xs
xsm
sm
md
lg

จาก Henry Ford ผู้ทำให้หาดใหญ่เติบโต มาจน Digital disruption ผู้ทำลายล้างหาดใหญ่

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: รศ.ดร.อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์



รศ.ดร.อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์
สาขาวิชาสถิติศาสตร์
สาขาวิชาพลเมืองวิทยาการข้อมูล
สาขาวิชาวิทยาการประกันภัยและการบริหารความเสี่ยง
คณะสถิติประยุกต์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์


หาดใหญ่นี่เดิมเป็นป่าพรุ เต็มไปด้วยต้นเสม็ด คนโบราณไม่ตั้งถิ่นฐานในพื้นที่อย่างนี้ครับ เป็นที่ต่ำมาก เหมือนกับแม่สายนั่นแหละครับ เป็น alluvial plain โบราณสถาน โบราณวัตถุ จะไปอยู่ทางสงขลาหมดครับ เพราะเป็นที่สูงริมทะเล

หาดใหญ่คือทาง floodway ของน้ำลงทะเลสาบสงขลาครับ มนุษย์แต่โบราณมีปรีชาญาณไม่เอาชีวิตมาเสี่ยงตั้งบ้านเรือนในที่ต่ำ ทางน้ำป่าท่วมหนักขนาดนี้ครับ
แต่แล้ว Henry Ford ก็ทำให้หาดใหญ่เจริญครับ
Henry Ford เป็นลูกน้องของ Thomas Elva Edison และหมกมุ่นกับการผลิตรถยนต์ให้ถูกที่สุด จนเกิดการพัฒนาสายพานการผลิตหรือ assembly line ในการผลิตรถยนต์ ทำให้ผลิต Ford Model T ได้ในราคาถูกมาก และโรงงานผลิตรถยนต์ในอเมริกาและยุโรปก็เกิดขึ้นมากมายมหาศาลในช่วงสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง ทำให้เกิดความต้องการยางพารามาผลิตยางรถยนต์มหาศาล


หาดใหญ่ เป็นชุมทางรถไฟ แยกเป็นสามสาย สายที่ไปสงขลาเมืองเก่า เลิกไป สายที่ไปสุไหงโกลก และสายที่ไปบัตเตอร์เวิร์ธในมาเลเซีย

การค้ายาง และการปลูกยาง ตามแนวรางรถไฟ และอังกฤษมีอิทธิพลผูกขาดการค้ายางพารา การค้ายางพาราทำให้หาดใหญ่เจริญ เพราะเอายางพารา ขี้ยาง ยางเครป แม้กระทั่งยางแผ่นรมควัน ทั้งหมดมีศูนย์กลางรอบทะเลสาบสงขลา มาขึ้นที่หาดใหญ่ เพื่อลงเรือที่ตรงปากทะเลสาบสงขลา ตรงที่เป็นท่าเรือน้ำลึกสงขลาในทุกวันนี้ ส่งออกไปขายที่สิงคโปร์ เพราะความต้องการยางพาราไปผลิตยางรถยนต์สูงมาก อันนี้คือสาเหตุที่ทำให้เกิดเมืองหาดใหญ่ น่าจะราว 70-80 ปี

หาดใหญ่เกิดจากความพยายามพัฒนาของ Land lord คนจีนแคะ ในเครือข่ายปารานากัน 4-5 คน ซีกิมหยง คนสร้างตลาดกิมหยงเป็นหนึ่งในนั้น และก็อีกคนผมจำชื่อไม่ได้ เป็นต้นตระกูล จิระนคร

หาดใหญ่เริ่มเติบโตเป็นเมืองมหาวิทยาลัย เข้าใจว่า มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ น่าจะเป็นมหาวิทยาลัยภูมิภาค เก่าแก่อันดับสอง รองจากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ที่ดินของมอ. นั้นบริจาคโดยพระยาอรรถกระวีสุนทร และคุณหญิงหลงฯ

