xs
xsm
sm
md
lg

ปิยมิตรแห่งปิยมหาราช : ถ้าสยามไม่มีพระเจ้าแผ่นดินที่ชื่อจุฬาลงกรณ์?

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: รศ.ดร.อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์

รศ.ดร.อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์
สาขาวิชาวิทยาการประกันภัยและการบริหารความเสี่ยง
สาขาวิชาพลเมืองวิทยาการข้อมูล
สาขาวิชาสถิติศาสตร์
คณะสถิติประยุกต์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์


สามโมเมนต์แห่งความจริง (Moment of truth) ที่รักษาเอกราชของชาติไทยโดยพระปิยมหาราช (พระราชาผู้ยิ่งใหญ่ผู้เป็นที่รัก) และปิยมิตร (มิตรอันเป็นที่รัก) พระเจ้าจักรพรรดิซาร์นิโคลัสที่สองแห่งจักรวรรดิรัสเซีย

หนึ่ง มกุฎราชกุมารเซเรวิซ (ต่อมา พระเจ้าจักรพรรดิซาร์นิโคลัสที่สองแห่งรัสเซีย) เสด็จเยือนสยาม พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระปิยมหาราช ทรงต้อนรับอย่างยิ่งใหญ่ จนชาววังหลวงสมัยนั้นมีสำนวนการจัดงานหรือสิ่งของใดที่ใหญ่โตว่า ราวเซเรวิซ ทรงนำเสด็จพระเจ้าจักรพรรดิซาร์นิโคลัสที่สองไปทอดพระเนตรการคล้องช้างป่าที่เพนียดคล้องช้างที่พระนครศรีอยุธยาอยุธยา มีช้างป้านับร้อยตัว ควาญช้างได้คล้องลูกช้างมาถวายเซเรวิซแห่งรัสเซีย

แต่ลูกช้างคร่ำครวญหาแม่ พระเจ้าซาร์ทรงถอดพระธำมรงค์ที่พระหัตถ์พระราชทานควาญช้างและมีรับสั่งให้ควาญช้างปล่อยลูกช้างป่าที่คล้องมาถวายกลับไปอยู่กับแม่ในป่าเหมือนเดิม


โมเมนต์แห่งความจริงนี้สำหรับชาวตะวันตกเป็นเหตุการณ์อันตราตรึงใจมาก สร้างความประทับพระราชหฤทัยและการผูกแห่งมิตรอันเป็นที่รักระหว่างสยามกับรัสเซียอย่างแนบแน่น ช้างป่าของไทย ผูกมิตรกับชาติมหาอำนาจในเวลานั้นถวายพระมหากษัตริย์รัชกาลที่ 5 และการผูกแห่งมิตรเพื่อสร้างมิตรที่ดีนั้นได้ทำให้ชาติไทยยังคงรักษาเอกราชมาได้จนถึงทุกวันนี้

สอง มกุฎราชกุมารรัสเซีย ปิยมิตรแห่งปิยมหาราช ทรงทดลองพระทัยพระปิยมหาราช

พระปิยมหาราชทรงผูกมิตรกับพระเจ้าซาร์นิโคลัสที่สองแห่งรัสเซีย โดยตรัสว่าหากปรารถนาสิ่งใดในสยามจะจัดหามาถวายให้ทั้งสิ้น พระเจ้าซาร์ทรงทดลองพระทัยพระปิยมหาราช โดยกราบทูลขอพระพุทธมณีรัตนปฏิมากรหรือพระแก้วมรกต อัญเชิญไปประดิษฐานที่รัสเซีย พระปิยมหาราชทรงเป็นหน่อเนื้อเชื้อกษัตริย์ ตรัสแล้วไม่คืนคำ พระราชทานตามที่ขอ


พระเจ้าซาร์ทรงตกพระทัยมาก รีบทูลว่า เพื่อสร้างความเสมอกันแห่งมิตร มิได้เอาเปรียบกัน พระเจ้าซาร์รีบทรงทูลให้พระปิยมหาราช ทูลขออะไรของรัสเซียก็ย่อมได้ทุกอย่างเช่นกัน พระปิยมหาราชทรงขอพระราชทานพระแก้วมรกต พระคู่บ้านคู่เมืองกลับคืนมาเป็นของสยาม พระเจ้าซาร์นิโคลัสที่สองรีบถวายพระแก้วมรกต สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองของสยามคืนกลับพระปิยมหาราชโดยทันที

นี่คือการที่ปิยมิตรทรงทดสอบพระทัยแห่งพระปิยมหาราช และพระปิยมหาราชทรงสอบผ่านอย่างงดงาม

สาม เมื่อพระปิยมหาราชเสด็จเยือนยุโรป ในรัตนโกสินทร์ศก 116 หลังวิกฤติ รศ. 112 ที่ฝรั่งเศสส่งเรือรบมาปิดปากอ่าวไทยและเรียกค่าปฏิกรณ์สงครามสามล้านฟรังก์จนสยามต้องไปนำเงินถุงแดงในพระคลังข้างที่ที่สะสมออมไว้โดยพระปรีชาสามารถของพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวมาใช้หนี้จนหมดสิ้น พระปิยมหาราชทรงชาญฉลาดและทรงมีพระราชประสงค์จะทรงเจริญพระราชไมตรี แต่อังกฤษและฝรั่งเศส ชาติมหาอำนาจผู้ปรารถนาจะได้สยามเป็นเมืองขึ้น (Colony) ไม่ต้อนรับ เพราะสยามเป็นชาติเล็กที่เขาต้องการล่าเป็นอาณานิคม ใครๆ ชาติอื่น ๆ ในยุโรปก็ไม่แยแสสยาม

