มหาอำนาจสูงสุดแห่งโลกอย่างประเทศอเมริกา...จะบุกไปกระทืบประเทศเล็กๆ ระดับ “สวนหลังบ้าน”ของตัวเองอย่างเวเนซุเอลา เมื่อไหร่? ตอนไหน? และอย่างไร? คงต้องคอยจับตากันไปเรื่อยๆ อย่างมิอาจกะพริบตาเป็นอันขาด แต่สำหรับ “พันธมิตรพรมเช็ดเท้า” ของคุณพ่ออเมริกา อย่างบรรดาชาติยุโรปอียู อีย้วยและ “NATO” ทั้งหลายนี่สิ!!! นับวันต้องเรียกว่า...ออกอาการกระหายเลือด กระหายสงคราม ยิ่งเข้าไปทุกที ถึงขั้นคิดจะเตรียมระดมกำลังทหารเกือบๆ ล้าน หรือระดับ 800,000 ราย เตรียมเอาไว้สู้รบกับรัสเซียล่วงหน้า ดังที่ผู้บัญชาการร่วมกองกำลัง “NATO”แห่งเยอรมนี “พลโทAlexander Sollfrank” ได้ออกมาป่าวประกาศไปเมื่อวัน-สองวันมานี้...
ด้วยเหตุนี้...เปิดฉากสัปดาห์นี้คงต้องหันมาจับตา “สมรภูมิยุโรป” เอาไว้มั่ง ว่าจะถูกแปรรูป แปรสภาพ ให้กลายเป็นสนามรบ
เป็นสมรภูมิสงครามสักเมื่อไหร่? ตอนไหน? เพราะแม้แต่ผู้นำประเทศยุโรปบางราย อย่างประธานาธิบดี “Aleksandar Vucic” แห่งเซอร์เบีย ท่านถึงกับต้องออกมา “ฟันธง” เอาไว้แบบมิดด้าม เต็มด้าม ระหว่างการให้สัมภาษณ์สื่อทีวี เมื่อช่วงวันอังคารที่ผ่านมานี้(11 พ.ย.) ถึงขั้นว่า... “สงครามระหว่างตะวันตกกับรัสเซีย กำลังกลายเป็นสิ่งที่มิอาจหลีกเลี่ยงได้” หรือinevitable, unavoidable ไปโน่นเลย แม้ว่าประเทศเล็กๆ อย่างเซอร์เบียที่ยังความเป็นมิตรกับรัสเซีย แถมเป็นชาวสลาฟด้วยกันอีกต่างหาก แต่ด้วยเหตุที่เป็นหนึ่งในประเทศสหภาพยุโรปจึงอดที่จะอีหลักอีเหลื่อ ลำบากยากเย็นในการประคับประคองสถานภาพของตัวเองเอาไว้มิใช่น้อย...
และดูเหมือนว่า...ฝ่ายรัสเซียเขาก็จะพอรับรู้ รับทราบ ไม่ได้คิดจะปฏิเสธมุมมองของประธานาธิบดีเซอร์เบียเอาเลยแม้แต่น้อย
ดังที่โฆษกเครมลิน “นายDmitry Peskov” ได้ออกมาสรุปเอาไว้ในวันต่อมาว่าออกจะเห็นด้วยกับข้อสมมติฐานของผู้นำเซอร์เบีย ด้วยเหตุเพราะการแสดงออกทาง “อารมณ์” หรือความกระหายสงครามของบรรดาพวกผู้นำชาวยุโรป ออกจะเป็นอะไรที่ชัดเจน แจ่มแจ้งเสียเหลือเกิน ดังนั้น... “เราเองย่อมรับรู้และพยายามติดตามถึงความเสี่ยงเหล่านี้ อีกทั้งยังมีความจำเป็นที่จะต้องหาทางปกป้องผลประโยชน์และความมั่นคงของเรา”หรือพูดง่ายๆ ว่า...ต่างฝ่ายต่างง้างหมัด พร้อมที่จะออกหมัดหนึ่ง-สอง แย็บซ้าย-อัปเปอร์คัตขวา ฮุกซ้าย-อัปเปอร์คัดตขวากันอย่างเป็นทางการ ในอีกไม่นานนับจากนี้ หรือไม่? อย่างไร? ก็คงต้อง “ลุ้นระทึก”กันอย่างมิอาจปฏิเสธและหลีกเลี่ยงได้...
