xs
xsm
sm
md
lg

จุดเริ่มและจุดจบของ...สงครามโลกครั้งที่ 3 !!!

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทับทิม พญาไท


Konstantin Sivkov นักยุทธศาสตร์ชาวรัสเซีย
เปิดฉากสัปดาห์นี้...คงต้องขออนุญาตเชิญชวนให้ลองไปทบทวนใคร่ครวญ ถึงสิ่งที่เรียกว่า “สงครามโลกครั้งที่3” กันให้แบบชัดๆ จะจะ เพื่อที่จะได้ไม่ต้องเสียเวลาเถียงกันไป-เถียงกันมา ว่ามันจะเกิด-ไม่เกิดเมื่อไหร่? ตอนไหน? เพราะถึงแม้ว่าบรรดาพวก “โลกสวย” หรือพวกที่มองโลกไปตามมาตรฐานของคำศัพท์ คำนิยาม ท่านจะเถียงแล้วเถียงอีกว่ายังไม่ได้เกิด ยังไม่ได้อุบัติขึ้นมาอย่างเป็นจริงเป็นจัง แต่ถ้าว่ากันตามแนวคิดของบรรดา “นักยุทธศาสตร์” โดยทั่วไป คงหนีไม่พ้นที่จะต้องสรุปว่า...สงครามโลกหรือสงครามในลักษณะที่ว่า มันได้อุบัติขึ้นมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เพียงแต่กำลังจะ “ยกระดับ” ให้เห็นไปเป็นขั้นๆ จนสุดท้าย...ก็คงไม่มีใครคิดจะเถียงอีกต่อไป!!!

โดยเฉพาะ “นักยุทธศาสตร์” ระดับเบ้งๆ ชาวรัสเซีย อย่าง “นายKonstantin Sivkov” อดีตทหารเรือและอดีตฝ่ายเสนาธิการของศูนย์วิจัยยุทธศาสตร์ทางทหารรัสเซีย (The Center for Military-Strategic Research of the General Staff) รวมทั้งยังเป็นสมาชิกสถาบัน The Russia Academy of Missile and Artillery Sciences” ที่ไม่เพียงออกมาให้สัมภาษณ์สื่อรัสเซียอย่าง Soyuznoye Veche”เมื่อช่วงต้นสัปดาห์ที่แล้ว(22ก.ย.) ถึงสงครามรัสเซีย-ยูเครน และสิ่งที่เรียกว่า “สงครามโลกครั้งที่3” เอาไว้อย่างน่าคิด น่าสะกิดใจ เป็นอย่างยิ่ง ยังแถมได้เขียนอธิบายรายละเอียดลักษณะความเป็นไปของสงคราม รวมทั้งแนวโน้มในการวัดตัดสินชัยชนะและความพ่ายแพ้ของแต่ละฝ่าย อย่างชนิดสามารถหลับตานึกภาพได้โดยชัดเจนว่าสุดท้าย...ใครจะแพ้-ใครชนะกันในแบบไหน? ลักษณะไหน? เมื่อไหร่? และอย่างไร???

คือเหตุที่ “นายKonstantin Sivkov”ท่านเห็นว่า สิ่งที่เรียกว่า “สงครามโลกครั้งที่ 3” นั้น มันได้เกิดขึ้น อุบัติขึ้นมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็เพราะสามารถพิสูจน์ได้จากฉากสถานการณ์การเผชิญหน้าของ “ขั้วอำนาจ”ต่างๆ ที่ค่อยๆ ยกระดับและพัฒนาไปเป็นขั้นๆ จนกระทั่งทำให้สิ่งที่เรียกว่า “พื้นที่เป็นกลาง”ในโลกใบนี้ แทบจะไม่หลงเหลือใดๆ อีกต่อไป หรือทำให้บรรดาประเทศต่างๆ ในโลกใบนี้ ต่างตกอยู่ในสถานะ if not with us, then against us”เรียกว่า...ถ้าไม่อยู่ “ฝ่ายเรา” คงหนีไม่พ้นที่ต้องกลายเป็น “ฝ่ายมัน”จนได้!!! และนั่นเอง...ที่ทำให้สงครามระหว่างยูเครน-รัสเซีย จึงกลายเป็น “ส่วนหนึ่ง” ของ “สงครามโลกครั้งที่3” และทำให้สิ่งที่รัสเซียกำลังต่อสู้อยู่นั้น...ไม่ใช่แค่ “ตัวตลก-ตัวแทน” อย่างรัฐบาลยูเครนโดยลำพัง แต่เป็นการต่อสู้ระหว่าง “รัสเซียกับโลกตะวันตก”หรือกับ NATO” อันเป็นสิ่งที่ฝ่ายรัสเซียต่างรับรู้ รับทราบ มาแล้วล่วงหน้าขณะตัดสินใจเปิดฉาก “ปฏิบัติการทางทหาร” บุกเข้าไปในดินแดนยูเครน เมื่อช่วง2-3 ปีที่ผ่านมา...

