เปิดฉากสัปดาห์นี้...คล้ายๆ กำลังต้อง “เปิดประตูนรก” ยังไงยังงั้น!!! เพราะอย่างที่ทราบๆ ตั้งแต่ช่วงปลายสัปดาห์ที่แล้วนั่นแหละว่า “ไอ้เหี้ยม-อิสราเอล” ที่ผู้นำอย่าง “นายBenjamin Netanyahu”ซึ่งต้องหาทางประคับประคองอำนาจตัวเองเอาไว้ด้วย “สงคราม” ได้ตัดสินใจส่งฝูงบินโจมตีนับร้อยๆ ลำ บุกเข้าไปถล่มประเทศอิหร่านในนาม “ปฏิบัติการสิงโตผงาด” (Operation Rising Lion) ชนิดแหลกยับเยินไปแทบทั้งประเทศ และโดยทันที-ทันควัน ไม่ได้ยืดเยื้อ ยืดเวลา แบบ “เราจะทำตามสัญญา-ขอเวลาอีกไม่นาน” เหมือนครั้งก่อนๆ ต่อไปอีกแล้ว ภายในอีกแค่ไม่กี่ชั่วโมง คุณน้าอิหร่านท่านก็ได้เปิดฉากปฏิบัติการ “True Promise 3” ถล่มอิสราเอลด้วยจรวดและโดรน เล่นเอาระบบป้องกันระดับโดมเหล็กหรือ “Iron Dome” อันขึ้นชื่อลือชา เกิดอาการลิ้นแข็ง ลิ้นพันกันเอาดื้อๆ!!!
คือน่าจะเจ็บปวดรวดร้าวทรมานไปด้วยกันทั้งสองฝ่ายนั่นแหละทั่น!!! สำหรับสิ่งที่เรียกว่า “สงคราม” อันแทบไม่ต่างอะไรไปจากการสาดน้ำใส่กันชนิดหนีไม่พ้นต้องเปียกทั้งคู่ไปจนได้ สำหรับอิหร่าน...อาจจะหนักหน่อย เพราะเห็นว่าตายไป80 บาดเจ็บกว่า 300 และที่ต้องถือเป็นการสูญเสียครั้งใหญ่ ก็คือทั้งระดับประธานเสนาธิการทหาร ไปจนถึงผู้บัญชาการสูงสุดของกองกำลัง “IRGC” รวมทั้งนักวิทยาศาสตร์ในโครงการนิวเคลียร์ มีอันต้อง “มรณสักขี”ไปเป็นรายๆ ส่วนความเสียหายของโครงการนิวเคลียร์ แม้ยังมิอาจสรุปได้ชัดเจน แต่ก็อย่างที่ผู้นำอิหร่าน ประธานาธิบดี “Masoud Pezeshkian” ท่านออกมาป่าวประกาศเอาไว้นั่นแหละว่า ไม่ว่าอุปกรณ์เครื่องมือใดๆ จะพังพินาศหรือไม่? อย่างไร? แต่ “ความคิด-ความรู้สึก” ของอิหร่านในเรื่องนี้ ย่อมไม่มีวันพังพินาศ สูญหายไปโดยเด็ดขาด...
และการ “แก้แค้น-เอาคืน” ของอิหร่านคราวนี้...ต้องเรียกว่า “เอาเรื่อง” อยู่พอสมควรทีเดียว แม้ว่าการตอบโต้ด้วยจรวด ด้วยโดรน อาจไม่ถนัดถนี่เท่ากับการใช้เครื่องบิน-ฝูงบิน อย่างอิสราเอล แต่ก็เล่นเอาบาดเจ็บ ล้มตายไปราวๆ60 กว่าราย ถ้าว่ากันตามรายงานข่าวของสื่ออิสราเอลอย่าง “The Jerusalem Post”เมื่อช่วงวันศุกร์ที่ผ่านมา(13 มิ.ย.) และถ้าว่ากันตามรายงานข่าวของสื่ออิหร่านอย่าง “Press TV”นอกจากเป้าหมายทางทหารนับเป็นโหลๆ ของอิสราเอลจะยู่ยี่ ยับเยิน กันไปมิใช่น้อย เห็นว่าเครื่องบินโจมตีรุ่นใหม่ล่าสุดจากอเมริกาอย่าง “F-35” ถูกอิหร่านเขาสอยลงไปถึง 2 เครื่อง ส่วนจะต้องเจ็บปวดรวดร้าวกันอีกขนาดไหน? ก็ยังยากที่จะสรุปได้ เพราะขณะที่ฝ่ายอิสราเอลบอกว่า “นี่...แค่จุดเริ่มต้น” หรือยังอาจต้องปฏิบัติการต่อไปอีกเป็นสัปดาห์ๆ ฝ่ายอิหร่านที่ได้สะสมบรรดา “บ้องข้าวหลามยักษ์” เอาไว้เต็ม “เมืองจรวด”ก็ทำท่าว่าพร้อมจะปฏิบัติการต่อเนื่องแบบชนิดถึงไหน-ก็ถึงกัน หรือพร้อมที่จะ “ฉิบหาย...กันไปข้าง!!!” อะไรทำนองนั้น...
