xs
xsm
sm
md
lg

สมเป็น“วีรบุรุษประชาธิปไตย”!!!

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“สอดแนมการเมือง”
“ชัชวาลย์ ชาติสุทธิชัย”


ในเหตุการณ์ “พฤษภาทมิฬ” เมื่อ พล.อ. สุจินดา คราประยูร ได้สั่งทางการให้จับตัว พล.ต. จำลอง ศรีเมือง ผู้นำมวลชนต่อต้านเผด็จการทหาร รสช. ไปแล้ว แต่ประชาชนยังคงไม่ยอมจำนนต่อเผด็จการทหาร รสช. จึงยังมีทั้งการชุมนุมและการปะทะกับทหารอย่างกระจัดกระจายต่อเนื่อง โดยไม่เกรงกลัวต่อผู้ปกครองอำนาจรัฐอธรรม

ในขณะเดียวกัน คนหลายกลุ่มที่ร่วมชุมนุมและเกี่ยวข้องในเหตุการณ์นั้น ได้ร่วมกันประชุมหาทางออกให้กับประเทศ เช่น กลุ่มภูมิธรรม เวชชยชัย กับพวกในสังกัดของทักษิณ ชินวัตร! กลุ่มนักการเมืองฝ่ายค้านในสภาก็ชุมนุมนอกสภา เช่น กลุ่มของ ส.ส.เทิดภูมิ ใจดี ที่มี พล.อ. ชวลิต ยงใจยุทธ หนุนอยู่! กลุ่มเพื่อน พิจิตต รัตตกุล ที่มี “น้องเขย” หนุนช่วยเรื่องค่าใช้จ่ายซึ่งก็มีผมที่ใช้เงินของพี่ สนธิ ร่วมอยู่ด้วย!

ยังมีกลุ่มสื่อมวลชนของ สนธิ ลิ้มทองกุล แม้เจ้าตัวจะอยู่นอกประเทศ แต่กลุ่มคนของ สนธิ ยังปักหลักต่อสู้กับเผด็จการทหาร รสช. อย่างต่อเนื่อง! โดยเฉพาะกลุ่มจตุพร พรหมพันธุ์ และเพื่อนๆ ที่ยังปักหลักชุมนุมกันที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง ได้ประกาศเชิญให้มาชุมนุมใหญ่กันอีกครั้งที่นั่น ทำให้ประชาชนที่ไร้ผู้นำมุ่งหน้าจะไปร่วมชุมนุมใหญ่กันที่มหาวิทยาลัยพ่อขุนอย่างคึกคักอีกครั้งหนึ่ง

นั่นคือบางส่วนในเหตุการณ์ “พฤษภาทมิฬ” ส่วนกลุ่มอื่นๆ ที่ต่อต้าน กลุ่มเผด็จการทหาร รสช. ผมไม่อาจรู้ในรายละเอียดได้

ในส่วนของเพื่อนๆ และผม นอกจากจะเสนอผลักดันให้ พิจิตต รัตตกุล ขึ้นเป็นผู้นำการชุมนุมแทน พล.ต.จำลอง ศรีเมือง เครือข่ายพิจิตตกับพวกเราได้มีการติดต่อกับ ส.ส. และเพื่อนอีกหลายคนที่อยู่กับ ดร.อาทิตย์ อุไรรัตน์ เพื่อหาโอกาสเข้าพบท่าน พวกเราเชื่อกันว่า ก่อนถึงวันเข้าเฝ้า “ในหลวงรัชกาลที่ 9” ประธานสภาฯ ดร.อาทิตย์ อุไรรัตน์ ต้องกลับบ้านก่อนอย่างแน่นอน

เป็นไปตามคาดครับ! ดร.อาทิตย์ อุไรรัตน์ ได้กลับบ้านก่อนวันเข้าเฝ้าฯ การพบกันในครั้งนั้นของเพื่อนๆ ยืนยันต่อท่านประธานสภาฯ ว่า การตั้ง พล.อ.อ. สมบุญ ระหงษ์ เป็นการสืบทอดอำนาจเผด็การทหาร รสช. ประชาชนไม่ยอม.. จะชุมนุมต่อ ต่อสู้ต่อไปอย่างแน่นอน!!!

แต่น่าเสียดายที่ผมติดงานจำเป็น จึงไม่ได้ไปร่วมอธิบายเหตุผล และกล่าวติงเตือนว่า “ระวัง! ถ้าพี่อาทิตย์ตั้ง พล.อ.อ. สมบุญ ล่ะก็.. โรงพยาบาลพญาไทอาจถูกประชาชนเผา!!!”