แต่หาดใหญ่นั้นกลับเติบโตมาในแบบเมืองชายแดน ที่เต็มไปด้วยของหนีภาษี ซ่อง สถานบันเทิง ชีวิตกลางคืน และบ่อนการพนัน

ผลผลิตมวลรวมจังหวัด (Gross provincial product) ของสงขลานั้น 50% มาจากภาคบริการคือโรงแรม ท่องเที่ยว อาหาร ส่วน 15% คือส่งออกยางพารา นี่คือสภาพปัจจุบัน อันสะท้อนผลพวงจากอดีต ใช่ครับ หาดใหญ่ยังคงเป็นเมืองท่องเที่ยวและเมืองชุมทาง

ที่ตั้งข้อสังเกตุไว้ได้เลยคือ เศรษฐกิจใต้ดิน ไม่ได้บันทึกในบัญชีประชาชาติ (National account) จึงไม่รวมใน GPP และ GDP แน่นอนว่า underground economy ของหาดใหญ่ นั้นไพศาลมหาศาลมาก ผมเชื่อว่ามากกว่าเศรษฐกิจบนดินเสียด้วยซ้ำ สงขลานั้นเป็นจังหวัดที่ GPP สูงเป็นอันดับต้นๆ ของประเทศไทย ไม่น่าจะเกินอันดับสาม แต่มูลค่าเศรษฐกิจใต้ดินเฉพาะในหาดใหญ่ก็สูงกว่ามาก

ที่เศรษฐกิจใต้ดินในหาดใหญ่โตมากนั้นมีหลายสาเหตุ

หนึ่ง โครงสร้างราคาน้ำมันในมาเลเซีย ถูกกว่าในไทย เสียภาษีน้ำมันน้อยกว่า ราคาน้ำมันในมาเลเซียต่ำกว่าไทยมาก ทำให้หาดใหญ่เต็มไปด้วยการค้าน้ำมันเถื่อน

สอง ความเคร่งครัดในศาสนาของอิสลามิกชนในมาเลเซีย ทำให้การกินดื่ม เล่นการพนัน เที่ยวบริการทางเพศ ไม่ได้รับการยอมรับ คนมีเงินทางมาเลเซียต้องมาแสวงหาความสุขในหาดใหญ่

สาม มาเลเซีย มีความก้าวหน้าทางอุตสาหกรรมต่าง ๆ เป็นฐานการผลิตมากกว่าไทย พูดง่าย ๆ มาเลเซียเจริญกว่าไทย ทำให้สินค้าหนีภาษีจากมาเลเซีย ทะลักเข้ามาในไทยทางหาดใหญ่

หนังสือตำนานคนฮกจิวโดย ยุทธิยง ลิ้มเลิศวาที ที่เขียนถึงประวัติศาสตร์ชาวจีนโพ้นทะเลทางใต้ของไทย
ตอนผมเด็กๆ เวลามีใครไปเที่ยวหาดใหญ่ ทุกคนจะเล่าถึงความสนุกสนานของการซื้อของหนีภาษีจากตลาดกิมหยง เครื่องใช้ไฟฟ้าราคาถูก นาฬิกาหนีภาษีราคาถูก และสำหรับเด็กๆ Apple และ Chocolate จากมาเลเซีย ซึ่งแอปเปิ้ลกับผลไม้นอกมาจากทางกิมหยงนั้นเข้ามาทางมาเลเซียอีกที มาจากไหนก็ไม่ทราบ แล้วก็บุหรี่หนีภาษี เหล้าหนีภาษี

หาดใหญ่รุ่งเรืองมากกับ night life บ่อน ซ่อง ร้านอาหาร โรงแรม สิ่งเหล่านี้ขับเคลื่อนเศรษฐกิจของหาดใหญ่ (รวมไปถึงสะเดา)

