ถึงแม้ว่าการปะทะกับเขมรจะมีการหยุดยิงก็ใช่ว่าประเทศไทยจะสงบ และประชาชนจะอยู่สุขสบายคลายกังวล ตราบเท่าที่พรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาล และยังมีอดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร คอยบงการรัฐบาล เฉกเช่นตนเองเป็นนายกฯ ตัวจริง ทั้งนี้ อนุมานจากเหตุปัจจัยดังต่อไปนี้
1. รัฐบาลที่มีพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำไม่ว่าใครเป็นนายกฯ และไม่ว่าใครจะเป็นรัฐมนตรี กระทรวงไหนในสังกัดพรรคเพื่อไทย จะต้องฟังและทำตามอดีตนายกฯ ทักษิณ ทั้งๆ ที่โดยกฎหมายแล้วอดีตนายกฯ ทักษิณ เป็นคนนอกและการที่เข้าไปชี้นำดังกล่าวเข้าข่ายครอบงำพรรค ซึ่งเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย และได้มีผู้ร้องต่อ กกต.แล้ว
2. การที่พรรคเพื่อไทยปล่อยให้คนนอกครอบงำพรรคดังกล่าวแล้ว และ กกต.ไม่ดำเนินการให้รวดเร็วก็เท่ากับปล่อยปละละเลยทำให้ประชาชนหรือแม้กระทั่งนักการเมืองด้วยกันที่ต้องการเห็นกฎหมายมีความเข้มแข็ง ก็จะรู้สึกอึดอัดใจและเสื่อมศรัทธาต่อองค์กรอิสระ ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อระบอบการปกครองในระบอบประชาธิปไตย
3. ด้วยเหตุปัจจัยข้อ 1 และข้อ 2 ถ้าคดีความที่นางสาวแพทองธาร ชินวัตร และอดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร เป็นจำเลย โดยเฉพาะคดีถอดถอนนางสาวแพทองธาร ออกจากตำแหน่งนายกฯ และคดีมาตรา 144 ไม่จบก่อน 15 กันยายน เชื่อได้ว่ามีเหตุการณ์ชุมนุมขับไล่รัฐบาล และเรียกร้องให้มีการยุบสภาฯ หรือลาออกจะรุนแรงขึ้นและนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงทางการเมืองก่อน 2 ตุลาคมได้
อนึ่ง ถ้ามองการเมืองในทัศนะของโหรก็อธิบายขยายความโดยอาศัยดวงดาวได้ว่า จากนี้ไปถึง 2 ตุลาคม 68 ดาวเสาร์จะโคจรถอยหลังทับราหูในราศีกุมภ์ ส่งผลกระทบต่อหลายๆ คนที่ลัคนาอยู่ราศีสิงห์ ตุลย์ และกุมภ์ รวมไปถึงดวงเมืองด้วย
ดังนั้น เชื่อได้ว่าคดีความที่นักการเมืองเป็นจำเลยเกือบทุกคดีที่มีการตัดสินก่อน 2 ตุลาคม จะจบลงด้วยจำเลยแพ้คดีต้องนอนคุก เว้นวรรคทางการเมือง และส่งผลให้มีการเปลี่ยนรัฐบาลแน่นอน