โลกใหม่...หลังอียูล่มสลาย-อเมริกาพังทลาย!!!

เห็นภาพเห็นบรรยากาศ การจับมือ-ถือแขน ระหว่าง2 ผู้นำโลก หรือ “2 มหาอำนาจคู่แข่งคุณพ่ออเมริกา”อย่างประธานาธิบดี “สี จิ้นผิง” แห่งจีน และประธานาธิบดี “ปูติน”แห่งรัสเซีย ในช่วง “วันฉลองชัยชนะ” ครบรอบ 80 ปีของการเอาชนะสงครามโลกครั้งที่ 2 เมื่อวันศุกร์ที่แล้ว(9 พ.ค.) คงต้องสรุปเอาดื้อๆ ว่า...โอกาสที่ผู้นำอเมริกาอย่าง “ทรัมป์บ้า” ที่หมายมั่นปั้นมือ เปิดเผยความในใจแบบตรงไป-ตรงมาหลังชนะการเลือกตั้งว่าจะต้องหาทาง “ตอกลิ่ม”ให้เกิดการแยกขั้ว แยกข้างของทั้งสองฝ่ายให้จงได้ แต่เอาไป-เอามา...น่าจะออกไปทาง “แห้วกระป๋อง”กันอีกซะแร้นน์น์น์!!!

เพราะไม่ใช่แค่การจับไม้-จับมือส่งยิ้ม สาดยิ้ม แสดงให้เห็นถึงสัมพันธภาพอันเหนียวแน่น ดูดดื่ม และลึกซึ้งเอามากๆ ระหว่างผู้นำทั้งสอง แต่ยังต่อด้วยการจูงมือจับเข่า จับหัวหน่าว ไปเจ๊าะแจ๊ะเจรจาสองต่อสองหลังจากนี้อีกยาวนานร่วมๆ 7 ชั่วโมงเอาเลยถึงขั้นนั้น ถ้าว่ากันตามรายงานข่าวของสำนักข่าว “TASS”เมื่อวันที่8 พ.ค.ที่ผ่านมาจนกระทั่งกลายมาเป็นบทสรุปว่าด้วย “ข้อตกลงความร่วมมือ” ระหว่าง “หุ้นส่วนยุทธศาสตร์ที่ไร้ขีดจำกัด”รายดังกล่าวเพิ่มขึ้นอีกประมาณ3 โหล เอาเลยก็ว่าได้ อีกทั้งยังร่วมกันคอรัส-รัดคอประสานเสียงในคำแถลงก่อนหน้าพิธีฉลองชัยชนะจะเริ่มต้น ว่าทั้งประเทศจีนและรัสเซีย ถือเป็น “หน้าที่” ที่จะต้องต่อต้าน ปฏิเสธ คัดค้าน ต่อลัทธิตามอำเภอใจของพวกโลกขั้วอำนาจเดียว และการ “ข่มขู่”ใดๆ ต่อโลกทั้งโลก...

นี่...ต้องเรียกว่าอะไรจะหนึบหนับนัวๆ เนียๆ เช่นนี้ย่อมไม่มีอีกแล้ว แถมในขณะที่ผู้นำอเมริกาอย่าง “ทรัมป์บ้า”ซึ่งเคยออกอาการกระดี้กระด้า ในอันที่จะไล่ต้อนบรรดาประเทศต่างๆ ทั่วทั้งโลกให้หันมา “จูบตูด”ตัวเอง และยังพยายามแสดงตัวเป็น “คนกลาง”ในการไกล่เกลี่ยความขัดแย้งระหว่าง “ยูเครน-รัสเซีย” ชนิดถึงขั้น “สมรักษ์ คำสิงห์” ไว้ก่อนหน้านี้ว่าจะสามารถยุติสงครามระหว่าง 2 ประเทศได้ภายใน 24 ชั่วโมง แต่มาถึงทุกวันนี้...ปาเข้าไปเป็นเดือนๆ เข้าไปแล้ว ก็ยังมิวายปล้ำผีลุก-ปลุกผีนั่งแบบยังแทบมองไม่เห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ว่าจะสามารถทำให้ความขัดแย้งดังกล่าวจบสิ้นลงเมื่อใด???