แต่แล้ว Digital disruption ก็ทำลายหาดใหญ่ลงไปอย่างราบคาบ

หนึ่ง การค้าของเถื่อนหรือของหนีภาษี ถูกทำลายลงอย่างราพนาสูรด้วย platform online เช่น Shopee หรือ Lazada กระทั่งเสื้อผ้าก็เช่น Shein หรือ Temu ของจีน ไม่มีความจำเป็นใดๆ ที่จะต้องไปซื้อของหนีภาษีที่ตลาดกิมหยงอีกต่อไป ตลาดกิมหยงจึงซบเซา แทบจะรกร้าง คนไทยเชื้อสายจีนที่เคยค้าขายมานานในตลาดกิม หยง เริ่มอพยพออก ลูกหลานส่วนใหญ่มาทำงานในกรุงเทพ หลายครอบครัวขายอสังหาริมทรัพย์ในกับคนไทยมุสลิมเข้ามาในตลาดกิมหยงและย่านเหล่านี้ แทน

สินค้าหนีภาษี ที่ยังคงยั่งยืนในหาดใหญ่ มีเพียง น้ำมันเถื่อนและบุหรี่เถื่อน ยังมีมากมายในหาดใหญ่ หาได้ง่ายมาก น้ำมันเถื่อนคือน้ำมันถูก

สอง บ่อนการพนันในหาดใหญ่ และที่สะเดา ซบเซา ลงไปมาก เดิมรับเล่นพนันเป็นเงินริงกิตของมาเลเซีย แต่ทุกวันนี้ไม่จำเป็นต้องมาเล่นที่หาดใหญ่ เล่นในบ้านก็ได้ บ่อนพนันออนไลน์ มีอยู่มากมาย ไม่จำเป็นต้องเข้าบ่อนอีกต่อไป Trend เรื่องการพนันออนไลน์เพิ่มขึ้น และบ่อนแบบเก่า ค่อยๆ หดตัวนั้น เป็นเช่นนี้ไปทั่วโลก แม้กระทั่งในสหรัฐอเมริกา

แต่นายทุนบ่อนในหาดใหญ่เองก็มีการปรับตัวได้เป็นอย่างดี โดยหันมาทำบ่อนการพนันออนไลน์แทน และลามไปถึงการทำกิจการ scammer ด้วย ไม่นานมานี้ มีการจับยึดทรัพย์ นักการเมืองในสงขลาที่ฟอกเงินจากการพนันออนไลน์และ scammer นับพันล้าน นี่คือหลักฐานที่ชัดที่สุด แต่ยังมีทำกิจการแนวนี้อีกมาก

สาม ซ่องและคนงานด้านเพศ (Sex worker) ในหาดใหญ่ ก็ซบเซาลงไปมาก คนงานขายบริการทางเพศ เดินทางไปขายตัวได้ทั่วโลก ด้วย dating application หรือเว็บไซต์ต่าง ๆ ใช่ครับ ขายตัวออนไลน์ แพร่หลายมาก มากจนกระทั่งย่านถนนเพชรบุรีตัดใหม่ ในกรุงเทพ ก็ซบเซาลงไปอย่างเห็นได้ชัด ไม่จำเป็นต้องมีคนกลาง คือ แมงดาคุมซ่อง พ่อเล้า แม่เล้า อีกต่อไป ผู้ซื้อได้พบกับผู้ขายบริการทางเพศ ได้โดยตรง โดยไม่จำเป็นต้องมีคนกลางคอยชักส่วนแบ่งอีกต่อไป และไปเปิดโรงแรม เช่าอพาร์ทเมนท์เพื่อขายบริการทางเพศได้ทั่วมาเลเซีย โดยถือพาสปอร์ตเข้าไปไม่นานแล้วออกมา

นี่คือสาเหตุที่การขายบริการทางเพศในหาดใหญ่ ซบเซาลงไป night life ก็ซบเซา เพราะไม่ต้องเข้ามาซื้อในหาดใหญ่ แต่ซื้อทางออนไลน์แล้วนัดไปเจอตามอพาร์ทเมนต์หรือโรงแรมในมาเลเซียได้โดยตรง พูดง่าย ๆ คนขายบริการทางเพศ ไปขายบริการทางเพศให้โดยตรงในมาเลเซียเอง

