xs
xsm
sm
md
lg

“มาเคียเวลลี-คัมภีร์ปีศาจทางการเมือง”(ตอนสิบสาม)

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


จักรพรรดิชาร์ลส์ที่ 5 หรือชาร์ลส์ที่ 1 แห่งสเปน กษัตริย์คาทอลิกในรุ่นแรกที่อ่าน The Prince (ภาพ : วิกิพีเดีย)
“สอดแนมการเมือง”
“ชัชวาลย์ ชาติสุทธิชัย”

สืบเนื่องจากตอนสิบสอง มาเคียเวลลีกล่าวถึงการที่สามัญชนขึ้นมาเป็นเจ้าครองรัฐด้วยสองหนทางคือ ด้วยวิถีทางที่ชั่วร้ายต่ำทรามโดยมีผู้มีอำนาจหนุนหลัง อีกหนึ่งคือ โดยการสนับสนุนของพี่น้องพลเมืองของเขาเอง

อกาทอคลีส ชาวชิชิลี มิใช่เพียงสามัญชนที่ขึ้นมาเป็นกษัตริย์แห่งชีรากูชาด้วยโชคชะตาส่วนตน หากแต่มาจากระดับชั้นที่ต่ำต้อยและน่าสังเวชที่สุด ด้วยการเป็นบุตรช่างปั้นหม้อ เขานำพาชีวิตตนเองผ่านชะตากรรมอันชั่วร้ายที่สุดมาตลอด

อย่างไรก็ตาม ความชั่วร้ายบางส่วนดังกล่าวก็มาพร้อมความเข้มแข็งทั้งร่างกายและจิตใจ ซึ่งทำให้เมื่อเขาเข้าร่วมกองทหารอาสาสมัคร เขาได้เลื่อนตำแหน่งขึ้นไปเรื่อยๆ จนถึงตำแหน่งทหารผู้พิทักษ์องค์จักรพรรดิแห่งชีรากูชา ด้วยได้รับการแต่งตั้งให้ครองตำแหน่งนี้นั่นเอง เขาจึงตัดสินใจที่จะก้าวขึ้นเป็นเจ้าผู้ครองนคร และยึดครองด้วยความรุนแรง โดยไม่มีข้อผูกมัดกับผู้ใดที่ยินยอมเขาตามข้อตกลง

เขาแจ้งแผนลวงของเขาไปยังฮามิลการ์ ชาวคาร์เทจ ผู้กำลังอยู่ระหว่างสู้รบในชิชิลีร่วมกับกองทัพของตนเอง แล้วเช้าวันหนึ่งเขาก็เรียกชุมนุมประชาชนและวุฒิสมาชิกชีรากูรา ราวกับจะพิจารณาเรื่องสำคัญของสาธารณรัฐ และเมื่อเขาให้สัญญาณ วุฒิสมาชิกทั้งหมดรวมทั้งบรรดาบุรุษผู้ร่ำรวยที่สุดในหมู่ประชาชนก็ถูกทหารของเขาสังหาร

หลังจากการตายของคนเหล่านี้ เขาก็เข้ายึดและครอบครองนครโดยปราศจากการก่อความวุ่นวายใดๆ ของชาวเมือง และแม้เขาจะถูกกองทัพคาร์เทจโจมตีพ่ายแพ้ถึงสองครั้ง และถูกโอบล้อมในที่สุด เขาก็ไม่เพียงสามารถปกป้องนครไว้ได้ หากแต่ได้ทิ้งกองกำลังบางส่วนไว้เพื่อป้องกันนครด้วย

นอกจากนี้เขายังได้บุกเข้าแอฟริกาด้วยกองกำลังที่เหลือ และในเวลาอันสั้นเขาสามารถปลดปล่อยชีรากูชาจากการปิดล้อม พร้อมกับผลักดันให้ชาวคาร์เทจต้องตกอยู่ในภาวะคับขันรุนแรงใหญ่หลวง เพื่อให้คนเหล่านั้นเข้าสู่ข้อตกลงกับเขา และพึงพอใจเพียงการครอบครองแอฟริกา โดยยอมปลดปล่อยชิชิลีให้แก่เขา

ดังนั้นหากผู้ใดก็ตามพิจารณาถึงการกระทำและคุณธรรมของบุรุษผู้นี้อาจมองไม่เห็นเลย หรือส่วนที่จะเอ่ยอ้างได้ว่ามาจากโชคชะตาก็เห็นน้อยมาก ดังที่กล่าวมาข้างต้นแล้วว่า มิมีสิ่งใดได้มาจากการสนับสนุนของผู้อื่น หากแต่ได้มาจากตำแหน่งทางการทหาร ซึ่งเขาไต่เต้าขึ้นมาเพื่อตนเองด้วยความยากลำบากและฝ่าอันตรายนับพันประการ เขาได้ก้าวขึ้นเป็นเจ้าผู้ครองนคร และหลังจากนั้นยังรักษานครไว้ได้ด้วยนโยบายอันองอาจและเสี่ยงภยันตรายมากมายอีกด้วย

