"สอดแนมการเมือง”
“ชัชวาลย์ ชาติสุทธิชัย”
ตอนสิบจบลงตรงที่หลังจากดยุกได้ครอบครองโรมัญญาและตีตระกูลโคลอนนาราบคาบแล้ว มีสองสิ่งที่กีดกันดยุกผู้นี้จากการรักษารัฐไว้และการก้าวรุกหน้าไป คือ
สิ่งแรก กองกำลังไม่ได้อยู่กับเขาด้วยความซื่อสัตย์ภักดี อีกสิ่งคือ เจตนารมณ์ของฝรั่งเศส นั่นคือ กองกำลังของพวกออร์ซีนีซึ่งเขาใช้ประโยชน์เพื่อตนเองอยู่นั้น อาจพ่ายแพ้ภายใต้การบัญชาการของเขา และนั่นไม่เป็นเพียงการขัดขวางการได้รัฐอื่นๆ มาครองเท่านั้น แต่จะนำพาให้ต้องสูญเสียรัฐที่ได้มาแล้วไปด้วย และกษัตริย์ก็จะกระทำเช่นเดียวกันนี้กับเขา
หลังจากครอบครองฟาเอนซาได้แล้ว ดยุกได้บททดสอบจากพวกออร์ซีนี เมื่อเห็นความเฉื่อยชามากในการรบขณะเข้าโจมตีโบโลญญา ในส่วนของกษัตริย์ ดยุกรู้ใจพระองค์ดี เพราะหลังจากที่เขาได้รับสถาปนาขึ้นเป็นเจ้าผู้ครองนครอูร์บีโน เขาก็เข้าโจมตีทัสกานี องค์กษัตริย์ทำให้เขาล้มเหลวจากแผนการยึดครอง เมื่อเป็นดังนั้น ดยุกจึงไม่พึ่งพากองกำลังและโชคชะตาของผู้อื่นอีกต่อไป
สิ่งแรกที่เขาลงมือคือ ทำให้ตระกูลออร์ซีนีและโคลอนนาอ่อนแอลง ด้วยการเกณฑ์พรรคพวกของทั้งสองฝ่าย ซึ่งเป็นขุนนางชั้นสูงมาเป็นพวก โดยแต่งตั้งให้เป็นขุนนางชั้นสูงของเขาเอง ให้เบี้ยเลี้ยงก้อนโต อีกทั้งยังยกย่องให้เกียรติตามคุณสมบัติของแต่ละคน ด้วยการมอบอำนาจบัญชาการและตำแหน่งในคณะผู้บริหารบ้านเมือง
ดังนั้น ในเวลาไม่กี่เดือน ความรักพวกพ้องในจิตใจของพวกเขาก็ถูกขจัดจนสิ้น และความรักใคร่ทั้งมวลก็หันมามอบแก่ท่านดยุก หลังจากนั้นก็รอโอกาสที่จะกำจัดระดับหัวหน้าของพวกออร์ซีนี
ส่วนตระกูลโคลอนนา เขาได้ทำให้แตกกระจัดกระจายไปหมดแล้ว โอกาสอันดีมาถึงและเขาใช้มันได้ดียิ่งขึ้นไปอีก เพราะกว่าพวกออร์ซีนีจะตระหนักได้ว่า ความยิ่งใหญ่ของดยุกและศาสนจักรคือความพินาศของพวกเขานั้นก็สายไปเสียแล้ว
พวกเขาจัดประชุมขึ้นที่เขตปกครองมาโจเน ในมณฑลเปรูจา จากจุดนั้นได้เกิดการกบฎขึ้นในอูร์บีโน เกิดความวุ่นวายในโรมัญญา และภยันตรายไม่สิ้นสุดแก่ตัวดยุก ผู้ซึ่งเอาชนะสถานการณ์ได้ทั้งหมดด้วยความช่วยเหลือของฝรั่งเศส และเมื่อเกียรติภูมิฟื้นคืนมา เขาก็ไม่ไว้วางใจกองกำลังใดๆ อีกต่อไป ไม่ว่าจะของชาวฝรั่งเศส หรือกองกำลังอื่นๆ จากภายนอก เขาจึงไม่ใช้วิธีทดสอบกับคนเหล่านั้น แต่หันไปใช้การล่อลวงแทน