เพราะการแสดงท่าทีเหมือนกับเห็นอก-เห็นใจ เข้าถึง-เข้าใจฝ่ายรัสเซีย แล้วหันไป “บีบไข่”ยูเครนกันแทนที่ แต่หลังจากที่บรรลุข้อตกลงที่เรียกๆ กันว่า “US-Ukraine minerals deal”กันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จากที่เคยบีบๆ ปล่อยๆ ก็ดูจะเปลี่ยนมา “ลูบไข่”กันซะมากกว่า ต่างไปจากผู้นำจีนที่นอกจากตอกย้ำถึง “ความเป็นกลาง”ของจีนในกรณีความขัดแย้งดังกล่าวมาโดยตลอด และยังเคยเสนอตัวเป็น “คนกลาง” มาก่อนหน้านี้ ที่ได้แสดงออกถึงความเป็น “ผู้หลัก-ผู้ใหญ่” (ที่ไม่กะล่อน) หรือแสดงออกถึง “วุฒิภาวะ” ในการคลี่คลายปัญหาความขัดแย้งเหล่านี้ ด้วยการชี้แนะ ชี้นำ ไว้อย่างน่าคิด น่าสะกิดใจระหว่างการเดินทางไปเยือนรัสเซียคราวนี้ นั่นก็คือ...ชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของการ “ขจัดสิ่งที่เป็นรากเหง้าของปัญหา”(root cause of Ukraine conflict) ลงไปให้จงได้...

และอันนี้นี่เอง...ก็คือสิ่งที่ฝ่ายรัสเซียเขาพยายามเรียกร้องต่อคุณพ่ออเมริกาและพันธมิตรตะวันตกมาโดยตลอดถึง “อันตราย” ต่อความพยายามแผ่ขยายอำนาจ อิทธิพลของ “โลกตะวันตก”เข้าไปจ่อปากประตูบ้านของรัสเซีย หรือที่เรียกๆ กันว่า “นโยบายขยายตัว”(Enlargement) อะไรทำนองนั้น อันถือเป็น “รากเหง้า” ของปัญหาที่แท้จริงและจะเป็นการคลี่คลายปัญหา คลี่คลายความขัดแย้ง ที่ย่อมผิดแผกแตกต่างไปจากการบีบไข่-คลำไข่ยูเครน ดังที่ผู้นำอเมริกากำลังประพฤติปฏิบัติ อยู่ในทุกวันนี้...

ด้วยความเป็นผู้หลัก-ผู้ใหญ่ แถมมองลึก มองไกล ไปด้วยกันทั้งคู่ ของทั้งผู้นำจีน-ผู้นำรัสเซีย จึงเป็นเรื่องที่ไม่ถึงกับน่า “แปลกใจ”อะไรมากมาย ว่าเหตุใด? โอกาสที่จะอาศัยเพียงแค่ “ความบ้า”หรือบวกกับ “ความกะล่อน” เข้าไปอีกดอกของผู้นำอเมริกา จึงมิอาจ “ตอกลิ่ม” ให้เกิดความขัดแย้งแตกแยกระหว่างผู้นำ2 มหาอำนาจคู่แข่งอเมริกาได้อย่างที่ตัวเองปรารถนา-ต้องการ ดังนั้น...ความพยายามที่จะดำรง รักษา ความเป็น “ประมุขโลก”ของ “ทรัมป์บ้า” ภายใต้ความเป็นไปของโลกที่ได้เปลี่ยนแปลงไปแล้วแทบโดยสิ้นเชิง มันจึงเป็นอะไรที่ “ยากส์ส์ส์”จะเป็นไปได้ หรือออกไปทาง “ล้มเหลว” ยิ่งเข้าไปทุกที ไม่ว่าจะงัด “ลูกบ้า”ออกมาใช้แบบชนิดเต็มพิกัดไปแล้วก็ตามที...

เฉพาะแค่การ “ประดาบก็เลือดเดือด” กับคุณพี่จีนใน “สงครามการค้า”ที่แทบกลายเป็น “สงครามตัวเลข” ไปโดยปริยาย
ด้วยการเพิ่มตัวเลขเปอร์เซ็นต์ภาษีของแต่ละฝ่ายจาก40 เปอร์เซ็นต์ เป็น125 เปอร์เซ็นต์ ไปจนใกล้ๆ จะถึง500 เปอร์เซ็นต์ไปโน่นเลย แต่หลังจากที่ฝ่ายจีนเขา “Reciprocate”กันในชนิด “ดอก-ต่อ-ดอก” ไม่ได้คิดจะ “Kiss Ass” คุณพ่ออเมริกาเอาเลยแม้แต่น้อย ล่าสุด...ขณะที่ยังไม่ได้เริ่มต้นเจรจาต่อรองกันที่สวิตเซอร์แลนด์ตามหมายกำหนดการระหว่างวันที่ 9-12 พ.ค. แต่เห็นว่า...ผู้นำอเมริกาอย่าง “ทรัมป์บ้า”ก็ได้ตัดสินใจ “ลดตัวเลข” อัตราภาษีสินค้าเข้าจากเมืองจีน ลงมาเหลือแค่ “80 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นก็พอ”หรือเริ่มๆ “หายบ้า”ลงไปพอประมาณ อาจด้วยเหตุเพราะอเมริกาเองนั่นแหละที่น่าจะเป็นฝ่าย “Pains”หรือน่าจะเจ็บปวดรวดร้าวเสียยิ่งกว่าคุณพี่จีน โดยแทบมองไม่เห็นทาง “Gains”ว่าจะบรรลุเป้าหมายความยิ่งใหญ่ หรือ “Great Again” กันในตอนไหน? ช่วงไหน???