กระนั้นก็มิอาจเรียกสิ่งนี้ว่าคุณธรรมที่จะนำมาใช้เข่นฆ่าพลเมืองของตน ทรยศต่อพันธมิตร ไร้ซึ่งความเมตตา ไม่มีศาสนา การกระทำเหล่านี้ทำให้คนคนหนึ่งได้มาซึ่งอาณาจักร ทว่า ไร้สิ้นสง่าราศี เพราะหากตรองถึงคุณธรรมของอกาทอคลีสในการเข้าสู่ภยันตรายและหลีกหนีให้พ้นแล้ว ทั้งความยิ่งใหญ่ของจิตใจในการยืนหยัดและเอาชนะความทุกข์ยาก อาจมองไม่เห็นว่าทำไมจึงควรวินิจฉัยว่าเขาด้อยกว่าผู้นำที่ชาญฉลาดทั้งปวง

อย่างไรก็ดี ความโหดร้ายป่าเถื่อนและไร้มนุษยธรรมของเขา รวมไปถึงการก่ออาชญากรรมอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ก็ไม่ได้เป็นสิ่งที่อนุญาตให้เขาได้รับการสรรเสริญในหมู่บุรุษผู้เป็นเลิศทางสติปัญญาทั้งปวง ดังนั้นจึงไม่อาจถือได้ว่าเป็นอย่างใดอย่างหนึ่ง ไม่ว่าโชคชะตาหรือคุณธรรมที่ทำให้เขาประสบความสำเร็จ

ในยุคของมาเคียเวลลี สมัยพระสันตะปาปาอเล็กซานเดอร์ที่ 6 นั้น โอลีเวรอตโตแห่งแฟร์โม ผู้ถูกทิ้งให้เป็นเด็กกำพร้าตั้งแต่ยังเยาว์ ภายใต้การเลี้ยงดูของ โจวันนี ฟอลยานี ญาติข้างมารดาผู้เป็นลุง ผู้เลี้ยงดูเขาจนเติบใหญ่ และส่งเขาไปศึกษาทางการสู้รบกับ เปาโล วีเตลลี ตั้งแต่วัยหนุ่มน้อย เพื่อให้เขาได้อยู่ในระเบียบวินัย และได้รับตำแหน่งหน้าที่ที่ดีทางการทหาร เมื่อสิ้นเปาโล เขาได้รับราชการภายใต้การปกครองของวีเตลลอซโซ น้องชายของเปาโล และในเวลาอันสั้นมาก ด้วยความเฉลียวฉลาดยิ่ง ประกอบกับความแข็งขันทั้งทางร่างกายและจิตใจ เขาได้กลายเป็นหนึ่งในผู้นำกองทหาร

ทว่า สำหรับเขานี่ดูเหมือนการอยู่ในระดับข้ารับใช้ของผู้อื่น เขาคิดว่าด้วยความช่วยเหลือของชาวเมืองแฟร์โมบางส่วน ผู้ชอบเป็นทาสมากกว่าให้บ้านเกิดเมืองนอนของตนมีเสรีภาพ และด้วยการสนับสนุนจากวีเตลลี เขาจะเข้ายึดแฟร์โม เขาเขียนสาส์นถึงโจวันนี ฟอลยานี มีข้อความว่า ด้วยเหตุที่เขาได้จากบ้านมานานหลายปี เขาปรารถนาจะกลับไปเยี่ยมเยือนโจวันนีและบ้านเมืองของเขา ทั้งยังจะมารับทราบส่วนที่เขาจะได้รับเป็นมรดก และด้วยเขาไม่ได้ก่อความยากลำบากแก่ตนเองเพื่อสิ่งใด