พระปิยมหาราชเสด็จวกวนกลับไปหาปิยมิตรแห่งรัสเซีย พระเจ้าซาร์นิโคลัสที่สองทรงให้ฉายพระรูปแบบลำลอง ทรงสบาย ทรงควงพระกรกับเจ้าหญิงแห่งราชวงศ์โรมานอฟ พระบรมฉายาลักษณ์นี้ฉายในสวน บรรยากาศอบอุ่น เป็นกันเอง แสดงความเป็นพระญาติสนิทระหว่างราชวงศ์โรมานอฟและราชวงศ์จักรี และพระเจ้าซาร์ทรงส่งพระบรมฉายาลักษณ์นี้ไปตีพิมพ์เผยแพร่ในหนังสือพิมพ์ต่างๆ ทั่วยุโรป หลังจากนั้นทั้งทวีปยุโรปก็ทราบว่าพระปิยมหาราชแห่งสยามเป็นปิยมิตรสนิทสนมกับจักรวรรดิรัสเซีย ทำให้ทุกคนเกิดความเกรงใจ ต้องต้อนรับ ทำให้เจริญพระราชไมตรีได้สำเร็จ ทำให้สยามรักษาเอกราช ไทยยังคงเป็นไทมาจนทุกวันนี้


จากสามโมเมนต์ของความจริงเกี่ยวกับปิยมิตรแห่งปิยมหาราช เราคงตระหนักได้ชัดเจนว่า พระปิยมหาราชทรงพระมหากรุณาธิคุณอันประเสิรฐต่อราชอาณาจักรไทยอย่างไรบ้าง

เราลองตั้งคำถามสมมุติกันดูบ้างว่า ถ้าในเวลานั้นสยามไม่มีพระเจ้าแผ่นดินที่ชื่อจุฬาลงกรณ์? จะเกิดอะไรขึ้นบ้าง

สิ่งที่สามารถจะตอบได้โดยสันนิษฐานไม่ยากเลยคือ

หนึ่ง ไม่มีประเทศไทยในวันนี้


สอง แผ่นดินไทยในวันนี้จะแบ่งเป็นอย่างน้อยสองประเทศ

ฝั่งซ้ายของแม่น้ำเจ้าพระยา น่าจะเป็นของอังกฤษ
ฝั่งขวาของแม่น้ำเจ้าพระยาน่าจะเป็นของฝรั่งเศส

สาม สยามย่อมเป็นเมืองขึ้นของสองชาติมหาอำนาจคืออังกฤษกับฝรั่งเศส

สี่ สยามฝั่งซ้ายของแม่น้ำเจ้าพระยา ที่ตกภายใต้การปกครองของอังกฤษ จะรบกันแหลกกับชนกลุ่มต่างๆ ในพม่าเวลานี้ อังกฤษคงพยายามรวมสยามฝั่งซ้ายของแม่น้ำเจ้าพระยาเข้ากับพม่า แล้วปกครองโดยอุปราชอังกฤษที่อินเดีย หลังจากนั้นก็ไปเข้าสนธิสัญญาปางหลวง แล้วก็เกิดสงครามระหว่างกลุ่มชาติพันธุ์ เพราะอังกฤษจะเอาแบบปกครองง่าย พยายามรวมกันให้หมด จะตีกันอย่างไรก็ตีกันไป ส่งผลให้พอเป็นเอกราชแล้วก็รบกันแบบพม่าในปัจจุบันนี้ไม่จบไม่สิ้นและพร้อมจะแตกเป็นอีกหลายประเทศในที่สุด

ห้า สยามฝั่งขวาของแม่น้ำเจ้าพระยา ที่ตกภายใต้การปกครองของฝรั่งเศส คงไปรวมกับ อินโดจีน-ฝรั่งเศส แล้วถูกสูบทรัพยากรไปมากมายมหาศาล ขแมร์กรอมหรือเขมรต่ำ คงเคลื่อนย้ายมาอยู่เต็มไปหมดเช่นกัน ผ่านฉนวนเขมรและข่องเขาพนมดงรัก สิ่งที่นึกได้ว่าน่าจะเกิดหากมีขแมร์กรอมเข้ามาอยู่มากๆ ในสยามฝั่งขวาของแม่น้ำเจ้าพระยาก็คือสงครามกลางเมือง และสยามฝั่งขวาของแม่น้ำเจ้าพระยาคงปกครองด้วยลัทธิคอมมิวนิสต์ตามแบบอย่างลาว กัมพูชา และเวียดนาม ที่แตกพ่ายกันทั้งสิ้นในพ.ศ. 2518 ในช่วงก่อกำเนิดสงครามเย็น (Cold war)

หก ทั้งสยามฝั่งขวาและฝั่งซ้ายของแม่น้ำเจ้าพระยา จะไม่ได้มีการ modernization ให้เจริญก้าวหน้าขนาดนี้ พระปิยมหาราช ทรงเป็นเสรีนิยม หัวก้าวหน้า นักปฏิบัตินิยม ทรงรื้อและพัฒนาประเทศไปอย่างมากมายมหาศาล ถ้าไม่ได้พระองค์วางรากฐานไว้ ประเทศไทยไม่มีวันนี้

แค่นึกก็สยดสยองแล้วครับ ถ้าหากประเทศไทยไม่มีพระเจ้าแผ่นดินชื่อพระปิยมหาราช พระราชาผู้ทรงเป็นที่รัก

ประเทศไทยโชคดีเหลือเกินที่ได้มีพระมหากษัตริย์ผู้ทรงฉลาดเปี่ยมพระปรีชาสามารถที่สุดที่ชื่อว่าพระปิยมหาราช


กำลังโหลดความคิดเห็น