ยุคถิ่นตาขาวจะจบลงเมื่อคนโกงลดลง

ท่านผู้อ่านที่สนใจในศาสตร์พยากรณ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง โหราศาสตร์คงเคยได้อ่านหรือได้ยิน ได้ฟังคำทำนายเหตุการณ์บ้านเมืองที่เรียกว่า 10 ยุคพยากรณ์  

10 ยุคพยากรณ์คือคำทำนายเหตุการณ์บ้านเมืองในสมัยกรุงเทพมหานคร โดยแบ่งเป็น 10 ยุคเริ่มด้วยยุคพันธุ์ยักษ์และจบลงด้วยยุคชาววิไล แต่ไม่นำระยะเวลาของแต่ละยุคว่าเริ่มเมื่อใด และสิ้นสุดเมื่อใด ทั้งไม่มีรายละเอียดเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในแต่ละยุค มีเพียงชื่อของยุคซึ่งมีความหมายเป็นปริศนาในเชิงพยากรณ์เท่านั้น ทั้งไม่ปรากฏว่าเป็นคำทำนายของผู้ใด

ต่อมาได้มีบรรดาโหรได้นำมาอธิบายขยายความ โดยนำเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาประยุกต์ให้เข้ากับชื่อของแต่ละยุค และหนึ่งในบรรดาโหรที่ว่านี้ก็คือ อาจารย์เทพย์ สาริกบุตร ได้เขียนไว้ในหนังสือชื่อว่า โหราศาสตร์ในวรรณคดีซึ่งมีเนื้อหาสาระน่าสนใจ

10 ยุคพยากรณ์เริ่มด้วยยุคพันธุ์ยักษ์และจบลงด้วยยุคชาววิไล แต่ก่อนจะถึงยุคสุดท้ายคือยุคถิ่นตาขาวหมายถึงยุคที่คนในสังคมโลกเห็นแก่ตัว และมีการโกงกินอย่างโจ่งแจ้งชัดเจน ทั้งในภาครัฐและภาคเอกชน

ในรอบ 10 กว่าปีที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน ทุจริต คอร์รัปชันเกิดขึ้นอย่างดาษดื่น และเกิดขึ้นแล้วผู้กระทำผิดซึ่งมีอิทธิพล โดยอาศัยอำนาจและอำนาจยังหลุดรอดจากเงื้อมมือกฎหมาย และกลายเป็นมีชื่อเสียง คนในสังคมส่วนหนึ่งและอาจเป็นส่วนใหญ่ด้วยให้การยอมรับกลายเป็นผู้มีอิทธิพลในสังคม และคนเหล่านี้เองได้เข้าสู่วงการเมืองในระบอบประชาธิปไตย โดยอาศัยการลงสมัครเลือกตั้งแล้วแสวงหาโอกาสที่เป็นรัฐบาลบริหารประเทศ และใช้อำนาจรัฐเป็นเครื่องมือแสวงหาประโยชน์ในทางมิชอบ โดยร่วมมือกับข้าราชการประจำและพ่อค้าโกงกินงบประมาณในลักษณะ 3 ประสาน

ส่วนในภาคเอกชนก็ใช่ว่าจะด้อยกว่าภาครัฐ ธุรกิจสีเทารุ่งเรืองเฟื่องฟูขยายตัวอย่างรวดเร็ว จากการก่อการทุจริตในระดับปัจเจกจี้ปล้นยกระดับเป็นแก๊งหลอกลวงระดับชาติ จะเห็นได้จากการหลอกลวงให้มีผู้มาลงทุนและสุดท้ายหอบเงินหนีไปจนถึงตั้งเป็นแก๊งต้มตุ๋นหลอกลวงระดับชาติเช่น แก๊งคอลเซ็นเตอร์ เป็นต้น

จากพฤติกรรมทางสังคมดังกล่าวข้างต้น อนุมานได้ว่าในรอบ 10 กว่าปีที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน น่าจะเข้าข่ายยุคถิ่นตาขาวตามความหมายของยุค

อย่างไรก็ตาม ยุคที่ว่านี้น่าจะเป็นปลายยุคใกล้จะสิ้นสุดแล้ว ทั้งนี้อนุมานจากเหตุปัจจัยดังต่อไปนี้

1. ผู้กระทำการทุจริต คดโกง โดยเฉพาะรายใหญ่หลายรายกำลังตกเป็นจำเลยเข้าคุกไปแล้วก็มี กำลังจะเข้าคุกก็มี

2. ประชาชนซึ่งเคยหลงใหลในคนโกงเริ่มมองเห็นสัจธรรม และออกมาต่อต้านคนโกงมากขึ้น จะเห็นได้จากการที่มีประชาชนออกมาต่อต้านโครงการตั้งบ่อนกาสิโน เป็นต้น

3. คดีที่นักการเมืองเป็นจำเลยมาจากคดีซึ่งล่าช้าอืดอาด และมีทีท่าว่าจะเป็นมวยล้มต้มคนดู มีแนวโน้มว่าเร่งรีบดำเนินการและมีแนวโน้มว่าจะมีความเที่ยงธรรมมากขึ้น ผิดเป็นผิด ถูกเป็นถูก คนทำผิดจะต้องได้รับโทษ จะอยู่เหนือกฎหมายโดยการใช้เงินและอำนาจรัฐ เฉกเช่นในอดีตทำได้ยากขึ้นหรือทำไม่ได้แล้ว

ถ้าปัจจัย 3 ข้อข้างต้นเกิดขึ้นจริงก็อนุมานได้ว่า ยุคถิ่นตาขาวใกล้จบแล้ว ต่อไปนี้จะเป็นยุคชาววิไลคนไทยที่ทำดีจะได้อยู่เย็นเป็นสุขเสียที ไม่ต้องมานั่งถอนใจดูคนชั่ว คนเลวอยู่ในอำนาจรัฐและเป็นผู้นำชุมชนจอมปลอมอีกต่อไป