หลายคนคงเคยเห็นและคุ้นเคยกับธรรมาสน์แบบธรรมดาที่พระสงฆ์ ใช้นั่งแสดงพระธรรมเทศนาในงานบุญพิธีต่างๆ เช่น งานเทศน์มหาชาติ เป็นต้น ซึ่งเป็นธรรมาสน์แบบที่นั่งเดี่ยว แต่สำหรับธรรมาสน์ที่นำมาบอก เล่ากันในครั้งนี้เป็นธรรมาสน์แบบยาวที่เชื่อว่าไม่ค่อยมีโอกาสได้พบเห็นกันนัก เพราะปัจจุบันไม่มีใครใช้กันแล้ว และหลายคนที่อาจจะเคยพบเห็นในวัดวาอารามบางแห่งที่ยังคงเก็บรักษาไว้ ก็ไม่รู้ว่าสิ่งนี้คืออะไร
ธรรมาสน์แบบยาวนี้ บางทีก็เรียกกันว่า “เตียงสวด” หรือ “สังเค็ด” คำว่า สังเค็ดนี้ หมายถึง วัตถุสิ่งของต่างๆ ที่ชาวบ้านนำมาถวายพระ เพื่อเป็นทานวัตถุอุทิศให้ กับผู้ตาย หรือถวายเพื่อเป็นการทำบุญ
สังเค็ดหรือธรรมาสน์ยาวนี้ จัดเป็นธรรมาสน์ยอดแบบหนึ่ง คือ มียอดเป็นบุษบกหรือยอดปราสาท แต่มีหลังคายาวเป็นแบบหลังคาปราสาทซ้อนเป็นชั้น คล้ายหลังคาพระวิหารหรือพระอุโบสถ พระสงฆ์สามารถ นั่งเรียงกันได้ประมาณ ๔ รูป โดยทั่วไปแล้วมักใช้สำหรับพระ ๒ รูปขึ้นไปในการเทศน์แบบปุจฉาวิสัชนากัน
สำหรับธรรมาสน์ยาวที่นำมาให้ดูนี้ หมายเลข ๑ เป็นธรรมาสน์ศิลปะแบบอยุธยา แกะสลักลวดลายและประดับกระจกอย่างวิจิตร ลวดลายด้านข้าง แบ่งเป็นช่องๆ อยู่ในกรอบสี่เหลี่ยมและกระจังด้านข้างโดยรอบทำให้คนดูว่ามีฐานแอ่นโค้งอย่างท้องเรือสำเภา ธรรมาสน์นี้เดิมอยู่ที่วัดใหญ่สุวรรณาราม จังหวัดเพชรบุรี แต่ปัจจุบันจัดแสดงอยู่ ในพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติพระนคร ส่วนหมายเลข ๒ เป็นธรรมาสน์ยาวศิลปะรัตนโกสินทร์ ตั้งอยู่ที่วัดราชาธิวาส เขตดุสิต กทม. ซึ่งจำลองมาจากธรรมาสน์ที่วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ จ.พิษณุโลก
นอกจากนี้ ยังพบสังเค็ดที่น่าสนใจตามวัดหลายแห่ง เช่น วัดรวกสุทธาราม ถนนจรัลสนิทวงศ์ เขตบางกอกน้อย กทม.,วัดบางขุนเทียนนอก เขตจอมทอง กทม.,วัดเชิงท่า ตำบลท่าวาสุกรี จ.พระนครศรีอยุธยา และวัดพระธาตุลำปางหลวง อ.เกาะคา จ.ลำปาง เป็นต้น