xs
xsm
sm
md
lg

ชีวิตนี้น้อยนัก : เมื่อเราพบคนใกล้ชิดคิดฆ่าตัวตาย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: รศ.ดร.อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์



รองศาสตราจารย์ ดร.อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์
สาขาวิชาสถิติศาสตร์
สาขาวิชาพลเมืองวิทยาการข้อมูล
สาขาวิชาวิทยาการประกันภัยและการบริหารความเสี่ยง
คณะสถิติประยุกต์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์


แท้จริงแล้วผมเรียนจบปริญญาโททางจิตวิทยาอุตสาหกรรมและองค์การ (Industrial and organizational psychology) จากคณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และเรียนจบปริญญาเอกทางด้านจิตมิติและจิตวิทยาเชิงปริมาณ (Psychometrics and quantitative psychology) จาก Fordham University สหรัฐอเมริกา แต่กลับมาสอนสถิติศาสตร์ วิทยาการข้อมูล วิเคราะห์ธุรกิจ และวิทยาการประกันภัยและการบริหารความเสี่ยง ถ้าจะว่าตามเนื้อผ้า เรื่องโรคซึมเศร้าหรือการฆ่าตัวตาย ไม่ใช่ความชำนาญอะไรของผม เพียงแต่ได้เรียนมาบ้าง ได้อ่านมาบ้าง ได้ศึกษามาบ้าง เพราะศึกษาอยู่ในภาควิชาจิตวิทยามาหลายปี

เมื่อสิบปีก่อน ผมได้เขียนบทความ กระบวนการเจรจาที่ล้มเหลว ตำรวจไทยไม่เข้าใจจิตวิทยาในการเกลี้ยกล่อม ดร วันชัย ไม่ให้ฆ่าตัวตาย ทำให้คนสงสัยกันมากว่าผมเองมีความรู้ทางจิตวิทยาหรือไม่ คำตอบก็คงต้องตอบว่าพอมีครับ

ที่เขียนบทความนี้เกิดจากกรณีของน้องนักข่าวคนหนึ่ง ณ เวลานี้ตำรวจคงต้องสืบสวนสอบสวนกันต่อ และวางรูปคดีให้ชัดเจน แต่น้ำหนักน่าจะไปทางการฆ่าตัวตายด้วยสารพิษคือไซยาไนด์ ทำไมผมถึงเขียนบทความนี้ ต้องพูดโดยตรงว่า มีประสปการณ์ตรงในการสูญเสียเพื่อนและพี่ไปหลายคนจากโรคซึมเศร้าและความพยายามฆ่าตัวตายและการฆ่าตัวตาย หรือจะพูดตรง ๆ คือ ผมเคยล้มเหลวในการพยายามช่วยคนที่ป่วยเป็นโรคซึมเศร้าและพยายามฆ่าตัวตายมาด้วยตัวเอง และมีอย่างน้อยหนึ่งกรณีที่ผมเองไม่กล้าแม้แต่จะเข้าไปพูดหรือเข้าไปช่วยด้วยสาเหตุบางประการ จึงอยากจะเขียนบทความนี้เพื่อถ่ายทอดประสปการณ์ตรง เผื่อว่าจะเป็นประโยชน์กับคนที่ต้องใกล้ชิดกับผู้ป่วยโรคซึมเศร้าที่คิดจะฆ่าตัวตาย อาจจะคลี่คลายหรือแก้ไขได้ทันได้

จากคลิปบันทึกด้วยกล้องในบ้านที่เกิดเหตุ ที่นำมาเผยแพร่โดยพุทธอภิวรรณ ทางช่อง 8 และจากหลักฐานเท่าที่ปรากฎนี้ ผมขอแสดงความคิดเห็นดังนี้ครับ

ความรักเป็นสิ่งที่สวยงาม แต่ก็เปราะบางมากที่สุด
คำพูดเพียงเล็กน้อยอาจจะทำร้ายจิตใจกันอย่างรุนแรง
คนเราเมื่อยังมีชีวิตอยู่ให้ดีต่อกัน เพราะเราไม่มีทางทราบได้ว่าใครจะจากไปก่อน และจะจากไปเมื่อไหร่
ชีวิตนี้น้อยนัก เปราะบางยิ่งนัก

ต้องดำรงชีวิตด้วยสติคือความตื่นรู้เท่าทัน
รักหนอ ทุกข์หนอ สุขหนอ เสียใจหนอ หากกำหนด มีสติ ไม่ปรุงแต่ง จนเกิดสัญญา จนเกิดเวทนา จนเกิดโศกะ จนเกิดปริเวทะ จะไม่นำมาสู่การสูญเสีย
หากแม้นต้องจากกันไป ก็ขอให้เหลือไว้แต่ความทรงจำที่ดี
การประชดรักด้วยความตาย สร้างแผลในใจให้กับอีกฝ่ายไปชั่วชีวิต ไม่เกิดประโยชน์กับใครเลย

