วีโตมติแพทยสภา : ตามใจนาย จนตัวตายทางการเมือง

ในที่สุด นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.กระทรวงสาธารณสุข ในฐานะสภานายพิเศษแพทยสภาได้วีโตมติแพทยสภาในประเด็นการลงโทษแพทย์ที่ทำการตรวจรักษาอาการป่วยของอดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร และรายงานผลไม่ตรงกับความจริง โดยให้พักใบอนุญาต 2 รายและตักเตือน 1 ราย

จากผลของการวีโตของนายสมศักดิ์ ทำให้ต้องส่งมติดังกล่าวกลับไปให้แพทยสภาทบทวนใหม่ ถ้าเสียง 2 ใน 3 ของที่ประชุมยืนยันมติเดิม ก็จะมีผลบังคับใช้ แต่ถ้าเสียงน้อยกว่า 2 ใน 3 มติดังกล่าวก็ตกไป

การที่นายสมศักดิ์ วีโตมติแพทยสภาเป็นไปตามความคาดหมายของผู้คนในสังคม โดยเฉพาะคนในแวดวงการเมือง และติดตามการทำงานการเมืองของนายสมศักดิ์มาตลอด โดยเฉพาะในขณะนี้ ทั้งนี้อนุมานจากภาวะแวดล้อมทางการเมือง และพฤติกรรมอันเป็นปัจเจกของนายสมศักดิ์ ดังต่อไปนี้

1. ในวันที่ 13 มิถุนายนที่จะถึงนี้ ศาลฎีกาจะนัดไต่สวนคดีชั้นที่ 14 ซึ่งเกี่ยวข้องกับการป่วยวิกฤตหรือไม่วิกฤตของอดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร และมติแพทยสภาคือหลักฐานสำคัญในการประกอบการพิจารณาของศาล

2. นายสมศักดิ์ เทพสุทิน เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งรมต.กระทรวงยุติธรรม ได้ออกกฎกระทรวงอนุญาตให้นักโทษออกไปอยู่นอกเรือนจำได้ จึงเท่ากับเปิดช่องไว้รองรับการกลับมาของอดีตนายกฯ ทักษิณ เมื่อเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม

3. เมื่อดำรงตำแหน่ง รมว.กระทรวงสาธารณสุข ได้แสดงบทบาทในการจัดการกับกระบวนการของแพทยสภามิให้มีผลบังคับใช้ โดยการวีโตหรือให้มีน้ำหนักน้อยลงในการนำไปใช้เป็นหลักฐานประกอบการพิจารณาของศาลฎีกาในวันที่ 13 มิถุนายน

ด้วยเหตุนี้ การกระทำของนายสมศักดิ์ ตามข้อ 2 และข้อ 3 จึงเข้าข่ายในการช่วยให้นักโทษทักษิณไม่ต้องนอนคุก

ดังนั้น การกระทำของนายสมศักดิ์ดังกล่าวข้างต้น จึงอนุมานได้ว่ามีเจตนาที่จะทำตามนายสั่งหรือคิดเองทำเองเพื่อเอาใจนาย โดยไม่เกรงกลัวว่าตนเองจะตกเป็นจำเลยสังคมหรืออาจถึงขั้นผิดกฎหมาย ด้วยเข้าข่ายสมรู้ร่วมคิดเพื่อช่วยนักโทษไม่ให้ต้องนอนคุก

จริงอยู่ การเป็นคนกตัญญูและตอบแทนบุญคุณเป็นสิ่งที่ดี แต่ต้องคำนึงถึงคุณธรรมและจริยธรรมอันเป็นผู้มีหน้าที่บริหารบ้านเมืองต้องปฏิบัติเพื่อความสงบสุขของประชาชนโดยรวมด้วย มิฉะนั้นจะเข้าข่ายเมตตาผิดที่ทำดีไม่ถูกทาง ทำให้เดือดร้อนตนเองและคนรอบข้างได้

ดังนั้น ทางที่ดีที่สุดก่อนจะช่วยเหลือเกื้อกูลใครจะต้องนึกถึงหลักที่ว่า “ระเบียบเดินหน้า เมตตาตามหลัง” คือจะต้องยึดหลักการ ระเบียบกฎหมายก่อนว่าถ้าทำเช่นนั้นแล้ว ผิดหรือถูกจึงค่อยทำ แต่ที่คุณสมศักดิ์ทำนั้นสุ่มเสี่ยงต่อการผิดกฎหมาย และกลายเป็นจำเลยสังคมเป็นการทำลายอนาคตทางการเมืองของตนเอง

อีกประการหนึ่ง ถ้ามองย้อนไปดูอดีตที่ผ่านมาก็จะพบว่า หลายต่อหลายคนที่เดินตามแนวทางที่อดีตนายกฯ ทักษิณ กำหนด ในทำนองที่ว่า ทักษิณคิด และตัวเองทำ สุดท้ายต้องนอนคุกหรือไม่ก็หลบหนี

ส่วนว่ากรณีของนายสมศักดิ์จะเป็นเฉกเช่นหลายคนที่ผ่านมาหรือไม่ ไม่ช้าคงจะได้รู้กัน