสามารถสร้างความมั่นใจให้กับคนของเราได้แล้ว ต่อให้ดีกว่า ใหม่กว่า น่าท้าทายกว่า ไม่จำเป็นต้องกลัวครับ
เริ่มต้นธรรมชาติของมนุษย์ที่ชอบท้าทาย อาจลองสืบค้นดู เมื่อเขาเชื้อเชิญให้สัมผัส แต่เมื่อสัมผัสดูแล้ว ต้องมีการเปรียบเทียบ และของเก่าย่อมได้เปรียบกว่าอยู่แล้วอย่างแน่นอน เพียงแต่ว่าจิตใจของคนคนนั้นกำลังหาที่พึ่ง "กำลังใจ" ที่มั่นคงกว่าอยู่ เพราะสิ้นหวังกับสิ่งที่เป็นอยู่
แม้แต่ผู้ใหญ่ยังกลัวไปตามกระแส คนเล็กไม่ยิ่งหวั่นไหวตามหรือครับ
พลังใจตอนนี้สำคัญที่สุด เรียกสติกลับมา เพื่อก่อให้เกิดปัญญาในการแก้ปัญหา จะดีกว่าและสวยงามกว่า
เช่นนี้จึงถือเป็นการแก้ปัญหาอย่างยั่งยืนครับ
ช่วงนี้มีหลายเรื่องทำให้เราสับสน สับสนด้วยเพราะความปัจจุบันทันด่วนต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จนเกิดความรู้สึก "ช็อก" เมื่อแรกรับรู้
หนุ่มน้อยญี่ปุ่นที่ชื่นชอบกับการพักผ่อนในรูปแบบการท่องเที่ยว คงไม่คิดว่าการเที่ยวของเขาจะนำพาไปซึ่งจุดจบของชีวิต เพื่อสนองความกระหายในกิเลสของมนุษย์ด้วยกัน
เช่นเดียวกับหลายคน ที่ถูกจับกุมในกลุ่มผู้ชุมนุมประท้วงหน้าอำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส ไม่คิดว่าการเดินออกจากบ้านเช้าวันนั้น จะเป็นการจากครอบครัวอย่างไม่มีวันกลับ
ทุกเหตุการณ์ทิ้งไว้แต่ความรู้สึกสับสนในใจของคนใกล้ชิด รอเพียงเวลาที่จะรักษาบาดแผลในใจให้หายสนิท แผลจะแห้งช้าหรือเร็ว แห้งแล้วจะเป็นรอยแผลเป็นใหญ่หรือเล็ก ขึ้นอยู่กับพลังใจของแต่ละคน
คนเราจะสามารถชนะอุปสรรคขวากหนามที่อยู่เบื้องหน้าได้ ขั้นแรกสุดต้อง "ชนะใจ" ตัวเองก่อน จึงขึ้นอยู่ว่าคนคนนั้นจะมีจิต
ใจที่เข้มแข็งต่อเรื่องราวๆ ต่างๆ ที่มากระทบมากน้อยเพียงใด
โลกของคนบ้าส่วนหนึ่ง เพราะปฎิเสธการรับรู้ความจริงที่แสนเจ็บปวด ด้วยเพราะใจที่อ่อนแอจนเกินไป (หรือโลกโหดร้ายจนเกินไป)
ตรงกันข้ามกับ โลกอันแสนสดใสของคนบางคน ด้วยเพราะเพียง "พลังใจ" ที่มีแต่ความเชื่อมั่นว่าจะสามารถฝันฝ่าอุปสรรคที่อยู่เบื้องหน้าได้ แม้จะมีเสียงทัดทานจากซอกลึกของหัวใจก็ตามที
ช่วงนี้โลกเรากำลังอ่อนแออยู่หรือเปล่าครับ เหมือนกับเมื่อร่างกายเราอ่อนแอ ไม่มีภูมิต้านทานโรค เชื้อโรคร้ายเข้าสู่ร่างกายเราได้โดยง่าย
แต่หากร่างกายเราแข็งแรงแล้ว ไม่ว่าจะมีการแพร่ระบาดเชื้อโรครุนแรงอย่างไร ก็ไม่สามารถเข้าสู่ร่างกายเราได้ครับ
ทุกเช้าผมตื่นขึ้นมาพร้อมกับการรับรู้เรื่องราวความเป็นไปของโลกในรูปแบบของข่าว และสถานการณ์ปัจจุบัน มีบางข่าวที่ผมฟังแล้ว ไม่เห็นด้วย เพราะมนุษย์เรามีสิทธิแสดงความคิดเห็นคัดค้านได้ ตามหลักว่าด้วยเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น เช่น ข่าวเกี่ยวกับการสร้างพลังศรัทธา และ"พลังชีวิต" ที่เป็นที่ฮือฮาในช่วงปลายปีนี้ ถึงขนาดมีการพูดไปไกลว่า จะหันเหให้คนไทยเปลี่ยนศาสนาในช่วงที่ศาสนาพุทธกำลังมีปัญหา ในข่าวเชิงลบเกี่ยวกับพระสงฆ์มากมาย
โดยเฉพาะใช้พรีเซนเตอร์ที่ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานและครอบครัว และเป็นที่ชื่นชอบของวัยรุ่นมาเชิญชวนคนรุ่นใหม่
ผมฟังแล้วให้ไม่เห็นด้วยครับ ด้วยเพราะเหตุผลหลักและง่ายๆ คือ เมื่อเรารู้ว่าเรากำลังเผชิญกับวิกฤตศรัทธาอยู่ ทำไมเราไม่หาต้นตอของปัญหา เพื่อแก้ปัญหานั้น มากกว่าที่จะคอยปิดปัญหา พร้อมกับสร้างวงล้อมแบบหนีปัญหา
ยิ่งเราสามารถสร้างความมั่นใจให้กับคนของเราได้แล้ว ต่อให้ดีกว่า ใหม่กว่า น่าท้าทายกว่า ไม่จำเป็นต้องกลัวครับ
เริ่มต้นธรรมชาติของมนุษย์ที่ชอบท้าทาย อาจลองสืบค้นดู เมื่อเขาเชื้อเชิญให้สัมผัส แต่เมื่อสัมผัสดูแล้ว ต้องมีการเปรียบเทียบ และของเก่าย่อมได้เปรียบกว่าอยู่แล้วอย่างแน่นอน เพียงแต่ว่าจิตใจของคนคนนั้นกำลังหาที่พึ่ง "กำลังใจ" ที่มั่นคงกว่าอยู่ เพราะสิ้นหวังกับสิ่งที่เป็นอยู่
แม้แต่ผู้ใหญ่ยังกลัวไปตามกระแส คนเล็กไม่ยิ่งหวั่นไหวตามหรือครับ
พลังใจตอนนี้สำคัญที่สุด เรียกสติกลับมา เพื่อก่อให้เกิดปัญญาในการแก้ปัญหา จะดีกว่าและสวยงามกว่า
เช่นนี้จึงถือเป็นการแก้ปัญหาอย่างยั่งยืนครับ