เรื่องทำนองนี้ผมเคยได้ประสบมาก่อนด้วยตนเอง เพื่อนที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยสองคน เป็นแฟนกัน ฝ่ายชายตื่นเช้ามาบอกกับพี่ชายตนเองว่าจะไปทวงคืนของที่รักที่สุดในชีวิตคืนให้ได้ แล้วขับรถเข้ากรุงเทพ ไปขอนัดพบฝ่ายหญิงที่เพิ่งบอกเลิกกันไป นัดกินข้าวกันใจกลางกรุงเทพ

ฝ่ายชายไปนัดพบฝ่ายหญิง ขอคืนดี ขอกลับมาเป็นแฟนกัน แต่ฝ่ายหญิงบอกว่าเป็นเพื่อนกันดีกว่า
ฝ่ายชายบอกว่า ไม่มีปัญหา ให้เราไปส่งนะ
ฝ่ายหญิงเดินขึ้นรถนั่งข้างฝ่ายชายที่เป็นคนขับ
ฝ่ายชาย พูดว่า เรามีของจะให้ ขอเปิดกระโปรงรถหยิบของให้
ฝ่ายชายไปเปิดกระโปรงท้ายรถทำทีจะหยิบของเข้ามาให้ฝ่ายหญิง
แล้วกระโดดฆ่าตัวตายจากที่จอดรถอาคารสูง
ฝ่ายหญิงนั่งอยู่ในรถ แล้วได้ยินเสียง ต้องวิ่งลงไปดูใจฝ่ายชายที่ชั้นล่าง

ผมได้ทราบข่าวด้วยความร้าวรานใจยิ่ง สงสารคนที่อยู่ที่ต้องมีแผลในใจและรู้สึกผิดไปตลอดชีวิต เสียใจที่สูญเสียเพื่อนที่รักมากไปคนหนึ่ง

ผมรีบไปวัดทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้เพื่อนที่จากไปด้วยความเสียใจเป็นอย่างยิ่ง

พ่อแม่ของครอบครัวผู้เสียชีวิตคงร้าวรานใจ ใจสลายมากยิ่งกว่าที่ผมร้าวรานใจเป็นหลายเท่า

ชีวิตนี้น้อยนัก แต่สำคัญนัก

สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณสังวร เคยทรงพระนิพนธ์ไว้ เป็นเช่นนั้นจริง ๆ

สำหรับกรณีน้องนักข่าว ผมได้ฟังคลิป ได้รับทราบข้อมูลบางประการ ทำให้จับความรู้สึกหรือความคิดของผู้เสียชีวิตได้บ้างว่า แท้จริงแล้วผู้เสียชีวิตมี suicidal ideation คือมีความคิดฆ่าตัวตายมานานแล้ว และน่าจะป่วยเป็นโรคซึมเศร้ามาก่อน จากความสัมพันธ์ที่ระหองระแหงไม่ราบรื่น หรือสาเหตุอื่นใด ก็ตามแต่

การที่ผู้เสียชีวิตจัดหาไซยาไนด์มาเตรียมไว้ เป็นการเรียกร้องความสนใจ (Demand attention) จากคนใกล้ชิด ที่หากคนใกล้ชิดสะกิดใจจะต้องรีบพาไปพบจิตแพทย์เพื่อรักษาให้ทันได้ ไม่ว่าจะรักษาได้ผลหรือไม่ก็ตาม

กรณีนี้ผมคิดว่าไม่ใช่แค่เมา และไม่ได้เป็นอารมณ์ชั่ววูบ แต่น่าจะไตร่ตรองเตรียมการไว้ก่อนมานานแล้ว

คนปกติจะไม่นำยาพิษที่อันตรายมาก ใช้ในการ suicide ได้มาเก็บไว้ใกล้ตัวเป็นอันขาด

หากได้รับการรักษาที่ถูกต้อง และทันเวลา เช่น ได้รับยาต้านซึมเศร้า (anti-depressant) เพื่อปรับสมดุลของเคมีในสมอง หรือจิตบำบัดทางความคิด (Cognitive behavior therapy: CBT) อย่างถูกต้องเหมาะสม อาจจะช่วยเหลือได้ทัน ไม่เกิดการสูญเสีย

ทั้งนี้การมีความคิดเกี่ยวกับการฆ่าตัวตาย (Suicidal ideation) นำไปสู่ความพยายามฆ่าตัวตาย (Commit suicide) และท้ายที่สุดการพยายามฆ่าตัวตายนั้นสำเร็จ และเกิดการสูญเสียจริง ๆ

คนใกล้ตัวผู้ที่ป่วยด้วยโรคซึมเศร้า ต้องมีความละเอียดอ่อน และไวต่อความรู้สึกของผู้ป่วย จะช่วยได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อจับสัญญาความคิดเกี่ยวกับการฆ่าตัวตายได้ ต้องรีบดำเนินการหรือเข้าไปช่วยเหลือหากทำได้

ความคิดที่จะฆ่าตัวตาย (Suicidal ideation) เป็นสิ่งที่เป็นสัญญาณอันตรายมากว่าคนนั้นน่าจะซีมเศร้าหนัก (Severe depression) และอาจจะพยายามฆ่าตัวตาย (Commit suicide)

