“สอดแนมการเมือง”
“ชัชวาลย์ชาติสุทธิชัย”
แม่น้ำที่ผมเห็นและเล่นสนุกมาแต่เด็ก เคยว่ายข้ามจน“เกือบตาย”ถึงสองครั้ง นั่นคือ แม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งเกิดจากแม่น้ำปิง-วัง-ยม-น่าน ไหลมาบรรจบที่จังหวัดนครสวรรค์ เติบใหญ่เป็นแม่น้ำสายสำคัญของชาติไทย
เมื่อผมโตขึ้น.. ผมได้ร่วมวงเล่นดนตรีทั้งตีกลองร้องเพลง ล่องเรือไปตามลำน้ำเจ้าพระยาอีกหลายครา ในงานลอยกระทง และงานส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่..
แม้วันนี้ผมไม่ได้อยู่ใกล้แม่น้ำเจ้าพระยา แต่ชีวิตผมก็ยังเกี่ยวข้องกับแม่น้ำสายนี้อยู่เสมอ..
เช่นครั้งนี้.. เหตุเกิดหลัง ดร.โจ - พิจิตต รัตตกุล ชนะเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร โดยมี พี่โต้ง-อ.ไกรศักดิ์ ชุณหะวัณ เป็นหนึ่งในทีมที่ปรึกษาผู้ว่าฯ ผลงานสำคัญของผู้ว่าฯ ดร.โจ คือเป็น “ผู้ทำคลอด” สะพานพระราม 8 ที่ทอดข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาเชื่อมต่อฝั่งกรุงเทพกับฝั่งธนบุรี
ผมยังจำได้ดี วันที่น้าชาติมาที่ห้องทำงานที่ปรึกษา พล.อ.ชาติชาย พร้อมกลิ่นหอมของซิการ์ที่ผมคุ้นเคย น้าชาติพูดด้วยอารมณ์เบิกบานว่า
“โต้ง! ช่วยพ่อหน่อย ถ้างานนี้สำเร็จ.. สัมพันธ์ไทย-จีนจะแน่นแฟ้นยิ่งขึ้น ผู้ใหญ่ทางจีนรู้มาว่า กทม.กำลังจะสร้างสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา..”
“ผู้ใหญ่จีนบอกพ่อ จีนยินดีหนุนโครงการนี้เต็มที่ ถ้า กทม. ยังไม่มีเงินงบประมาณ ทางจีนยินดีช่วย
เหลือแบบไม่มีดอกเบี้ย แต่ถ้ามีเงินแล้ว กทม. เปิดประมูลเมื่อไหร่.. จีนพร้อมจะเข้าแข่งตามกติกาของ กทม. เลยนะโต้ง”
“พ่อ.. งานนี้โต้งต้องให้ไอ้ชัชประสานเรื่องข้อมูลทั่วไป เพราะเพื่อนชัชหลายคนทำงานในทีม กทม. คนหนึ่งเป็นถึงเลขาผู้ว่า กทม. ด้วยนะพ่อ”
จริงครับ! เพื่อนผมหลายคนทำงานอยู่ในทีมงานผู้ว่าฯ พิจิตต เช่น มหินทร์ ตันบุญเพิ่ม กับ สมคาด สืบตระกูล ทั้งคู่เป็นเพื่อนนักเคลื่อนไหว ม.รามคำแหง ผ่านกิจกรรมมาสารพัด เสี่ยงตายมาอย่างโชกโชน ตั้งแต่ก่อนมีการเรียกร้องประชาธิปไตย 14 ตุลาคม 2516 ยืนหยัดทางการเมืองมาอย่างต่อเนื่อง จนถึงเหตุการณ์ปราบประชาชนอย่างหฤโหด 6 ตุลาคม 2519
เมื่อพูดถึงเพื่อนกลุ่มนี้ ผมอดไม่ได้ที่จะนึกถึงวันที่ “พวกเรา” หลบคดี 6 ตุลา 2519 กำลังรอวันเวลาเดิน
ทางไปลี้ภัยที่ ประเทศสวีเดน พวกเราตกลงกันว่า ทุกคนต้องไม่กลับบ้านอย่างเด็ดขาด เพราะตำรวจกำลังตามจับพวกเราอยู่ แต่ด้วยความจำเป็น มหินทร์แอบกลับบ้าน และถูกตำรวจจับ
ขณะเดียวกัน พวกเราอีกกลุ่มเดินทางออกจากไทยเป็นชุดแรก หลบไปถึงฮ่องกงอย่างปลอดภัยแล้ว แต่ประมาทดันทะลึ่ง “บินมาแวะไทย!” ก่อนจะบินต่อไปประเทศอื่น หนึ่งในกลุ่มนั้นชื่อ พันศักดิ์ วิญญรัตน์ ถูกตำรวจบุกจับถึงบนเครื่องบินเป็นข่าวใหญ่ในครานั้น แผนลี้ภัยสู่สวีเดนพลันพลิกไป “เข้าป่า” เพื่อสู้ต่อที่ “เขาค้อ”
ส่วน สมคาด เข้าป่าที่ “เขาค้อ” ไปก่อนหน้า และเจอพวกเราที่โรงเรียนการเมืองการทหาร ต่อมามีข่าวว่า “ฐานคอมมิวนิสต์เขาค้อ” ถูกทางการล้อมปราบอย่างหนักหน่วง ทุกคนได้ยืนหยัดต่อสู้อย่างกล้าหาญสมศักดิ์ศรี “ทหารป่า” แต่ก็เข้าตำรา “น้ำน้อยย่อมแพ้ไฟ” คอมมิวนิสต์เขาค้อพ่ายศึก!