นอกเหนือไปจากเพื่อให้ได้รับเกียรติ เขาจึงประสงค์ที่จะมาอย่างสมเกียรติ พร้อมด้วยกองทหารม้าหนึ่งร้อยนาย อันเป็นเหล่ามิตรสหายและข้าทาสบริวารของเขา เพื่อให้พลเมืองของเขาเห็นว่า เขาไม่ได้ใช้เวลาที่ผ่านมาอย่างสูญเปล่า เขาขอร้องโจวันนีออกคำสั่งไปว่า เขาต้องได้รับการต้อนรับอย่างสมเกียรติจากประชาชนชาวแฟร์โม ซึ่งไม่ใช่เพียงการให้เกียรติแก่เขาโดยตรง แต่นั่นคือการให้เกียรติแก่โจวันนีเองด้วย เพราะโอลีเวรอตโตนี้คือหลานในบ้านของโจวันนีมาแต่เดิม โจวันนีจึงมิบกพร่องต่อภาระหน้าที่ที่มีต่อหลานชายแต่ประการใด
และขณะโอลีเวรอตโตได้รับการต้อนรับอย่างสมเกียรติโดยชาวเมืองแฟร์โมนั้น เขาได้พำนักอยู่ที่บ้านของโจวันนี และที่นี่นั่นเอง ภายหลังสองสามวันผ่านไป หลังจากเขาได้รอคอยที่จะสั่งการลับๆ ในสิ่งที่จำเป็นสำหรับการก่ออาชญากรรมในอนาคตอันใกล้ เขาก็จัดงานเลี้ยงอย่างเป็นทางการที่สุด โดยเชิญโจวันนี ฟอลยานี และบุรุษชั้นแนวหน้าของแฟร์โมทั้งหมดมาร่วม แล้วเมื่ออาหารและความบันเทิงทุกอย่างอันเป็นธรรมเนียมของงานเลี้ยงเช่นนี้กำลังเป็นที่รื่นรมย์ ด้วยไหวพริบอันเป็นเลิศ

โอลีเวรอตโตเปิดการสนทนาอย่าวดุดัน อภิปรายถึงความยิ่งใหญ่ของพระสันตะปาปาอเล็กซานเดอร์ กับเซซาร์ บอร์จา บุตรชาย และปฏิบัติการที่ทั้งสองได้กระทำลงไป ขณะที่โจวันนีกับคนอื่นๆ กำลังอภิปรายตอบโต้กันในประเด็นเหล่านี้ โอลีเวรอตโตก็ผุดลุกขึ้นยืนพร้อมกับกล่าวว่า เรื่องนี้ควรมีการพูดคุยกันในสถานที่ลับกว่านี้ เขาจึงออกจากห้องนี้ไปอีกห้องหนึ่ง ซึ่งโจวันนีกับชาวเมืองคนอื่นๆ ทั้งหมดก็ตามเข้าไป ทว่าพวกเขายังไม่ทันนั่งเรียบร้อย ทหารก็กรูออกมาจากที่ซ่อน และสังหารโจวันนีกับคนอื่นๆ ทุกคน

หลังจากการฆาตกรรมนี้ โอลีเวรอตโตก็ขึ้นหลังม้า ขี่เข้าเมืองและจับกุมคณะข้าราชการฝ่ายปกครองชั้นสูงในราชวัง เพื่อให้พวกเขาเหล่านั้นหวาดกลัวและอยู่ในบังคับบัญชา กระทำตามคำสั่งของเขาแล้วจัดตั้งคณะผู้บริหารบ้านเมืองซึ่งแต่งตั้งเขาขึ้นเป็นเจ้าครองนคร และเนื่องจากเหล่าบรรดาผู้ที่อาจทำร้ายเขาด้วยความไม่พอใจได้สิ้นชีวิตไปหมดแล้ว เขาจึงสร้างความแข็งแกร่งให้ตนเองได้ด้วยแบบแผนการปกครองและการทหารแบบใหม่

ดังนั้นในช่วงเวลาเพียงปีเดียว เขาสามารถขึ้นเป็นเจ้าผู้ครองนครได้ เขามิเพียงแต่ดำรงสถานะอย่างมั่นคงปลอดภัยในแฟร์โมเท่านั้น หากแต่ได้กลายเป็นที่น่าเกรงขามของเพื่อนบ้านทั้งปวงด้วย และการจะโค่นล้มเขานั้นยากพอๆ กับการโค่นล้ม อกาทอคลีส หากเขาไม่ปล่อยให้ตนเองถูกเซซาร์ บอร์จา หลอกลวงได้สำเร็จ

 บทนี้ “มาเคียเวลลี” ยอมรับว่า สิ่งที่ดยุกทำนั้นตำหนิไม่ได้เลย เพราะดยุกลูกชายของสันตะปาปาอเล็กซานเดอร์หนุนหลังทำงานมีอำนาจเหลือล้น ดยุกทั้งหลอกและฆ่าคนอย่างมากมาย กรรมตามสนองจึงมาจ่อรออยู่หน้าประตูชีวิตแล้วครับ...



กำลังโหลดความคิดเห็น