และสงครามระหว่างรัสเซียกับโลกตะวันตกทั้งมวล...มันเป็นสงครามที่ออกจะผิดแผกแตกต่างไปจากสงครามที่เคยเกิดขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 20 แบบคนละเรื่อง-คนละม้วน คือไม่ใช่สงครามที่เปิดฉากสู้รบกันในยูเครน หรือคิดจะบุกยึดส่วนใด-ส่วนหนึ่งของดินแดนรัสเซียแต่เพียงเท่านั้น แต่เป็นสงครามที่แพร่กระจายออกไปในทุกๆ พื้นที่ โดยอาศัยกรรมวิธีทุกรูป ทุกแบบในการเอาชนะคะคานซึ่งกันและกัน หรือที่ “นายKonstantin Sivkov”ท่านใช้คำว่า “สงครามลูกผสม”(Hybrid War) คือไม่ใช่แค่สู้กันด้วยอำนาจทางทหาร หรือด้วยจรวด กระสุนปืนใหญ่ รถถัง ฯลฯ หรืออะไรต่อมิอะไรทำนองนั้น แต่ยังต้องสู้กันในทางเศรษฐกิจ การเงิน-การทอง สู้ด้วยพลังอำนาจข้อมูลข่าวสาร ฯลฯ หรือต้องอาศัยกรรมวิธีทุกรูปทุกแบบ อย่างที่เรียกๆ ว่า “แนวที่ห้า”(Fifth Column) อะไรประมาณนั้น ไม่ว่าจะเป็นการวินาศกรรม(sabotage) ปล่อยข่าวลือ-ข่าวลวง(disinformation) การจารกรรม(espionage) ไปยันถึงการก่อการร้าย(terrorism) เอาเลยก็เป็นได้...

และนั่นเอง....ที่ทำให้ “เป้าหมาย” ของแต่ละฝ่าย ไม่ได้อยู่ที่ใครจะยึดดินแดนของอีกฝ่ายได้มาก-ได้น้อยไปกว่ากันแบบเมื่อครั้งสงครามโลกครั้งที่ 1 ครั้งที่ 2 แต่อยู่ที่ใครจะสามารถทำให้ “ฝ่ายตรงข้าม” พังพินาศ ล่มสลาย ลงไปได้ก่อนกัน หรือทำให้สิ่งที่พวกโลกตะวันตก หรือNATO”หวังและต้องการเอามากๆ ไม่ใช่เพียงแค่การขับไล่หมีขาวรัสเซียออกไปจากดินแดน 4 เขต4 แคว้นในยูเครน หรือจากแหลมไครเมียเท่านั้น แต่มุ่งแสวงหาหนทางทุกสิ่งทุกอย่างที่จะทำให้ “ระบอบการปกครองปูติน” พังพินาศ ล่มสลาย ลงไปให้จงได้!!! ไม่ว่าจะโดยการปฏิวัติโค่นล้มผู้นำการลุกฮือของมวลชน ในจังหวะที่ศักยภาพด้านต่างๆ ของประเทศรัสเซียถูกบั่นทอน ทำลายเพราะสงครามยูเครนลงไปตามลำดับ การยึดๆ ยื้อๆ ให้สงครามดังกล่าวดำเนินต่อไปอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ก็เพื่อหวังที่จะให้เกิดการนำไปสู่ความ “ล่มสลาย” ของสังคมรัสเซีย หรือประเทศรัสเซียในท้ายที่สุดนั่นเอง...


โดยถ้าหากโลกตะวันตกดันเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ขึ้นมาเมื่อไหร่ นั่นย่อมหมายถึง “การล่มสลายของยุทธศาสตร์ที่ก่อรูป ก่อร่างขึ้นมาโดยโลกตะวันตก ซึ่งสามารถครอบงำโลกทั้งโลกในตลอดช่วง2 ทศวรรษที่ผ่านมา” ไม่ว่าจะในนาม “โลกาภิวัตน์”หรือในความคิด ความเชื่อ ของผู้ที่ถูกเรียกขานในนาม “เสรีนิยมใหม่”หรือพวก “โลกขั้วอำนาจเดียว” อันจะส่งผลให้สิ่งที่ “เจ้าพ่อเสรีนิยมใหม่” หรือนักเศรษฐศาสตร์และวิศวกรรมผู้ก่อตั้งและประธานกลุ่มธุรกิจการเมืองระดับโลก อย่าง World Economic Forum”มาโดยตลอด เช่น “นายKlaus Martin Scwab” เคยคาด เคยหวังที่จะให้โลกใบนี้ เป็นโลกสิ่งที่เรียกว่า “รัฐชาติ” แทบไม่เหลือพื้นที่ หรือไม่มีความสำคัญอีกต่อไป เมื่ออธิปไตยของแต่ละประเทศต่างถูกควบคุมเอาไว้ด้วย “รัฐบาลโลก” หรือด้วยผลประโยชน์ของบรรดา “บรรษัทข้ามชาติ”ทั้งหลาย ย่อมมีอันต้องสูญสลาย หรือต้องหายวับไปกับตาเอาดื้อๆ!!!

เพราะถ้าหากหมีขาวรัสเซียเป็นฝ่ายชนะ...อะไรต่อมิอะไรคงต้องเป็นไปดังที่ผู้นำรัสเซีย ประธานาธิบดี “ปูติน”ท่านเคยป่าวประกาศไว้ในเวที Davos Forum” เมื่อหลายปีที่แล้วนั่นแหละว่า “รัฐชาติ” หรือรัฐที่พยายามดำรงอำนาจอธิปไตยของตัวเองยังคงเป็นมูลเหตุ หรือเหตุปัจจัยของการเมืองโลกอีกต่อไป โดยจะไม่ยอมปล่อยให้พื้นที่ใดๆ ถูกกดดันและแทรกแซงจากอำนาจระดับโลก เพื่อให้เป็นไปตามความหวัง ความต้องการ หรือตาม “ผลประโยชน์”ของบรรดา “บรรษัทข้ามชาติ”ทั้งหลาย และนั่นย่อมทำให้ชัยชนะของฝ่ายหนึ่ง-ฝ่ายใด...ย่อมหมายถึง “ความล่มสลาย” ของฝ่ายตรงข้ามอย่างมิอาจหลีกเลี่ยงและปฏิเสธ ไม่ว่าจะในทางการเมือง เศรษฐกิจ วิถีชีวิตของผู้คน ตลอดไปจนค่านิยมทางสังคม ทางวัฒนธรรมประเพณี ฯลฯ เอาเลยก็ว่าได้...

อันนี้นี่แหละ...ที่มันทำให้ต้องสู้กันถึงชั้นอุทธรณ์ ชั้นฎีกา ไปโน่นเลย และทำให้ช่วงเวลาของ “สงครามโลกครั้งที่3”อาจกินเวลายืดเยื้อ ยาวนาน ไปอีกไม่รู้กี่ปีต่อกี่ปี รวมทั้งทำให้ “การเผชิญหน้าทางทหาร”อาจลุกลามบานปลายกลายเป็นจุดชนวน “สงครามนิวเคลียร์” ขึ้นมาเมื่อไหร่ก็ย่อมได้ โดยเฉพาะเมื่อการเผชิญหน้ากันใน “แนวรบ” ต่างๆ ไม่ว่ายุโรปตะวันออก ตะวันออกกลาง หรือทะเลจีนใต้ มันเกิดความเกี่ยวพัน โยงใยระหว่างกันและกันอย่างมิอาจแยกออกจากกันได้อีก หรือพูดง่ายๆ ว่า...มันคงไม่ใช่แค่การแย่งชิงพื้นที่ดินแดนไม่กี่เขตกี่แคว้น ในสมรภูมิยูเครน หรือแม้แต่ในประเทศยุโรปที่กำลังถูกแปรสภาพให้กลายเป็นสมรภูมิขึ้นมาเมื่อไหร่ก็ย่อมได้ แต่เป็นการต่อสู้เพื่อเอาชนะกันระหว่างโลก2 แบบ2 ขั้ว หรือระหว่าง “โลกขั้วอำนาจเดียว”กับ “โลกหลายขั้วอำนาจ”นั่นแล อันมี “อนาคตของโลกทั้งโลก” เป็นเดิมพันเอาเลยก็ว่าได้...