คนรอบข้างต้องสังเกตครับ การที่น้องนักข่าว เก็บไซยาไนด์ไว้ ไปหามาไว้ และพูดตัดพ้อสารพัดในโพสต์ มีการร่ำลา นั่นเป็นสิ่งที่แสดงว่า น้องมีความคิดเรื่องฆ่าตัวตายหรือ suicidal ideation อยู่แล้ว แต่คนใกล้ชิดกลับไม่สังเกตเห็น

ผมเองเคยมีความรู้สึกผิดมากในเรื่องนี้เกิดขึ้น

พี่สาวที่สนิทกันมาก โพสต์บน Facebook ผมอ่านแล้วเข้าใจได้ทันทีว่ามี suicidal ideation และผมก็ทราบประวัติการรักษาโรคซึมเศร้าของพี่เขาเป็นอย่างดี ทราบว่าเคยต้องไปช็อกไฟฟ้าเพื่อรักษาโรคซึมเศร้ามาแล้วด้วยแต่ไม่ได้ผล

คืนนั้น ผมกระวนกระวายมาก อยากจะโทรไปคุยด้วย เพราะผมคิดไว้ว่าคืนนั้น พี่เขาน่าจะ commit suicide แต่ผมก็ไม่กล้าจะโทรไปเพราะ

หนึ่ง พี่เขาเป็นผู้หญิง ผมเป็นผู้ชาย เขาจะไม่กล้าเล่าตรง ๆ ถ้าเป็นเพื่อนผู้หญิงไปหาพี่เขาได้ก็คงดีกว่าแน่

สอง ความเป็นน้อง ปกติ พี่เขามีแต่จะปกป้องผม พี่เขาคงไม่ได้อยากให้ผมเข้าไปดูแลใจอะไร เพราะปกติ พี่เขาเป็นคนดูแลผมมากกว่า

สรุปคือ คืนเกิดเหตุนั้น ผมกระวนกระวายใจมาก กังวลว่าพี่เขาจะ commit suicide ได้แต่สวดมนต์ภาวนาให้พี่เขาผ่านคืนนั้นไปได้

แต่ปาฏิหาริ์ย์ไม่มีจริง พี่เขาไม่ผ่านคืนนั้น เช้ามาผมก็ได้รับทราบข่าวร้ายด้วยใจอันร้าวราน และรู้สึกผิด ที่ผมเองจับความคิดที่จะฆ่าตัวตายของพี่เขาได้อย่างชัดเจน และรู้ว่าจะไม่พ้นคืนนั้น แต่ผมไม่กล้าโทรไป

ผ่านไปสองสามวัน หลังจากผมเริ่มยอมรับได้และไม่ได้รู้สึกผิดมากแล้ว ผมไปงานศพพี่เขาครับ และได้ไปพบเพื่อนสนิทพี่เขาที่เรียนมัธยมมาด้วยกัน

เย็นนั้นหลังจากได้อ่าน Facebook โพสต์ที่มีความคิดจะฆ่าตัวตายของพี่สาว พี่คนนี้ ขับรถจากกรุงเทพ ออกไปเยี่ยมพี่เขา พาไปกินไอศครีม พูดคุยด้วยให้ปรับทุกข์หลายชั่วโมง แล้วกลับมาส่งที่หอพัก

เพราะพี่่ที่เป็นเพื่อนสนิทพี่เขาก็อ่านโพสต์บน Facebook และจับความคิดเกี่ยวกับการฆ่าตัวตายได้อย่างชัดเจนเช่นกัน และได้ทำหน้าที่เพื่อนสนิทอย่างดีที่สุดแล้ว แต่ไม่ประสบผลแม้จะได้พยายามอย่างที่สุดแล้วก็ตาม

ชีวิตนี้น้อยนัก หากเราทำดีต่อกันในนาทีสุดท้าย ก่อนจะจากกัน อย่างน้อยก็จะไม่รู้สึกผิด และเก็บไว้แต่ความทรงจำที่ดีครับ ถึงเราจะช่วยไม่ได้หรือช่วยแล้วไม่สำเร็จ เราก็ได้ทำหน้าที่สุดท้ายของความเป็นเพื่อนมนุษย์ที่ดีให้เขาจากไปอย่างดีที่สุด

แม้มนุษย์เรามีสิทธิและเสรีภาพที่จะเลือกว่าจะมีชีวิตอยู่ต่อไปหรือไม่ก็ตาม แต่การเดินทางครั้งสุดท้าย คนเราควรต้องจากกันไปด้วยความรู้สึกและความทรงจำที่ดีต่อกัน

สำหรับคนที่ยังอยู่ และกำลังเป็นผู้เสียใจอย่างยิ่งต่อการสูญเสีย ไม่ว่าจะเป็นพ่อแม่หรือญาติพี่น้องของผู้เสียชีวิต หรือแม้กระทั่งแฟนหรือคนรักของผู้เสียชีวิตเอง ในเวลานี้ย่อมต้องการกำลังใจประคับประคองให้ผ่านช่วงเวลาอันทุกข์ท้นและความรู้สึกผิดในใจหรือแผลในใจที่หาได้ลบเลือนออกไปได้โดยง่าย


กำลังโหลดความคิดเห็น