เพราะอย่างที่ว่าเอาไว้แล้วนั่นแหละว่า...ด้วยเหตุเพราะ “โลกได้เปลี่ยนแปลงไปแล้ว”แบบแทบไม่มีโอกาสย้อนกลับมาสู่โลกเดิมๆ บรรดาประเทศที่เคยเรียกๆ กันว่า “โลกเหนือ”หรือประเภท “คนเคยรวย” ทั้งหลาย อย่างกลุ่มประเทศ “G7”(อเมริกา-แคนาดา-อังกฤษ-ฝรั่งเศส-เยอรมนี-อิตาลี-ญี่ปุ่น ฯลฯ) ไปๆ-มาๆ แล้ว...ดันถูกบรรดาประเทศที่เคยเรียกๆ ว่า “โลกใต้”อย่างเช่นกลุ่มประเทศ “BRICS” ที่มีรัสเซียและจีนเป็นหัวหอก (บราซิล-รัสเซีย-อินเดีย-จีน-แอฟริกาใต้ ฯลฯ)กลับมาแรงแซงโค้ง แซงหน้าแถวๆ โค้งวัดเบญฯ ทิ้งห่างสัดส่วนทางการค้าแบบแทบไม่เห็นฝุ่น เห็นหาง ยิ่งเข้าไปทุกที ยิ่งเมื่อต้องเจอกับ “ลูกบ้า” ของคุณพ่ออเมริกาที่ต้องการเอาตัวรอดปลอดภัยเข้าไว้ก่อน ยิ่งทำให้ “โลกเหนือ”หรือที่เคยเรียกรวมๆ ว่า “โลกตะวันตก”ยิ่งกลายเป็น “โลกที่ไม่เหมือนเดิม” อีกต่อไปแล้ว คือต้องแยกขั้ว แยกข้าง กลายเป็น “ขั้วอำนาจ” ที่ผิดแผกแตกต่างไปตาม “ผลประโยชน์” ของใคร-ของมัน ไม่อาจหลอมรวมเพื่อควบคุมบังคับ ใครต่อใครได้อย่างเท่าที่เคยเป็นมานับศตวรรษๆ ก่อนหน้านี้...

และแม้ว่าพันธมิตรซึ่งเคยเคียงบ่า-เคียงไหล่กับคุณพ่ออเมริกามาโดยตลอด อย่างชาติยุโรปทั้งหลายจะพยายาม “ดิ้นรนเอาตัวรอด”กันในลักษณะใดก็ตาม แต่ด้วยความที่ต้อง “พึ่งพาอเมริกา”มานานแสนนาน ไม่ว่าด้านเศรษฐกิจการเมือง การทหาร โอกาสที่จะเป็นอิสระ เป็นตัวของตัวเอง หรืออาจต้อง “ล่มสลาย” พังพินาศไปทั้งอียู ก็ดูจะอยู่ในระดับ “50-50” เอาเลยก็ว่าได้ โดยเฉพาะเมื่อต้องเผชิญหน้ากับหนึ่งในประเทศโลกใต้อย่างรัสเซีย ที่มีคุณพี่จีนยืนหยัดเคียงข้างในแบบ “หุ้นส่วนยุทธศาสตร์ที่ไร้ขีดจำกัด”ดังเช่นทุกวันนี้ ถึงจะพยายามไปฉุดกระชากลากถูประเทศรวยๆ ในตะวันออกกลาง อย่างซาอุฯ กาตาร์ ยูเออี ฯลฯ ให้มาร่วมหัวจมท้าย กับผู้นำโลกตะวันตกอย่างคุณพ่ออเมริกากันอีกครั้ง แต่ก็ด้วยเหตุเพราะ “พันธมิตรอันศักดิ์สิทธิ์” ของอเมริกาอย่าง “ไอ้เหี้ยม-อิสราเอล” ยังพร้อมที่จะ “ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์” ใครต่อใครเพื่อสนองตอบความปรารถนา ความทะเยอทะยาน ที่จะเป็น “The Greater Israel”ให้จงได้ โอกาสที่จะหา “จุดลงตัว”ในตะวันออกกลาง ตามแนวคิด แนวทาง ที่เรียกๆ ว่า “The Abraham Accord” ก็ยิ่งแทบเป็นไปไม่ได้ยิ่งขึ้นไปเท่านั้น...

