xs
xsm
sm
md
lg

คนหรือระบบ : เหตุให้ปชป.ตกต่ำ?

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: สามารถ มังสัง


เฉลิมชัย ศรีอ่อน
ถ้าย้อนไปในยุคที่ระบบเผด็จการเข้มแข็ง พรรคการเมืองที่ต่อสู้กับระบบนี้ และเรียกร้องให้ประเทศไทยปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตยก็คือ พรรคประชาธิปัตย์ และพรรคที่มีอุดมการณ์ในการต่อต้านการทุจริต คอร์รัปชันในภาครัฐก็คือ พรรคประชาธิปัตย์ ด้วยเหตุนี้ ปชป.จึงเป็นฝ่ายค้านทำหน้าที่ฝ่ายค้านได้อย่างมีประสิทธิภาพ และได้รับความนิยมสูงในหมู่ชนชั้นสูง และชั้นกลาง โดยมีฐานที่มั่นทางการเมืองในกรุงเทพฯ และในภาคใต้ตลอดมา จนกระทั่งมาถึงยุคของพรรคไทยรักไทย ภายใต้การนำของทักษิณ ชินวัตร ผู้บุกเบิกการเมืองในรูปแบบของธุรกิจการเมือง เริ่มด้วยการนำนโยบายประชานิยมในรูปแบบของการลด แลก แจก แถม มาใช้เป็นกลยุทธ์ในการต่อสู้ทางการเมือง และได้รับการตอบรับอย่างกว้างขวางในหมู่ประชาชนคนรากหญ้า โดยเฉพาะชาวไร่ ชาวนา และผู้ใช้แรงงานในภาคอุตสาหกรรม ส่งผลให้ได้รับชัยชนะเลือกตั้งอย่างท่วมท้นเหนือคู่แข่งคือ ปชป.ในการเลือกตั้งในปี พ.ศ. 2544 และชนะเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน

ส่วนทางด้าน ปชป.ตกต่ำเรื่อยมาและไม่มีทีท่าว่าจะพลิกฟื้นคืนชีพ และแข็งแกร่งเฉกเช่นในอดีต ยิ่งกว่านี้ ในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา ได้แค่ 25 ที่นั่ง และแถมยังเกิดความแตกแยกภายในถึงขั้นละทิ้งอุดมการณ์ดั้งเดิมของพรรคไปร่วมรัฐบาลกับเผด็จการพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นเหตุให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ลาออกจากการเป็นหัวหน้าพรรค และต่อมาได้รัฐบาลกับพรรคเพื่อไทยซึ่งเป็นศัตรูทางอุดมการณ์ของ ปชป.เป็นเหตุให้สมาชิกพรรคหลายคนลาออก และส่งผลให้พรรค ปชป.ตกต่ำสุดๆ นับตั้งแต่พรรคนี้ตั้งมา

สุดท้ายเมื่อนางสาวแพทองธาร ชินวัตร ถูกถอดถอนจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และทำให้ ครม.ทั้งคณะต้องพ้นสภาพไปด้วย ผู้บริหาร ปชป.ก็ยังอยู่กับพรรคเพื่อไทย ขณะที่บางส่วนไปสนับสนุนนายอนุทิน ชาญวีรกูล เป็นนายกรัฐมนตรี จึงทำให้ ปชป.แตกแยกชัดเจน จึงทำให้นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน ลาออกจากหัวหน้าพรรค และทำให้กรรมการบริหารพรรคสิ้นสภาพไปด้วย จึงต้องเลือกกรรมการบริหารพรรคกันใหม่

ดังนั้น จึงกล่าวได้ว่า ปชป. ณ จุดนี้ได้เดินมาถึงทางแยกระหว่างคนเดิมจะอยู่ต่อหรือคนใหม่จะเข้ามาแก้ปัญหาความแตกแยก และกอบกู้พรรคขึ้นมาใหม่ โดยนำอุดมการณ์เดิมกลับมาและเพิ่มเติมสิ่งใหม่เข้าไปเพื่อให้พรรคแข็งแกร่งพอที่จะสู้กับพรรคภูมิใจไทย และพรรคประชาชนซึ่งสามารถทำได้โดยการเพิ่มคนและนโยบายให้สอดคล้องกับความต้องการของคนรุ่นใหม่ และเงื่อนไขทางการเมืองซึ่งเอื้อต่อการแข่งขันในการเลือกตั้ง และการหาพันธมิตรทางการเมืองหลังเลือกตั้ง ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายค้านหรือเป็นฝ่ายรัฐบาล ทั้งนี้เพื่อให้พรรคก้าวต่อไปได้ และมีโอกาสชนะการเลือกตั้งได้เสียงข้างมากพอที่จะเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลในอนาคต

ด้วยเหตุดังกล่าวข้างต้น ในการเลือกหัวหน้าพรรคซึ่งจะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้ จึงจำเป็นต้องได้ผู้ที่มีความรู้ ความสามารถฉลาดหลักแหลมในการปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป ทั้งในด้านเศรษฐกิจ และสังคม ทั้งเป็นที่ยอมรับของประชาชนโดยเฉพาะผู้ที่เป็นแนวร่วมทางการเมืองของ ปชป.ในปัจจุบัน และที่ลาออกไปแล้ว จึงจะทำให้ ปชป.ฟื้นได้ และก้าวต่อไปข้างหน้าสู่จุดหมายปลายทางคือ เป็นที่ยอมรับของประชาชนเฉกเช่นในอดีต โดยเฉพาะในภาคใต้และในกรุงเทพฯ อันเป็นฐานเดิมของ ปชป.

ความล้มเหลวที่ ปชป.ได้รับในระยะเวลา 10 กว่าปีที่ผ่านมา บ่งบอกให้รู้ว่า ทั้งคนและระบบของ ปชป.มีส่วนทำให้ล้มเหลว

ดังนั้น ผู้ที่เข้ามาใหม่จะต้องไม่ทำแบบเดิม แต่จะต้องทบทวนอดีตและแก้ไขให้ตรงประเด็น โดยรับฟังความเห็นของประชาชน และนำมาปรับปรุงให้สอดคล้องกับหลักการบริหาร โดยยึดประโยชน์ของประเทศ และประชาชนโดยรวมเป็นหลัก


กำลังโหลดความคิดเห็น