ส่วนอะไรที่ทำให้บรรดาพวกผู้นำอียู-อีย้วย และ “NATO”ปรารถนาและต้องการที่จะ “เปิดประตูนรก” ขึ้นมาให้จงได้อันนี้...ถ้าหากมองโดยหลักๆ กว้างๆ ก็อาจมีอยู่ประมาณ 2 อย่าง 2 ลักษณะด้วยกัน คืออันแรกอาจเป็นไปในแง่แนวคิด แบบประเภทอุดมการณ์ อุดมคติอะไรประมาณนั้น หรือเพื่อกำราบ ปราบปราม ผู้ที่คิดจะแข็งขืน แข็งข้อ ต่อพวก “เสรีนิยมใหม่” หรือพวกที่ถูกเรียกๆ ว่าพวก “อำนาจนิยม”ทั้งหลายไม่ว่าจะเป็นรัสเซีย-จีน-อิหร่าน-เกาหลีเหนืออย่างที่เลขาธิการ “NATO” “นายMark Rutte”ได้ระบุเอาไว้ในเวทีประชุม “NATO-Industry Forum” ณ กรุงบูดาเปสต์ ประเทศฮังการี เมื่อวันที่ 6 พ.ย.ที่ผ่านมานั่นแหละว่า ด้วยเหตุเพราะบรรดาพวกอำนาจนิยม หรือบรรดาประเทศเหล่านี้ คิดจะท้าทาย “กฎระเบียบโลก”หรือ “Global Rules” ที่โลกตะวันตกได้สร้างขึ้นมาครอบงำ ครอบครองโลกทั้งโลก ต่อเนื่องยาวนานนับเป็นศตวรรษๆ อันเป็นสิ่งที่ตอบสนองต่อผลประโยชน์ของ “รัฐบาลโลก”หรือของบรรดา “บรรษัทข้ามชาติ” ทั้งหลายตามแนวคิดของพวก “เสรีนิยมใหม่” นั่นเอง...
ส่วนอันดับต่อไป...ก็อาจเป็นเพราะสิ่งที่เรียกว่า “สงคราม” นั้น มันอาจเป็นตัวช่วยเบี่ยงเบน ปิดบัง “ปัญหาภายใน” ของบรรดาประเทศยุโรปในแต่ละประเทศ ที่นับวันจะแก้ยาก แก้เย็น หรือระดับแก้ไขแทบไม่ได้เอาเลยก็ว่าได้ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาเศรษฐกิจ ปัญหาความแตกแยกทางการเมือง ที่ทำให้ประเทศยุโรปแต่ละราย ออกอาการเละเป็นขี้ เละเป็นโจ๊ก อยู่จนตราบเท่าทุกวันนี้ แม้แต่บรรดาประเทศ “เสาหลัก” ในแต่ละราย จะเป็นอังกฤษ ฝรั่งเศส ไปจนเยอรมนี ก็ตามที ต่างออกอาการ “ใกล้เจ๊ง” หรือ “เจ๊ง-กับ-เจ๊ง”ไปด้วยกันทั้งนั้น สองวันก่อน...ถึงกับมีข่าวคราวถึงขั้นว่า สมาชิกพรรครัฐบาล “Labor Party” ไม่ต่ำกว่า50 ราย คิดจะผนึกกำลังกับรัฐมนตรีสาธารณสุขอังกฤษ “นายWes Streeting”โค่นล้มนายกรัฐมนตรี “นายKier Starmer”ให้หลุดไปจากตำแหน่งเอาเลยถึงขั้นนั้น อันเนื่องจากแก้ปัญหาอะไรแทบไม่ได้ คะแนนนิยมปักหัวดิ่งยิ่งเข้าไปทุกที
ไม่ว่าปัญหาเงินเฟ้อที่ยังไต่อยู่ในระดับ 8 เปอร์เซ็นต์ ระบบอุตสาหกรรมหยุดนิ่งไม่เคลื่อนไหว ก้าวหน้า มาเกือบ 30 ปี ผู้คนอพยพทิ้งบ้าน ทิ้งเมือง ปีละไม่ต่ำกว่า 900,000 ราย ฯลฯ หรืออะไรต่อมิอะไรเหล่านี้ นั่นยังไม่รวมไปถึงการออกมาประท้วงรัฐบาลของบรรดาพวกผู้ดีอังกฤษนับเป็นล้านๆ ราย เมื่อไม่กี่วันมานี้...
