วาจาอันเป็นสุภาษิตประกอบด้วยองค์ 5 คือ
1. ถูกกาลเทศะอันได้แก่ การพูดที่สอดกับกาลเวลา สถานที่ และบุคคล
2. เป็นความจริงคือ สิ่งที่พูดนั้นเป็นความจริงมีหลักฐาน และพยานยืนยันได้
3. มีประโยชน์คือ สิ่งที่พูดนั้นให้ประโยชน์แก่ผู้ฟัง โดยยึดหลักได้ฟังแล้วได้ประโยชน์จากการฟัง และถ้าไม่ได้ฟังเสียประโยชน์
4. ไม่ใช้คำพูดหยาบคายคือ พูดด้วยวาจาและเนื้อหาสุภาพ ไม่เสียดสีและให้ร้ายคนอื่น
5. ประกอบด้วยตาคือ ไม่พูดด้วยความโกรธแค้น
ในขณะนี้เป็นหลักแห่งเวลาของการเตรียมการเพื่อการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้
ดังนั้น พรรคการเมืองต่างเริ่มกำหนดทิศทางการเมือง ด้วยการประชุมพรรคและสรรหาผู้สมัคร สส.ในนามพรรค ด้วยกลยุทธ์ที่แตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมองค์กรของพรรค และพฤติกรรมอันเป็นปัจเจกของผู้นำพรรคซึ่งอาจแบ่งออกได้เป็น 2 กลุ่มคือ
1. พรรคที่ต่อสู้ทางการเมืองโดยอาศัยทุนเงินหรือที่เรียกกันว่า กระสุนจะใช้พลังเงินดูด สส.จากพรรคอื่นมาเข้าพรรคตนเอง โดยจำนวนเป็นหลัก ไม่คำนึงถึงคุณภาพเท่าใดนัก จะเลวมากเลวน้อยไม่สำคัญขอให้ลงสมัครแล้วได้รับเลือกตั้งเป็นพอ
2. พรรคที่มีพฤติกรรมองค์กรของพรรค และพฤติกรรมอันเป็นปัจเจกของผู้นำพรรค อาศัยกระแสหรือทุนทางสังคมต้องการคนที่มีคุณภาพ และจริยธรรมเป็นที่ยอมรับนับถือของคนดีในสังคมมาลงเลือกตั้ง สส.โดยเน้นคุณภาพมากกว่าจำนวน
ปชป.จัดอยู่ในประเภท 2 จะเห็นได้จากคำพูดของนายชวน หลีกภัย อดีตนายกรัฐมนตรีและอดีตผู้นำพรรค ปชป.และคำพูดของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรีและผู้นำพรรค ปชป.ในปัจจุบัน ปชป.กำลังเปิดรับคนที่ต้องการมาร่วมงานการเมืองกับ ปชป.เพื่อจะได้ส่งลงสมัครเลือกตั้ง สส.ครบทุกเขต
ถ้า ปชป.ทำได้จริงตามที่พูด ก็จะเป็นพรรคแรกที่ทำการปฏิรูปการเมืองในระบอบประชาธิปไตย โดยการหาคนดีมีคุณธรรมและจริยธรรมเข้ามารับใช้ประเทศ และประชาชนโดยรวม และ ปชป.จะเป็นตัวแทนของการปฏิรูปการเมืองโดยพรรคการเมืองไม่ต้องรอให้ใครมาปฏิรูป
ส่วนว่า ปชป.จะได้รับเลือกเข้ามาเป็น สส.จำนวนมากน้อยเท่าใด ได้เป็นรัฐบาลหรือเป็นฝ่ายค้านขึ้นอยู่กับจำนวน สส.ที่ประชาชนเลือกให้เข้ามาเป็นตัวแทน
แต่ถ้าคนดีได้รับเลือกเป็น สส.จำนวนมากเกินครึ่งเป็นแน่นอนว่า การปกครองในระบอบประชาธิปไตยของไทยได้ก้าวไปในทิศทางที่ดี เพราะ สส.ที่ดีมีคุณธรรมและจริยธรรม ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายค้านหรือเป็นรัฐบาลจะทำหน้าที่โดยยึดหลักความถูกต้องและเป็นธรรม เพื่อประโยชน์ของประเทศและประชาชนโดยรวมก่อนประโยชน์ของตนเองและพรรคที่ตนเองสังกัดแน่นอน
ในทางกลับกัน ถ้าคนไม่ดีไม่มีคุณธรรมและจริยธรรมเข้ามาเป็น สส.จำนวนมาก ประชาธิปไตยก็ถอยหลังหรือย่ำอยู่กับที่ เฉกเช่นที่เป็นอยู่ในขณะนี้
ดังนั้น ปชป.ยุคฟื้นฟูภายใต้การนำของอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ มาถูกทางแล้ว ถ้าฟังจากคำพูดของผู้นำ แต่จะทำได้ตามที่พูดไว้หรือไม่ต้องรอดูหลังเลือกตั้ง แต่ก่อนอื่นใครก็ตามที่ขึ้นต้นด้วยการพูดในสิ่งที่ถูกต้องโดยยึดธรรมเป็นแนวทาง เชื่อไว้ก่อนว่า จะตามมาด้วยการทำดี
ด้วยเหตุนี้ สิ่งที่ผู้นำ ปชป.พูดไว้คงจะตามมาด้วยการทำดี แต่ถ้าให้ดีกว่านี้ ปชป.จะทำดีให้ดูเป็นตัวอย่างเช่น ออกเสียงหนุนให้ยกเลิก MOU 43/44 ก็จะสอดคล้องกับหลักปรัชญาที่ตัวอย่างที่ดีย่อมดีกว่าคำพูดที่ดี และการทำให้ดูย่อมดีกว่าการพูดให้ฟัง