เรื่องการค้าบริการทางเพศนี้หาดใหญ่ ยังปรับตัวกับ digital disruption ไม่ได้

เราคงจะเห็นได้ว่า เศรษฐกิจใต้ดินของหาดใหญ่เอง พังพินาศลงไปเพราะ digital disruption บางส่วนของเศรษฐกิจใต้ดินในหาดใหญ่ ปรับตัวมาเป็นเศรษฐกิจใต้ดินทางออนไลน์แทนตามยุคสมัย ส่วนเศรษฐกิจใต้ดินแบบอื่นที่ยังเฟื่องฟูคือการค้ายาเสพติด เช่น ในเขต 8 หาดใหญ่

หาดใหญ่เองต้องปรับตัวอีกมาก เพราะได้รับผลกระทบจาก digital disruption อย่างหนัก และหากปราศจากเศรษฐกิจใต้ดิน หาดใหญ่และสงขลาจะมีเศรษฐกิจซบเซาลงไปในทันที

น้ำท่วมใหญ่ หาดใหญ่ ใน พ.ศ. 2568 นี้คงทำให้คนหาดใหญ่เองเห็นสิ่งที่ไม่เคยเห็น ธุรกิจสีเทาหรือดำคือเส้นเลือดที่หล่อเลี้ยงหาดใหญ่เอง ก็หาใช่ว่าจะยั่งยืน ในส่วนของแหล่งท่องเที่ยว (Tourist destination) ของสงขลาและหาดใหญ่เองก็ไม่ได้โดดเด่นเท่าภาคใต้ฝั่งตะวันตก เช่น ภูเก็ตหรือกระบี่ ที่เติบโตอย่างทะลุฟ้า

เสน่ห์ของหาดใหญ่คืออะไร จะทำเช่นไรให้สงขลาและหาดใหญ่ยังคงรักษา GPP ที่มาจากภาคบริการราว 50% เอาไว้ได้ นั่นคือภาคเศรษฐกิจบนดิน ส่วนเศรษฐกิจใต้ดินนั้นก็หาได้ง่ายไม่ เพราะได้รับผลกระทบจาก Digital disruption ไปเต็ม ๆ หากกวาดล้างธุรกิจสีเทาและสีดำ ออกไปจากหาดใหญ่ในทันที เศรษฐกิจของหาดใหญ่จะทรุดโทรมลงอย่างหนัก แต่การทำธุรกิจผิดกฎหมายก็หาได้ส่งผลดีต่อการพัฒนาเมืองและภาพลักษณ์ของเมืองหาดใหญ่เองก็หาไม่ เพราะภาพลักษณ์ของเมืองหาดใหญ่ในวันนี้คือ District 888 ที่ไม่ปลอดภัยเสียแล้ว

แม้กระทั่งการเป็นเมืองมหาวิทยาลัยของหาดใหญ่เอง ก็มีจุดอ่อน เพราะบัณฑิตที่สำเร็จการศึกษาไม่สามารถหางานในพื้นที่ได้หลังจบ เนื่องจากอุตสาหกรรมไม่ได้เติบโตมากนัก ทำให้ไม่มีงานทำในพื้นที่ ต้องมาหางานทำในกรุงเทพเป็นส่วนใหญ่

คนหาดใหญ่เองคงต้องคิดใคร่ครวญว่า จะสร้างเสน่ห์และความสามารถในการแข่งขันให้กับหาดใหญ่ได้ต่อไปอย่างไรในอนาคต จะเลือกให้เมืองหาดใหญ่ หล่อเลี้ยงมีเส้นเลือดหลักเป็นเศรษฐกิจใต้ดินต่อไป ก็หาได้ง่ายไม่เพราะการระเบิดดิจิทัล โลกเปลี่ยนไป จะทำอย่างไรให้หาดใหญ่ยังคงมีเสน่ห์ แข่งขันได้ ไม่ซบเซาทางเศรษฐกิจหลังน้ำลดภายหลังน้ำท่วมใหญ่ในพ.ศ. 2568 นี้ นี่คือสิ่งที่คนหาดใหญ่คงต้องคิด ว่าจะพัฒนาเมืองต่อไปอย่างไร


กำลังโหลดความคิดเห็น