สำหรับฝรั่งเศส-เศษฝรั่ง...ก็แทบไม่ต่างอะไรไปจากกันมากมาย โดยเฉพาะในเรื่องเศรษฐกิจที่กระทั่งรัฐมนตรีคลังของประเทศ อย่าง “นาย Francois Bayrou” ต้องออกมาเตือนรัฐบาลของตัวเอง ว่ากำลัง “ใกล้เจ๊ง”หรือใกล้ฉิบหายวายวอดเต็มที อันเนื่องมาจาก “ปัญหาหนี้สิน” ที่แก้ไขอะไรแทบไม่ได้ ส่วนการเมือง...ก็อาจหนักหนาสาหัส ยิ่งกว่าเพราะนายกรัฐมนตรีที่ได้รับการแต่งตั้งโดยประธานาธิบดี ต่างหมดสภาพไปชนิดคนแล้ว-คนเล่า ไม่ว่าจะเลือกตั้งใหม่กันสักกี่ครั้ง-กี่หน คะแนนนิยมของรัฐบาลก็มีแต่จะปักหัวดิ่งยิ่งเข้าไปทุกที หรือถ้าว่ากันตาม “โพล”ของแต่ละสำนัก บรรดาชาวฝรั่งเศสกว่า80 เปอร์เซ็นต์ไม่คิดจะเอา “มาครง”อย่างเห็นได้โดยชัดเจน การแสดงออกด้วยการประท้วงที่แพร่ระบาดไปถึง 250 แห่งทั่วประเทศ ผู้คนแห่ลงถนนคราวละ 600,000-900,000 คน ย่อมถือเป็นเรื่องไม่ธรรมดาอยู่แล้วแน่ๆ...
เช่นเดียวไส้กรอกเยอรมันที่เหี่ยวแล้ว-เหี่ยวอีก...ระบบอุตสาหกรรมทั่วทั้งประเทศล่มสลายอันเนื่องมาจากปัญหาพลังงาน ส่งผลให้รัฐบาลที่ถือหางยูเครนเอาไว้สู้กับรัสเซีย ต้อง “แตก...ดังโพล๊ะ”ขึ้นมาจนได้ อันนี้...ถ้าว่ากันตามคำสารภาพของอดีตผู้นำเยอรมนี อย่าง “นายOlaf Scholz” ที่ออกมายอมรับเมื่อไม่กี่วันมานี้ว่าเหตุที่ทำให้รัฐบาลผสม 3 ฝ่าย ต้องเจ๊งไปก่อนกำหนดการ ก็เนื่องมาจากความไม่ลงรอยในเรื่องการให้เงินสนับสนุนรัฐบาลยูเครนไว้สู้กับรัสเซียนั่นเอง ขณะที่ผู้นำคนใหม่อย่าง “นายFriedrich Merz” ซึ่งบรรษัทข้ามชาติอย่าง “BlackRock”ส่งเข้าประกวดก็ยังมิวายต้องเดินตามแนวทางเดิมๆ ของรัฐบาลผสมที่เจ๊งไปแล้วนั่นเอง ดังนั้น...โอกาสที่จะ “เจ๊ง-กับ-เจ๊ง” ในอนาคตอันใกล้ ย่อมมีความเป็นไปได้สูงเอามากๆ นอกเสียจากต้องหาทางชักลากลูกหลาน “ฮิตเลอร์”หรือลูกหลานนาซีทั้งหลายให้หันไป “บ้าสงคราม” อีกครั้งกันแทนที่...