เขารู้ดียิ่งว่า จะอำพรางความตั้งใจของเขา แล้วทำให้พวกออร์ซีนีกลับมาคืนดีโดยอาศัยซินญอร์เปาโลได้อย่างไร ดยุกไม่พลาดที่จะเติมเต็มทุกประการในตำแหน่ง เพื่อสร้างความมั่นใจแก่ซินญอร์เปาโล ทั้งเงินทอง เครื่องแต่งกาย และฝูงม้า
ที่เซนีกัลเลีย ความเขลาได้นำพาพรรคพวกของซินญอร์เปาโลมาสู่เงื้อมมือของดยุก ดังนั้นเมื่อบรรดาหัวหน้าถูกกำจัด และทำให้พลพรรคของพวกเขาหันมาเป็นพันธมิตรได้ ก็นับเป็นการวางฐานอำนาจของดยุกได้อย่างมั่นคงดีงาม เพราะเขาได้ครอบครองโรมัญญาทั้งหมด รวมทั้งได้ขุนนางชั้นสูงของอูร์บีโนมาเป็นพรรคพวกด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เขาคิดว่าเขาได้ซื้อมิตรภาพจากชาวโรมัญญา พร้อมทั้งได้ประชาชนทั้งหมดมาเป็นข้าแผ่นดิน นับแต่พวกเขาเหล่านี้ได้เริ่มลิ้มรสความเป็นอยู่อันสุขสบาย
และเนื่องจากจุดนี้ควรเป็นที่สังเกต ทั้งยังมีการลอกเลียนแบบจากบุคคลอื่นๆ มาเคียเวลลีจึงไม่ประสงค์จะผ่านเลย ทันทีที่ดยุกได้ครองโรมัญญา เขาพบว่า นครรัฐแห่งนี้อยู่ภายใต้บัญชาการของเหล่าเจ้านายที่ไร้ศักยภาพ ผู้พร้อมจะเข้าปล้นสะดมข้าแผ่นดินของตน มากกว่าจะบำบัดทุกข์เข็ญ และเป็นผู้ยัดเยียดเรื่องราวอันสร้างความแตกแยกแก่ประชาชน มิใช่สร้างความสามัคคี ด้วยเหตุที่เขตแคว้นแห่งนี้เต็มไปด้วยการปล้นสะดม การทะเลาะวิวาท และความโอหังหยาบคายทุกประเภท เขาจึงตัดสินใจว่า จำเป็นต้องตั้งคณะบริหารราชการที่ดี หากประสงค์จะปราบปรามให้เกิดสันติสุขภายใต้บัญชาการของกองกำลังแห่งผู้ครองนคร
เขาจึงแต่งตั้งเมสเซอร์ เรมีร์โร เด ออร์โก บุรุษผู้เหี้ยมโหดและมีนิสัยฉับไว ให้ไปอยู่ที่นั่นพร้อมกับมอบอำนาจเต็มที่ ในระยะเวลาอันสั้น เรมีร์โรสามารถปราบปรามให้เกิดสันติสุขและความสามัคคี พร้อมด้วยชื่อเสียงเกียรติภูมิอันยิ่งใหญ่แก่ตัวเขาเอง
ดยุกพิจารณาเห็นว่า การมีอำนาจมากเกินไปเช่นนี้ เป็นสิ่งที่ไม่มีความจำเป็น ด้วยเกรงว่า อาจกลายเป็นความเกลียดชัง เขาจึงจัดตั้งศาลแพ่งขึ้นกลางมณฑล โดยมีทุกนครให้การสนับสนุน และมีประธานศาลผู้มีความสามารถเป็นเลิศ ด้วยเหตุที่ดยุกรู้ว่า ความโหดร้ายที่ผ่านมาได้สร้างความเกลียดชังไม่มากก็น้อยแก่ตัวเรมีร์โร