ด้วยเหตุนี้...โอกาสที่จะบานปลาย ปลายบาน ไม่ใช่แค่สงคราม “ระดับภูมิภาค”เผลอๆ อาจไปไกลถึงขั้น “ระดับโลก” เอาเลยก็ย่อมได้!!! เพราะทั้งสองฝ่ายต่างไม่ใช่ “นกไร้ขน-คนไร้เพื่อน” ด้วยกันทั้งคู่ ขณะที่อิสราเอลนั้น แม้ว่าผู้ที่ออกมาส่งเสียงยุ เสียงเชียร์ ถือว่าเป็น “ผลงานที่ยอดเยี่ยม”หรือ “เกมเริ่มแล้ว...จงสวดมนต์ให้อิสราเอล” ดังเช่นผู้นำอเมริกาอย่าง “ทรัมป์บ้า”หรือวุฒิสมาชิกประเภทสุดโต่ง อย่าง “นายLindsey Graham” จะถือเป็นผู้ทรงอำนาจอิทธิพลระดับสูงสุดแห่งโลกก็ตาม แต่บรรดาผู้ที่ออกมา “ประณาม” การกระทำของอิสราเอลต่ออิหร่านคราวนี้ ต้องเรียกว่า...ประสานเสียงแบบคอรัส-รัดคอกันไปแทบจะทั่วทั้งโลก ไม่ว่าไก่งวงตุรกี-ตุรเคีย ที่สรุปว่าเป็นการกระทำที่ “ป่าเถื่อน” เป็นอย่างยิ่ง มหาเศรษฐีซาอุฯ ที่แม้เคยเป็นคู่กัดกับอิหร่านมาก่อนก็ตาม แต่ก็ยังอดไม่ได้ที่จะตำหนิว่าเป็นการกระทำที่ “น่าเกลียด-น่าชัง” ตามด้วยโอมาน คูเวต ยูเออี อิรัก จอร์แดน เลบานอน มาเลเซีย อินโดนีเซีย รัสเซีย อินเดีย คิวบา เวเนซุเอลา ฯลฯ แม้แต่พันธมิตรที่ใกล้ชิดกับอเมริกาอย่างคุณพี่ญี่ปุ่น-ยุ่นปี่ รัฐมนตรี “Takeshi Iwaya” ท่านยังรับไม่ได้ ต้องออกมาตำหนิอิสราเอลแบบตรงไป-ตรงมา...
แต่สำหรับมหาอำนาจสูงสุดแห่งโลกอย่างคุณพ่ออเมริกาแล้ว บรรดาเสียงตำหนิติติงเหล่านี้...แม้จะเข้าหูซ้ายแต่คงไหลทะลุออกไปทางหูขวาแบบไม่เหลือติดรูหูอยู่แล้วแน่ๆ เพราะอย่างที่สำนักข่าว “รอยเตอร์” เขาได้รายงานถึงบรรยากาศการประชุมสหประชาชาติ เพื่อหาทางออกให้กับสันติภาพในตะวันออกกลางที่บรรดาประเทศต่างๆ แทบจะทั่วทั้งโลก หรือ 147 ประเทศ ต่างเห็นพ้องต้องกันต่อแนวทางที่เรียกๆ กันว่า “The Two-state Solution” แต่ด้วยข้อมูลจากโทรเลขทางการทูตของคุณพ่ออเมริกาเมื่อช่วงวันอังคารที่ผ่านมา (10 มิ.ย.) ถึงกับ “ขู่”เอาไว้ว่าพร้อมจะเล่นงานใครก็ตาม ประเทศใดก็ตาม “ที่มีพฤติกรรมต่อต้านอิสราเอล”หรือ “อเมริกาพร้อมที่จะคัดค้านการกระทำใดๆ ที่จะนำไปสู่การรับรองรัฐปาเลสไตน์ฝ่ายเดียว”โดยเฉพาะเมื่อฝรั่งเศสและซาอุดีอาระเบีย ทำท่าว่าคิดจะประกาศ “รับรองรัฐปาเลสไตน์” อีกไม่นานนับจากนี้...
