ในโลกของปุถุชนคนมีกิเลส โดยมีราคะ โทสะ โลภะ และโมหะ เป็นรากเหง้าหรืออกุศลมูล ดังนั้น มนุษย์ทุกคนมีอกุศล 3 ประการนี้ครอบงำจิตใจ และบงการให้กายกับวาจาพูดและทำด้วยอำนาจของอกุศลมูลตัวใดตัวหนึ่งในขณะจิตที่พูดและทำ โดยปราศจากการควบคุมของสติตราบเท่าที่คนไม่มีศีลควบคุมกายกับวาจา และไม่มีธรรมคือสติควบคุมจิตใจ
ด้วยเหตุนี้ ความไม่ยุติธรรมเกิดขึ้นได้ถ้าบุคลากรในกระบวนการยุติธรรมในขั้นใดขั้นหนึ่งเริ่มตั้งแต่ขั้นต้นคือ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ขั้นกลางคือ อัยการและขั้นสุดท้ายคือ ตุลาการไม่มีศีล และไม่มีธรรม
ในทางกลับกันถ้าบุคลากรในกระบวนการยุติธรรมมีศีลและมีธรรม ความยุติธรรมก็เป็นอันคาดหวังได้ ดังนั้น ความยุติธรรมจึงเป็นผลของการกระทำของบุคลากรในกระบวนการยุติธรรม โดยยึดความถูกต้องโดยไม่คำนึงว่าจะถูกใจหรือไม่ถูกใจของทั้งโจทย์และจำเลย
เมื่อวันที่ 22 สิงหาคมที่ผ่านมา ศาลอาญาได้ตัดสินคดีมาตรา 112 โดยมีอดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร เป็นจำเลย และผลของการตัดสินศาลได้ยกฟ้องจำเลยไม่มีความผิด
จากผลของการตัดสินคดีทำให้เกิดกระแสสังคมแบ่งออกเป็นสองฝ่ายคือ
1. ฝ่ายที่เห็นด้วยกับคำตัดสินของศาลก็บอกว่าศาลตัดสินยุติธรรมแล้ว
2. ฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยกับคำตัดสินก็บอกคำตัดสินของศาลไม่ยุติธรรม
ไม่ว่าจะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยเมื่อศาลตัดสินแล้ว ก็จะต้องยอมรับคำตัดสิน
ส่วนว่าในความเป็นจริงผู้คนในสังคมจะคิดอย่างไรนั้น เป็นสิทธิส่วนบุคคลที่สามารถคิดได้ แสดงออกได้ ภายใต้กรอบแห่งกฎหมายรัฐธรรมนูญ
ในการปกครองในระบอบประชาธิปไตย ประชาชนเป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตยสามารถกำหนดทิศทางการปกครองประเทศได้ โดยการเลือกบุคคลเข้าไปเป็นตัวแทนในสภาฯ เพื่อทำหน้าที่ในด้านนิติบัญญัติและบริหาร
ดังนั้น ถ้าไม่เห็นด้วยกับการกระทำของนักการเมืองคนใด และพรรคการเมืองใดก็อย่าเลือกนักการเมืองคนนั้น และพรรคการเมืองนั้นเข้าไปเป็นตัวแทนก็จะเป็นการแก้ปัญหาตามแนวทางประชาธิปไตย
อีกประการหนึ่ง คดีที่มีนักการเมืองเป็นจำเลยมิได้มีแค่วันที่ 22 สิงหาคม แต่ยังมีคดีที่รอการตัดสินของศาลที่ประกาศวันตัดสินแล้วอีก 2 คดีคือวันที่ 29 สิงหาคม และวันที่ 9 กันยายนที่จะถึงนี้
ดังนั้น ขอให้ใจเย็นๆ รอดูว่าผลของการตัดสินคดีออกมาเป็นไปตามที่ท่านผู้อ่านทั้งหลายคาดการณ์ไว้หรือไม่ และถ้าไม่ประชาชนจะเดินต่ออย่างไร ก็เป็นเรื่องของการเมืองภาคประชาชนจะดำเนินการและดำเนินการแล้วผลออกมาเป็นลบหรือบวกกับประเทศโดยรวม ผู้ที่เป็นต้นเหตุให้เกิดกระแสต้านจะต้องมีส่วนรับผิดชอบ
จริงอยู่การต่อต้านอำนาจโดยการออกมาชุมนุมในรูปแบบใดยากที่จะทำให้ถูกกฎหมายทุกประการ โดยเฉพาะกฎหมายจราจร
แต่ถ้าดูจากเจตนาในการออกมาชุมนุมและเหตุอันเป็นบ่อเกิดของการชุมนุมแล้ว มีเหตุให้บรรเทาโทษได้ด้วยว่าเขาเหล่านี้ทำเพื่อประเทศ และประชาชนโดยรวม