อย่างไรก็ตาม สมคาด สืบตระกูล ก็กลับคืนเมืองได้อย่างหวุดหวิด ก่อนจะจับผลัดจับผลูได้เป็น เลขาฯ ผู้ว่าฯ กทม. พิจิตต รัตตกุล
เมื่อน้าชาติกลับไปแล้ว ผมกับพี่โต้งได้คุยกันเรื่องโครงการ สะพานพระราม 8 อีกพักใหญ่..
“พี่โต้ง.. เรื่องทำให้ความสัมพันธ์ไทย-จีนแน่นแฟ้นยิ่งขึ้น ที่พ่อพูดถึงนั้น.. จีนต้องไม่เอาเปรียบไทยนะ ความสัมพันธ์จึงจะฝ่าอุปสรรคร่วมงานฉันท์มิตรกันได้ตลอด ถ้าประมูลแข่งกัน..ไม่มีใครช่วยได้นะครับ ราคาต้องถูกกว่า.. คุณภาพก็ต้องดีกว่าด้วย.. พี่โต้งต้องบอกพ่อให้บอกกับทางจีนด้วยนะครับ!”
สีหน้าพี่โต้งพลันเคร่งขรึมทันที..
“ชัช.. พี่ไม่บอกกับพ่อหรอก.. ถ้าจีนเสนอราคาสูงกว่าคนอื่น อย่าว่าแต่ชัชจะไม่เอานะ พี่ก็ไม่เอาด้วย ดร.โจ เป็นคนตรง เขาก็ไม่เอาเหมือนกัน.. พวกเราไม่คอรัปชั่นโกงชาติเหมือนไอ้พวกนักการเมืองสารเลวนะ”
พี่โต้งพูดตรงๆ แบบนี้.. ผมสบายใจ
เวลานั้น น้าชาติ พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ เดินทางกลับมาประเทศไทย เพื่อมาทำงาน “การเมืองไทย” ได้ 4-5 ปีแล้ว หลังจากต้องพ้นจากตำแหน่งนายกฯ เพราะถูกกองทัพทำรัฐประหาร ต้นปี 2534 ซึ่งน้าชาติได้ตัดสินใจไปอยู่ต่างประเทศอย่างสุขสงบ เพราะไม่ต้องการให้เกิดเหตุ “คนไทยฆ่ากันเอง”! แต่แล้ว ปี 2535 แกนนำทำรัฐประหาร เป็นฝ่ายติดต่อขอให้น้าชาติกลับมาช่วยฟื้นฟูประเทศที่ย่ำแย่ลงทุกวัน
งานสร้าง “สะพานพระราม 8” ผมไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรมากมาย เพราะผมไม่รู้รายละเอียดทางวิศวกรรมและเรื่องอื่นๆ ผมทำหน้าที่แค่นัดผู้บริหารบริษัทจีนพบกับผู้เกี่ยวข้องบางคนของ กทม. เรื่องเงินค่าก่อสร้าง เราได้แจ้งให้จีนรู้ว่า กทม. มีเงินงบประมาณเรียบร้อย ไม่ต้องพึ่งเงินจีนจะได้ไม่มี “บุญคุณ” ต่อกัน
ส่วนผลการประมูลนั้น บริษัทจีนเสนอราคาถูกกว่างบกลางที่สูงถึงพันกว่าล้านบาท ลดลงเหลือเพียงหลายร้อยล้านเท่านั้น!