เพราะสถานการณ์ขณะนั้นพร้อมบานปลาย เรื่องต้องไม่จบอย่างที่เผด็จการทหาร รสช. คิดว่า “ปราบแล้วจบ” เพราะการต่อต้านอย่างจริงจังของประชาชนต่อการสืบทอดอำนาจของเผด็จการทหาร รสช. แม้จะมีผู้คนบาดเจ็บล้มตายไปแล้วหลายสิบคน แต่ประชาชนยังคงเดินหน้า “สู้ไม่ถอย” อย่างกล้าหาญ

นั่นทำให้ “ผู้ใหญ่หลายคนในสังคมไทย” ทนดูความโหดเหี้ยมของกลุ่มเผด็จการทหาร รสช. ต่อไปไม่ได้

โชคดีของคนไทยที่มี “ในหลวงรัชกาลที่ 9” ผู้ทรงรักและห่วงใยพสกนิกร จึงทรงมีพระเมตตาเสด็จลงมาแก้วิกฤต จนสองนายพลต้องยอมยุติความขัดแย้ง การปะทะกันระหว่างทหารกับประชาชนจึงค่อยๆ ยุติลง และ พล.อ. สุจินดา ยอมลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี

สถานการณ์ช่วงนั้นจึงต้องมีนายกฯ คนใหม่.. นี่จึงมาถึงบทพิสูจน์ความสามารถในการแก้ปัญหาชาติและประชาชนของประธานสภาฯ ดร.อาทิตย์ อุไรรัตน์

เผด็จการทหาร รสช. อยากได้ พล.อ.อ. สมบุญ ระหงษ์ เป็นนายกรัฐมนตรี! ในขณะที่ประชาชนไม่ต้องการ สมบุญ ระหงษ์!

เมื่อสังคมไทยขัดแย้งรุนแรงขนาดนี้ ดร.อาทิตย์ อุไรรัตน์ ประธานสภาฯ จะทำเช่นไรล่ะ?

เบื้องหลังของเรื่องนี้ ดร.อาทิตย์ ได้เปิดเผยด้วยตนเองว่า “คิดเรื่องนี้ใต้บันไดตำหนักจิตรลดารโหฐาน”

อืม.. น่าสนใจทีเดียว! งั้นมาฟัง ดร.อาทิตย์ อุไรรัตน์ ประธานสภาฯ ในเวลาสำคัญนั้น ดร.อาทิตย์ เล่าถึงการแก้ปัญหาอย่างชาญฉลาดนี้..ว่า

ตอนนั้นไม่มีใครนึกถึง คุณอานันท์ ปันยารชุน แม้ก่อนหน้านี้เมื่อคราว รสช. รัฐประหารยึดอำนาจ พล.อ. ชาติชาย ชุณหะวัณ ได้แต่งตั้งคุณอานันท์ เป็นนายกฯ ซึ่งบริหารบ้านเมืองเรียบร้อยดี จึงคิดว่า ท่ามกลางสถานการณ์บ้านเมืองเช่นนี้ ไม่มีใครเหมาะไปกว่าอดีตนายกฯ อานันท์อีกแล้ว

“He is ready-made PM” ดร.อาทิตย์พูดถึงอดีตนายกฯ อานันท์ “คนที่พร้อมที่สุดเพิ่งออกไปหมาดๆ ไม่ต้องฟอร์มรัฐบาลหรือคณะรัฐมนตรีใหม่ ผมขอชุดเดิมกลับเข้าไปอีก มันก็พร้อมอยู่แล้ว ใครต่อใครของท่านให้มาอยู่แค่สามเดือนแล้วยุบสภาให้หน่อย ก็มีอยู่คนเดียว คือคุณอานันท์ ปันยารชุน”

ดร.อาทิตย์ ต่อโทรศัพท์สายตรงถึงคุณอานันท์ ทาบทามให้รับตำแหน่งนายกฯ อีกครั้ง ดร.อาทิตย์พยายามชี้แจงเหตุผลต่อคุณอานันท์ว่า ไม่ได้ขอให้รับตำแหน่งนายกฯ เพื่อให้อำนาจ แต่ขอให้รับตำแหน่งเพื่อยุบสภา บริหารประเทศนำไปสู่การเลือกตั้งครั้งต่อไปเท่านั้น

แต่การทาบทามครั้งแรกล้มเหลว คุณอานันท์ฯ ปฏิเสธ!

ความพยายามทาบทามคุณอานันท์เกิดขึ้นอีกเป็นครั้งที่สอง ดร.อาทิตย์ยืนยันเจตนารมณ์เดิมคือ ให้ยุบสภาให้ที เที่ยวนี้คุณอานันท์รับแนวคิดนี้ไว้พิจารณา!