ขณะที่ 2 มหาอำนาจคู่แข่งอเมริกา หรือ2 หุ้นส่วนยุทธศาสตร์ที่ไร้ขีดจำกัดแห่งโลกใต้ อย่างคุณพี่จีนและคุณน้ารัสเซีย นับวันจะยิ่งแผ่ขยายบทบาท บารมี และลอดเลื้อย โอบกระหวัดรัดพันใครต่อใครไปแทบจะทั่วทุกซีกโลก ไม่ว่าในเอเชียตะวันออกกลาง แอฟริกา ละตินอเมริกา หรือแม้แต่การเจาะช่อง เจาะไช จนเกิด “รูโหว่” ขึ้นมาในยุโรปแบบรู้เบ้อเร่อเลย ชนิดถึงกับทำให้2 ผู้นำชาติอียู อย่างประธานาธิบดี “Aleksander Vucic”แห่งเซอร์เบียและนายกรัฐมนตรี “Robert Fico”แห่งสโลวาเกีย กลายเป็น “ฮีโร่มัยซินเด้อ” ในงานฉลองชัยชนะของรัสเซียคราวนี้ ด้วยเหตุเพราะพร้อมที่จะท้าทายแรงกดดันของบรรดาผู้นำชาติยุโรป ที่พยายามห้ามไม่ให้เข้าร่วมพิธีการดังกล่าวโดยเด็ดขาด นั่นยังไม่รวมไปถึง “ตัวแสบ” แห่งอียู อย่าง “นายVictor Orban” ผู้นำฮังการีอีกด้วย...

การจับมือ ถือแขน ยิ้มแย้มอย่างชื่นมื่น ชื่นสะดือของผู้นำรัสเซียกับบรรดาผู้นำประเทศต่างๆ ไม่ว่าวีรบุรุษนักต่อสู้ลัทธิจักรวรรดินิยมแห่งแอฟริกา อย่างประธานาธิบดี “Ibrahim Traore”แห่งบูร์กินาฟาโซ ที่เพิ่งถีบบรรดาชาติตะวันตกออกจากดินแดนแอฟริกา ประธานาธิบดี “Nicolas Maduro” แห่งเวเนซุเอลา ที่โผล่มาเซ็นข้อตกลงความร่วมมือกับรัสเซียในงานฉลองชัยชนะคราวนี้ ไปจนถึงผู้ที่ผู้นำรัสเซียเรียกขานว่า “Key partner in Africa”อย่างประธานาธิบดี “Abdel Fattah el-Sisi”แห่งอียิปต์ ที่เพิ่งซ้อมรบร่วมกับคุณพี่จีนไปเมื่อเร็วๆ นี้ ฯลฯ อะไรต่อมิอะไรเหล่านี้นี่เอง...ที่ทำให้ความเป็น “หุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์” ระหว่างจีนและรัสเซีย จึงกลายเป็น “กุญแจสำคัญ” ในการ “เปลี่ยนโลก”หรือ “เปลี่ยนระเบียบโลก”ดังที่ประธานาธิบดี “สี จิ้นผิง” ท่านได้ทำนายทายทักเอาไว้เมื่อเกือบ10 ปีที่แล้ว อันเป็นอะไรที่ยากจะ “ตอกลิ่ม” ให้เกิดการแยกขั้วแยกข้างกันได้ง่ายๆ เนื่องจากมันไม่ได้เป็นแค่เฉพาะ “ผลประโยชน์” ระหว่างประเทศทั้งสองเป็นการเฉพาะ แต่เป็นความร่วมมือเพื่อหวังจะให้โลกทั้งโลกสามารถ “อยู่ร่วมกันโดยสันติ”โดยไม่ต้องมีใครใหญ่กว่าใคร หรือใครต้องหันไป “Kiss Ass” ใคร นั่นเอง...