“พ่อลูกชุณหะวัณ” ให้ผมทำหน้าที่ประสานกับใครบางคนในรัฐบาลจีน และ “ผู้ใหญ่ในวัง” ที่ผมเคารพ
เมื่อหุ่นจำลองสะพานพระราม 8 เสร็จเรียบร้อย ผมได้ประสานให้ ดร.พิจิตต นำขึ้นทูลเกล้าเสนอต่อ ในหลวงรัชกาลที่ 9 เพื่อทรงทอดพระเนตร พระองค์ได้พระราชทานข้อชี้แนะและประเด็นที่ควรแก้ไข โอกาสนั้นทีมผู้ว่าฯ กทม. ได้กราบทูลรายงานอุปสรรคให้พระองค์ทรงทราบว่า ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ไม่เห็นด้วยกับการสร้าง สะพานพระราม 8 ณ จุดนั้น โดยกล่าวอ้างว่า..
“รถวิ่งข้ามสะพานจะสะเทือนแท่นพิมพ์ธนบัตร จนธนบัตรอาจคลาดเคลื่อนไม่คมชัด!”
อย่างไรก็ตาม โครงการสะพานพระราม 8 ก็ได้รับ “ไฟเขียว” และให้เดินหน้าก่อสร้างได้ทันที ทีมงานได้รับคำรับรองว่า หากมีอุปสรรคใดๆ “จะมีผู้รับผิดชอบแก้ปัญหาให้!”
หลังจากนั้นได้มีการนัดหมายให้เดินทางไปดูงาน “สะพานเซี่ยงไฮ้” และ “โรงงานผลิตสลิงยักษ์” ในจีน ด้วย “บุคคลสำคัญยิ่ง” ประสงค์ให้ “สลิงบนสะพานทุกเส้น” เป็น “สีทอง” เพื่อความงามสง่าสมพระเกียรติพระนาม “สะพานพระราม 8” กษัตริย์ที่พสกนิกรชาวไทยรักเคารพยิ่ง
หมายการเดินทางไปดูงานที่โรงงานผลิตลวดสลิงด้วยเทคโนโลยี “สวิตเซอร์แลนด์”ที่ เซี่ยงไฮ้ ซึ่งก่อนหน้านี้ทางจีนเตรียมจะปิดโรงงานแห่งนี้แล้ว แต่ได้ตัดสินใจดำเนินการต่อหลังรับงานสร้าง สะพานพระราม 8 โดยทางจีนได้เชิญผมไปพร้อมกับ คณะ กทม. แต่ผมติดภารกิจด่วนเดินทางไปไม่ได้ ผมจึงขอให้น้าชาติช่วยขอจีนเรื่อง “ไทยขอสลิงทุกเส้นเป็นสีทอง” โดยได้แจ้งเหตุผลที่ต้องเปลี่ยนจากสีสลิงธรรมดาเป็น “สลิงสีทอง”ให้ทางจีนทราบด้วย
ไม่นาน “น้าชาติ”ก็ ได้ ส่งข่าวดี บอกผมกับ กทม. ว่า ผู้ใหญ่ในจีนยืนยัน “ไม่มีปัญหาเรื่องสลิงสีทอง จีนขอร่วมเทิดพระเกียรติถวายแด่ในหลวงรัชกาลที่ 8 และถวายแด่ในหลวงรัชกาลที่ 9 ด้วย โดยจะทำให้ดีที่สุด”
ดังนั้น.. สลิงสะพานพระราม 8 ทุกเส้นจึงเป็น “สีทอง” ตาม “พระราชประสงค์” ของ “บุคคลสำคัญยิ่งของชาติไทย”
สะพานพระราม 8 เริ่มสร้างเมื่อ วันที่ 15 มีนาคม 2542 ในยุค ผู้ว่า กทม. พิจิตต รัตตกุล มี ร.ต.ต. เกรียงศักดิ์ โลหะชาละ เป็นปลัด กทม.
ในหลวงรัชกาลที่ 9 เสด็จเป็น องค์ประธาน เปิด สะพานพระราม 8 เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2545 เป็นหนึ่งใน 13 สะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา ช่วยแก้ปัญหาการจราจรมานาน 23 ปี
วันนี้.. ใครมีโอกาสไปนั่งรับประทานอาหารที่ร้านโคโค่ เจ้าพระยา ใกล้ท่าพระอาทิตย์ ที่ คุณจิตตนาถ ลิ้มทองกุล ลูกชายคนเดียวของ คุณสนธิ ลิ้มทองกุล บรรจงสร้างสรรค์อย่างดี จะเห็นวิว สะพานพระราม 8 อันสง่างามตระการตา
ผมขอยืนยันว่า บรรยากาศ ร้านโคโค่ เจ้าพระยา ดีเยี่ยม! มิใช่วิวหลักล้านนะครับ แต่วิวงามสง่าสวยชนิดประเมินค่าไม่ได้เลยทีเดียว!!!