เย็นวันที่ 10 มิถุนายน 2535 ดร.อาทิตย์เดินทางไปพระตำหนักจิตรลดารโหฐาน โดยมี ไพโรจน์ เปี่ยมพงษ์ศานต์ ประกบติดตลอดจนแทบกลายเป็นเงา เพื่อกันไม่ให้ ดร.อาทิตย์แอบไปเจรจากับใคร จนนาทีสุดท้ายก่อนนำชื่อนายกฯ ขึ้นทูลเกล้า จึงต้องแยกไปเพราะไพโรจน์ฯ เข้าวังไม่ได้

ประธานสภาฯ ถือกระดาษหัวครุฑเข้าวัง อีกไม่กี่นาทีข้างหน้าต้องเข้าเฝ้า“ในหลวง” แต่กระดาษหัวครุฑใบนั้นยังว่างเปล่า!

“ผมบอก ดร.ไพศิษฐ์ พิพัฒนกุล เลขาสภาผู้แทนราษฎรในขณะนั้นว่า ผมไม่สามารถเสนอชื่อ พล.อ.อ.สมบุญ ระหงษ์ เป็นนายกฯ ได้หรอก เพราะบ้านเมืองพังแน่ นองเลือดกันแน่นอน ผมคงจะต้องเสนอคุณอานันท์ ปันยารชุน คุณไพศิษฐ์ถามว่า แน่ใจหรือ! ผมก็ย้ำไปว่า ไม่เป็นไร ผมรับผิดชอบเอง”

ที่บันไดใต้พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน..

ดร.อาทิตย์โทรหาคุณอานันท์เป็นครั้งสุดท้าย “ผมกำลังจะเข้าเฝ้าเดี๋ยวนี้แล้ว อานันท์เตรียมรับนะ”

เจอประโยคนี้เข้าไปคุณอานันท์จะว่าอย่างไรได้..

หลังจากนั้น ดร.อาทิตย์จึงถามหาพิมพ์ดีด และขอให้เจ้าพนักงานพิมพ์ตามคำบอก โดยมีหัวข้อว่า คำกราบบังคมทูลของ ดร.อาทิตย์ อุไรรัตน์ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ในการเสนอชื่อ นายอานันท์ ปันยารชุน เป็นนายกรัฐมนตรี

“ประเทศบอบช้ำมากแล้ว ข้าพระพุทธเจ้าไม่มีทางเลือก นอกจากจะเสนอให้ตั้งนายกรัฐมนตรีเพื่อยุบสภา พอกราบทูลเสร็จก็เสนอให้ลงพระปรมาภิไธย พระองค์ไม่ทรงตรัสอะไรเลย..”

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงลงพระปรมาภิไธย จากนั้น ดร.ไพศิษฐ์ ทำหน้าที่อัญเชิญพระบรมราชโองการไปที่บ้านนายอานันท์ฯ

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงรับสั่งกับ ดร.อาทิตย์ ว่า “กล้าหาญมาก สมเป็นรัฐบุรุษ”

เมื่อประธานสภาฯ ตัดสินใจพลิกโผ เปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรีกลางอากาศชนิดไม่มีใครรู้ล่วงหน้า จึงเกิดเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ที่สังคมโจษจันกันทั่ว

กองทัพนักข่าวและช่างภาพเฝ้าอยู่ที่บ้าน พล.อ.อ. สมบุญ ระหงษ์ ค่ำวันนั้น พล.อ.อ. สมบุญ ระหงษ์ แต่งชุดข้าราชการปขาว รอรับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ มีพระบรมฉายาลักษณ์พร้อมพานพุ่ม จัดเตรียมอย่างพร้อมสรรพ แต่เมื่อถึงเวลา เลขาธิการสภาฯ กลับนำพระบรมราชโองการฯ เดินทางไปที่บ้านนายอานันท์ฯ

นายอานันท์ฯ แม้จะรู้ล่วงหน้า แต่ก็เพียงไม่นาน ว่ากันว่าแทบไม่มีเวลาเตรียมตัว กระทั่งพระบรมฉายาลักษณ์ที่ตั้งไว้รอรับการโปรดเกล้าฯ รับสนองพระบรมราชโองการ ยังเป็นเพียงพระบรมฉายาลักษณ์เล็กๆ เท่านั้น

วีรกรรมพลิกโผกลางอากาศ ทำให้ ดร.อาทิตย์ได้รับการแซ่ซร้องจากสื่อฯ และประชาชน ส่วนผม.. ผมขอกราบคารวะและยืนยันด้วยใจว่า ดร.อาทิตย์ อุไรรัตน์ สมเป็น“วีรบุรุษประชาธิปไตย”จริงๆ

งานเพื่อชาติและประชาชนครั้งนี้ มีค่างวดแสนแพงที่ต้องจ่าย ดร.อาทิตย์และครอบครัว ถูกจ้องเล่นงานถึงชีวิตครับ!!!


กำลังโหลดความคิดเห็น