และดูเหมือนว่า...สิ่งที่อาจถือเป็นการส่ง “สัญญาณ” ถึงความพ่ายแพ้ของโลกตะวันตก นับวันมันชักจะส่อให้เห็นชัดเจนยิ่งเข้าไปทุกที ภายใต้สภาวะ if not with us, then against us” นี่แหละ นั่นก็คือการสูญเสีย “พันธมิตร” ไม่ว่าในยุโรป ตะวันออกกลาง เอเชีย แอฟริกา ละตินอเมริกา ไม่ว่าการหันมาสนับสนุนประเทศ “ปาเลสไตน์”ของบางประเทศในยุโรป
เพราะ “รับไม่ได้” ต่อการกระทำของพันธมิตรอันศักดิ์สิทธิ์คุณพ่ออเมริกาอย่างอิสราเอล การหันมารวมตัวของชาติอาหรับและโลกมุสลิม ที่ทำให้บรรดาประเทศอ่าว อย่างกาตาร์ ยูเออี ซาอุดีอาระเบีย ฯลฯ ที่เคยเป็นมิตรกับอเมริกา หรือเคยเชื่อใน“หลักประกันความมั่นคง” โดยอเมริกา ต่างถอยดีกว่า-ไม่อาวว์ว์ว์ดีกว่า ไปเป็นแถบๆ นั่นยังไม่รวมไปถึงอินเดียที่หันมาจูบปากจีนและรัสเซียอย่างดูดดื่มยิ่งเข้าไปทุกที หรือเวเนซุเอลาที่ยอมหัก-ไม่ยอมงอ ต่อการเกลี้ยกล่อม โน้มน้าว ในเรื่องทรัพยากรน้ำมัน จนต้องหันไปกดดัน หรือต้องส่ง “เรือรบ” เข้าไปไล่ล่าพวกค้ายาเสพติดกันแทนที่ ฯลฯ

ส่วนใครจะแพ้-ใครจะชนะในขั้นตอนสุดท้ายของสงครามในลักษณะที่ว่านี้ นักยุทธศาสตร์ชาวรัสเซียอย่าง “นายKonstantin
Sivkov
” ท่านได้สรุปไว้อย่างน่าคิด น่าสะกิดใจ มิใช่น้อย คือด้วยถ้อยคำที่ว่า... Victory in this hybrid World War 3 will be determined by who fall first” หรือชัยชนะของสงครามลูกผสม ที่ถือเป็นสงครามโลกครั้งที่3 คราวนี้ อาจผิดแผกแตกต่างจากสงครามโลกเท่าที่เคยมีมา หรือขึ้นอยู่กับว่า...ใครจะ “พัง” ไปก่อนกันนั่นเอง!! เพราะขณะที่พวกโลกตะวันตก หวังจะให้สงครามยูเครน หรือขยายไปสู่สงครามในยุโรปทั้งมวล หรือไม่? อย่างไร? ก็แล้วแต่ เป็นตัวบั่นทอน ทำลาย ศักยภาพต่างๆของรัสเซีย จนนำไปสู่ความพังพินาศ หรือความล่มสลายในขั้นตอนสุดท้าย แต่อะไรต่อมิอะไร...มันดันเกิดอาการ “ย้อนศร” แบบ
“ยืมหอกสนองคืน”เอาดื้อๆ นั่นก็คือ...บรรดาประเทศในโลกตะวันตกทั้งหลาย ไม่ว่ายุโรป หรืออเมริกา กลับเกิดความเสื่อมทรุด เสื่อมโทรม ไม่ว่าในทางการเมือง เศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรมประเพณี จนอาจเกิดการพังทลายจาก “ปัญหาภายใน” โดยที่รัสเซีย หรือพวกโลกหลายขั้วอำนาจทั้งหลาย แทบไม่ต้องเสียเวลาออกเรี่ยว ออกแรง เอาเลยแม้แต่น้อย!!!


กำลังโหลดความคิดเห็น