หรือพูดง่ายๆ ว่า...คำพูดแบบสองแง่สองง่ามที่ผู้นำอเมริกาได้พูดไว้ระหว่างการพบปะกับผู้นำแคนาดา จนสำนักข่าวต่างๆ อย่างเช่น “Media Line” ถึงกับนำไปแปลความ ตีความ ว่าอาจหมายถึงการคิดจะ “รับรองรัฐปาเลสไตน์” ก่อนหน้าที่จะเดินทางไป “ทัวร์ตะวันออกกลาง” เมื่อเร็วๆ นี้ สรุปได้ว่า...น่าจะเป็นข่าวปลอม หรือข่าวหลอก เพื่อเอาไว้ “หลอกหาตังค์” บรรดาพวกประเทศมหาเศรษฐีในตะวันออกกลางก็น่าจะได้ เพราะโดยพฤติกรรม การกระทำของคุณพ่ออเมริกานั้น ไม่ได้เอื้ออำนวยต่อสิ่งที่เรียกว่า “สันติภาพ” ในตะวันออกกลางเอาเลยแม้แต่น้อย ไม่ว่าการรู้เห็นเป็นใจต่อการ “ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์”ชาวปาเลสไตน์ในฉนวนกาซาร่วมกับกองทัพอิสราเอล หรือแม้แต่การโจมตีอิหร่านคราวนี้ ถึงแม้ “ทรัมป์บ้า”จะออกมาพูดว่าพยายาม “ให้โอกาส” อิหร่านครั้งแล้ว ครั้งเล่า ให้มาแล้วถึง60 วัน โดยอาศัย “การเจรจา” ไม่ว่าโดยทางตรง-ทางอ้อมก็ตามที แต่ก็น่าจะเป็นคำพูดประเภทออกมาทาง “ทวาร”หรือประเภท “ผายลม”เราดีๆ นี่เอง เพราะความพยายาม “ยัดเยียด” ให้อิหร่านต้องยกเลิกโครงการนิวเคลียร์ทุกประเภทไม่ว่าสันติ-หรือไม่สันติก็ตาม ยังไงๆ...ย่อมเป็นสิ่งที่ “รับไม่ได้”สำหรับประเทศใดๆ ที่มี “อธิปไตย” เป็นของตัวเองอยู่แล้วแน่ๆ การเจรจาระหว่างอเมริกากับอิหร่าน ก็จึงไม่ต่างอะไรไปจากการยืดเวลาเพื่อให้พันธมิตรอันศักดิ์สิทธิ์ของตัวเอง อย่างอิสราเอล มีเวลาเตรียมตัวที่จะถล่มอิหร่านให้จั๋งหนับยิ่งขึ้นไปเท่านั้น...