ความบ้าสงคราม กระหายสงคราม...ของบรรดาผู้นำชาติยุโรปปัจจุบัน จึงชักไม่ได้หยุดยั้งอยู่เพียงแค่การอาศัย “ตัวตลก-ตัวแทน”อย่างยูเครน บั่นทอนศักยภาพต่างๆ ของหมีขาวรัสเซียลงไปให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ แต่ทำท่าว่าจะไปไกลถึงขั้นพยายามอาศัยตัวแทนอย่างยูเครน สร้างฉาก สร้างสถานการณ์ เพื่อให้เกิด “เงื่อนไข-เหตุปัจจัย” ในการระดมกองกำลัง
“NATO”ทั้งมวล ไปเผชิญหน้ากับรัสเซียตามข้อกำหนดใน “มาตรา 5” ขององค์กรพันธมิตรทางทหารแห่งแอตแลนติกเหนือให้จงได้!!! ข่าวคราวในเรื่อง “โดรนรัสเซีย” ล่วงละเมิดน่านฟ้าโปแลนด์ เอสโตเนีย ไปจนถึงโรมาเนีย ฯลฯ จึงแพร่ระบาดออกมาอย่างเป็นระลอก ส่งผลให้บรรดาประเทศเล็กประเทศน้อยในอียู-อีย้วยเกิดความกระเหี้ยนกระหือรือที่จะรบกับรัสเซียตามไปด้วยอย่างช่วยไม่ได้ มีแต่รัฐมนตรีต่างประเทศอิตาลี อย่าง “นายAntonio Tajani” เท่านั้น ที่ยังพอจะกล้าให้คำยืนยันต่อนักการเมืองอิตาลี แห่งพรรค “Forza Italia Party” เมื่อช่วงวันอาทิตย์ที่ผ่านมา(9 พ.ย.) ว่า...“ผมไม่คิดว่าปูตินต้องการเริ่มสงครามโลกครั้งที่ 3 และผมขอรับรองต่อชาวอิตาลีทั้งหลาย” แต่นั่นก็คงไม่ได้ทำให้บรรยากาศแห่งการ “ปะ-ฉะ-ดะ”ระหว่างโลกตะวันตกกับรัสเซีย ลดน้อยถอยลงไปเลยแม้แต่น้อย หรืออย่างที่คุณน้อง “Maria Zakharova” โฆษกปากคมแห่งกระทรวงการต่างประเทศรัสเซียได้ออกมาเปิดเผยเอาไว้เมื่อวัน-สองวันมานี้ ว่าฝ่ายตะวันตกกำลังใช้ยูเครนสร้างฉาก สร้างสถานการณ์ ด้วยการเล่นงานประเทศโปแลนด์ โรมาเนีย แล้วป้ายความผิดให้กับรัสเซีย เพื่อ “ยกระดับความขัดแย้งไปสู่สงครามโลกครั้งที่ 3 ให้จงได้”...
อย่างไรก็ตาม...ระหว่างที่การสร้างฉากสร้างสถานการณ์เพื่อให้เกิดการปะทะโดยตรงระหว่างรัสเซียกับตะวันตกกำลังเข้มข้นยิ่งเข้าไปทุกที เผอิญว่า...หน่วยงานปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชันของยูเครนเอง หรือ “Ukraine’s National Anti-Corruption” ดันออกมาประกาศตั้งข้อหาผู้ต้องสงสัย 7 ราย ที่มีส่วนพัวพันการทุจริตเงินช่วยเหลือด้านพลังงานที่ฝ่ายตะวันตกช่วยเหลือประเทศนี้ไม่ต่ำกว่า 2.32 พันล้านดอลลาร์ นับแต่ปี ค.ศ.2022 เป็นต้นมา โดยหนึ่งในนั้น...ก็คือ “นายTimur Mindich” หุ้นส่วนธุรกิจที่ใกล้ชิด ติดพัน เอามากๆ กับผู้นำยูเครนอย่าง “นายVolodymyr Zelensky” จนยากที่จะแยกออกจากกันแทบไม่ได้...
อันนี้นี่เอง...ที่ถึงกับทำให้รองประธานคณะกรรมาธิการยุโรป ผู้เคยแสดงออกถึงความกระหายสงครามเอามากๆ อย่าง “นางKaja Kallas” อดที่จะรำพึง รำพัน แบบเดียวกับที่อดีตราชินีลูกทุ่งบ้านเรา คุณน้อง “พุ่มพวง ดวงจันทร์” ส่งเสียงแหบเสียงทุ้ม เอาไว้ในเพลง “ผู้ชายในฝัน” หรือออกไปทาง...“แหม่...เสียดายจัง เฮ้ออ์อ์อ์...เสียดายจัง” อะไรทำนองนั้น หรือถือเป็น “Extremely unfortunate” เป็นโชคร้ายสุดๆ ที่ผู้ที่มีขีดความสามารถในการสร้าง “เงื่อนไข”และ “เหตุปัจจัย” ที่จะให้เกิดการปะทะโดยตรงระหว่างรัสเซีย-ตะวันตก ดันอาจถูก “ถีบทิ้ง”ด้วยข้อหาคอร์รัปชันเอาดื้อๆ!!! ดังนั้น...การ “เปิดประตูนรก” การแปรสภาพยุโรปให้กลายเป็นสนามรบระหว่างรัสเซีย-NATO จะต้องยืดเวลาออกไปอีกสักเมื่อไหร่? ตอนไหน? และอย่างไร? ก็คงต้องติดตามกันต่อไปเป็นระยะๆ ไม่ต่างไปจากการบุกเวเนซุเอลาของคุณพ่ออเมริกา...นั่นแล...


