จากผลของนิด้าโพลล่าสุดในภาคใต้ ปรากฏว่าพรรคประชาธิปัตย์นำพรรคภูมิใจไทยและพรรคประชาชน ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าความนิยม ปชป.ที่หายไปได้กลับมาแล้ว และเชื่อว่าจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในภาคใต้ หรือแม้กระทั่งในกรุงเทพฯ ซึ่งเคยเป็นฐานทางการเมืองของ ปชป.ในอดีต ทั้งนี้อนุมานจากเหตุปัจจัยดังต่อไปนี้
1. ปชป.ได้มีการเปลี่ยนผู้นำโดยการเลือกอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ กลับมาอีกครั้ง และการกลับมาในครั้งนี้ได้มีการฟื้นฟูอุดมการณ์เดิมของพรรคกลับมา พร้อมกับเปิดรับคนรุ่นใหม่เข้ามาช่วยกันพัฒนาพรรค
2. พรรคภูมิใจไทยและพรรคประชาชนได้ตกต่ำลง โดยที่พรรคภูมิใจไทยตกต่ำเนื่องจากแก้ปัญหาน้ำท่วมหาดใหญ่ไม่เป็นที่ประทับใจของประชาชน เนื่องจากล่าช้าและไม่ทั่วถึงทำให้เกิดความเสียหายมากเหมือนไม่มีรัฐบาล ส่วนพรรคประชาชนได้ตกต่ำเนื่องจากคำพูดด้อยค่ากองทัพ และครั้นเกิดปัญหาขัดแย้งชายแดนกับเขมร กองทัพได้แสดงให้เห็นถึงศักยภาพทั้งในการสู้รบและให้การช่วยเหลือประชาชน ในขณะที่คนของพรรคนี้มิได้มีบทบาทใดๆ ในการช่วยเหลือประชาชน จึงทำให้หลายคนที่เคยเลือกพรรคนี้ออกมาแสดงความเห็นในทางลบต่อพรรคนี้ ทำให้ประชาชนถอนตัวออกห่างและหันไปนิยมพรรคประชาธิปัตย์
จากผลโพลที่เกิดขึ้นในภาคใต้ เชื่อได้ว่าจะเกิดขึ้นในที่อื่นซึ่งเคยเป็นฐานทางการเมืองของพรรคประชาธิปัตย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรุงเทพฯ
ถ้าข้ออนุมานนี้ถูกต้องในการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในต้นปี 2569 พรรคประชาธิปัตย์คงจะได้รับเลือกเพิ่มขึ้น ทั้งในภาคใต้และในกรุงเทพฯ ถ้าเป็นเช่นนี้ก็แปลว่า พรรคประชาชนซึ่งเป็นพรรคที่อาศัยกระแสในทำนองเดียวกันกับพรรคประชาธิปัตย์ คงจะได้รับเลือกน้อยลง
แต่พรรคภูมิใจไทยจะได้เพิ่มขึ้นจากการที่พรรคเพื่อไทยต่ำลง เพราะทั้งสองพรรคนี้อาศัยกระสุนในการเลือกตั้งทำนองเดียวกัน ดังนั้น ส่วนที่พรรคเพื่อไทยเสียไปก็คือส่วนที่พรรคภูมิใจไทยได้มา โดยเฉพาะในภาคอีสาน
จากเหตุปัจจัยดังกล่าวข้างต้น พรรคที่มีโอกาสเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล ก็คงจะเป็นพรรคภูมิใจไทย ส่วนพรรคเพื่อไทยและพรรคประชาธิปัตย์มีโอกาสเป็นรัฐบาล แต่ถ้าให้พรรคเพื่อไทยเข้าร่วมกับพรรคประชาธิปัตย์คงไม่เข้าร่วม เพราะพฤติกรรมองค์กรของพรรคเพื่อไทยภายใต้การชี้นำของอดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร กับพฤติกรรมองค์กรของพรรคประชาธิปัตย์ภายใต้การนำของอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ไม่สอดคล้องกัน
แต่ถ้าพรรคเพื่อไทยไม่เข้าร่วม พรรคประชาธิปัตย์อาจเข้าร่วม และผู้นำพรรคประชาธิปัตย์คงจะได้รับตำแหน่งประธานสภาฯ
ส่วนพรรคประชาชนถึงแม้จะได้รับเลือกเข้ามาเป็นอันดับหนึ่ง ถ้าไม่ได้เกิน 250 รับรองได้ว่าเป็นฝ่ายค้านค่อนข้างแน่นอน เพราะหาพันธมิตรทางการเมืองมาร่วมเป็นรัฐบาลได้ยาก ที่พอจะเข้ากันได้ก็มีพรรคเพื่อไทย แต่ถ้าสองพรรครวมกันแล้วไม่ได้คะแนนมากจะทำให้มั่นใจได้ว่ามีเสถียรภาพทางการเมืองเชื่อได้ว่า พรรคเพื่อไทยก็ไม่ยอมเสียเพราะมีโอกาสล้มได้ เว้นไว้แต่ว่าพรรคประชาชนจะเปลี่ยนจุดยืนเกี่ยวกับกองทัพ และสถาบันเบื้องสูง
แต่ในขั้นนี้ฟันธงไว้ก่อนว่า พรรคประชาชนเป็นฝ่ายค้านและพรรคภูมิใจไทยได้เป็นแกนนำรัฐบาลค่อนข้างแน่นอน ส่วนพรรคร่วมจะเป็นพรรคไหนบ้างขึ้นอยู่กับการต่อรอง และเงื่อนไขทางการเมืองของแต่ละพรรค
ในความเห็นส่วนตัวของผู้เขียน อยากให้พรรคประชาธิปัตย์เป็นฝ่ายค้าน เพื่อสร้างบรรทัดฐานทางการเมืองในการทำหน้าที่ฝ่ายค้าน และสะสมคะแนนนิยมไว้เป็นทุนทางสังคมสำหรับการเลือกตั้งครั้งต่อไป
ถ้าทำได้เชื่อว่าโอกาสได้รับเลือกในโอกาสหน้าเพิ่มขึ้น และความเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลอยู่ไม่ไกล
แต่ถ้าเข้าร่วมรัฐบาลถ้าดูจากปัจจัยแวดล้อมทางการเมืองในขณะนี้แล้ว คงหนีไม่พ้นคำว่า ลงเรือลำเดียวกับโจร