ส่วนใครที่คิดว่าอเมริกาไม่รู้เรื่อง หรือไม่เกี่ยวด้วยกับการโจมตีครั้งนี้ ดังที่รัฐมนตรีต่างประเทศอเมริกาได้ออกตัวไว้ล่วงหน้า
บรรดาผู้เชี่ยวชาญและสำนักข่าวทั้งหลายเขามีข้อสรุปคล้ายๆ กัน คือมีแต่ “คนที่ตายแล้ว” เท่านั้นที่เชื่อๆ ไปตามนั้น เพราะแม้แต่ผู้นำอเมริกายังอดไม่ได้ที่จะคุยโวว่ารู้มาแล้วก่อนหน้านั้น ความพยายามแสดงออกถึงการใฝ่หา “สันติภาพ”ของ “ทรัมป์บ้า”เลยออกจะหนักไปทาง “กะล่อน” ไม่ใช่แค่ “บ้า”เฉยๆ ต่างไปจากผู้นำรัสเซียอย่างประธานาธิบดี “ปูติน”ที่แม้ว่าเพิ่งจะลงนามความเป็น “หุ้นส่วนยุทธศาสตร์”กับอิหร่านไปหมาดๆ แต่ทันทีที่เริ่มเห็นเค้าลางแห่งความฉิบหายวายวอด ซึ่งกำลังแผ่ไปทั่วทั้งตะวันออกกลาง หรืออาจขยายวงไปสู่โลกทั้งโลกก็ย่อมได้ ประธานาธิบดี “ปูติน” ท่านจึงตัดสินใจยกหูโทรศัพท์
โทร.ไปหาทั้งประธานาธิบดี “Masoud Pezeshkian” แห่งอิหร่าน และนายกรัฐมนตรี “Benjamin Netanyahu”แห่งอิสราเอล เพื่อหาทางลดระดับความรุนแรงของแต่ละฝ่าย โดยไม่ได้คิดจะลำเอียง ไม่ได้คิดจะแบ่งข้าง เลือกข้าง เอาเลยแม้แต่น้อย ไม่ต่างไปจากคุณพี่จีนที่อุตส่าห์ลงทุน ลงแรง จูงไม้-จูงมือ “2 คู่กัด”แห่งตะวันออกกลาง อย่างซาอุฯ-อิหร่าน ให้หันมา “จูบปาก” กันจนได้...
อันนี้ต้องเรียกว่า...ต่างไปจาก “ทรัมป์บ้า” คนละเรื่อง-คนละม้วน ไม่ว่าในแง่ความตรงไป-ตรงมา ความมีวุฒิภาวะและความปรารถนาต่อสิ่งที่เรียกว่า “สันติภาพ”ไม่ใช่ “สงคราม”ขณะที่ผู้พยายามเล่นบทเป็น “นักสันติภาพ” อย่าง “ทรัมป์บ้า”ไม่เพียงแต่ไม่สามารถยุติสงครามยูเครนภายใน24 ชั่วโมงอย่างที่เคย “สมรักษ์ คำสิงห์”เอาไว้ล่วงหน้าความพยายามทำลาย “การเจรจาสันติภาพ”ระหว่างรัสเซีย-ยูเครน ด้วยการ “ก่อการร้าย” ในดินแดนรัสเซียครั้งล่าสุด ก็ค่อนข้างเป็นที่ชัดเจนว่าไม่ใช่แค่ผู้ดีอังกฤษเท่านั้น ที่รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย “นายSergey Lavrov” ท่านเชื่อว่ามีส่วนเกี่ยวข้อง100 เปอร์เซ็นต์ แต่บรรดาผู้เชี่ยวชาญทั้งหลายต่างเชื่อไปในแนวเดียวกันว่า อย่างน้อยหน่วยงานข่าวกรองของอเมริกาอย่าง “CIA” น่าจะมีส่วนร่วมด้วยช่วยกันกับการก่อการร้ายครั้งนี้ อย่างแทบมิอาจปฏิเสธได้...
การมีส่วนรู้เห็นต่อการโจมตีอิหร่าน การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวปาเลสไตน์ในกาซา ไปจนถึงการเปลี่ยนไป-เปลี่ยนมา ในการยุติสงครามยูเครน ฯลฯ อะไรต่อมิอะไรเหล่านี้นี่เอง ที่ทำให้คำพูดที่ว่าจะสูบน้ำออกจากสระเพื่อหาทางขจัดกวาดล้างพวก “Deep
State”ของ “ทรัมป์บ้า”จึงเป็นแค่การ “ผายลม”ไปวันๆ หรือทำให้ความหมายของคำว่า “สันติภาพ”ของผู้นำที่สุดแสนกะล่อนอย่าง “ทรัมป์บ้า” แทบไม่ต่างอะไรไปจากการเล่นละครลิง เพียงเพื่อยืดเวลาในการเตรียมการสำหรับ “สงครามใหญ่”ที่มุ่งหวังจะให้ “อเมริกากลับคืนสู่ความยิ่งใหญ่”หรือกลับมาครองโลก ดำรงความเป็นประมุขโลกต่อไปให้จงได้...นั่นเอง!!!