ดังนั้น เพื่อชำระความรู้สึกนี้ออกจากจิตใจประชาชน และเพื่อทำให้พวกเขาทั้งหมดเข้ามาเป็นพวกของตน ดยุกจึงต้องการแสดงให้เห็นว่า หากเกิดความโหดร้ายป่าเถื่อนประการใดขึ้น นั่นมิใช่มาจากตัวเขา หากแต่มาจากธรรมชาติความป่าเถื่อนของผู้บริหารราชการแผ่นดินคนนั้น
และแล้ว เช้าวันหนึ่ง อันเป็นวันที่เขานำร่างของเรมีร์โรที่ขาดเป็นสองท่อน ไปวางไว้ ณ จัตุรัสกลางเมืองเซเซนา ข้างตัวเรมีร์โรมีท่อนไม้และมีดที่เปื้อนเลือดวางอยู่ ความน่าสะพรึงกลัวของภาพที่ปรากฎ สร้างความพึงพอใจและตื่นตะลึงในเวลาเดียวกันแก่ประชาชนทันที
เรื่องนี้มาเคียเวลลีได้กล่าวว่า เมื่อดยุกพบว่า ตนเองมีอำนาจมากและมีความมั่นคงปลอดภัยต่อภยันตราย ด้วยเขามีกองกำลังพร้อมของตน และได้กำจัดกองกำลังอื่นๆ ไปได้ส่วนหนึ่ง ซึ่งมีจำนวนเกือบมากพอที่จะโจมตีเขาได้ สิ่งที่เขายังคงต้องการ หากประสงค์จะคืบหน้าในการขยายอาณาเขตครอบครองก็คือ ต้องพิจารณากษัตริย์แห่งฝรั่งเศส เพราะเขารู้ดีว่า เรื่องนี้จะเป็นที่ยอมรับไม่ได้ สำหรับองค์กษัตริย์ผู้รับรู้ความผิดพลาดของตนช้าไป
ดังนั้น เขาจึงเริ่มแสวงหาพันธมิตรใหม่ๆ และสร้างความลังเลใจแก่ฝรั่งเศส ในการส่งกองกำลังออกไปสมทบในปฏิบัติการซึ่งฝรั่งเศสส่งไปยังอาณาจักรเนเปิลส์ เพื่อต้านทานชาวสเปนผู้กำลังโอบล้อมเกตา วัตถุประสงค์ของเขาก็เพื่อความปลอดภัยของตนเองจากคนเหล่านั้น ซึ่งเขาคงจะประสบความสำเร็จโดยเร็ว หากพระสันตะปาปาอเล็กซานเดอร์ยังมีชีวิตอยู่
และเหล่านี้คือการเตรียมการของดยุกสำหรับสิ่งต่างๆ ในเวลานั้น ทว่า สำหรับอนาคตแล้ว เขามีเรื่องต้องหวั่นเกรง ประการที่หนึ่งคือ ผู้สืบทอดศาสนจักรคนใหม่อาจไม่ใช่พันธมิตรของเขา และอาจหาหนทางนำสิ่งที่พระสันตะปาปาอเล็กซานเดอร์มอบให้ไปจากเขา
ดยุกจึงคิดว่า เขาอาจต้องสร้างความมั่นคงปลอดภัยแก่ตนเองต่อกรณีนี้ในสี่หนทาง หนทางที่หนึ่งคือ กำจัดสายโลหิตทั้งหมดของบรรดาเจ้าที่เขาได้ยึดอำนาจมา เพื่อตัดหนทางที่ทายาทเหล่านั้นจะขึ้นเป็นพระสันตะปาปา
หนทางที่สอง ทำให้ขุนนางชั้นสูงในโรมหันมาสนับสนุนเขา ดังที่ได้กล่าวมาแล้ว เพื่อให้เขาสามารถดึงอำนาจพระสันตะปาปาไว้ภายใต้การตรวจสอบของคนเหล่านี้
หนทางที่สาม ต้องก่อตั้งสภาราชาคณะสันตะปาปาขึ้นให้จงได้ หนทางที่สี่ ครอบครองอาณาจักรให้ได้มากกว่านี้ก่อนที่พระสันตะปาปาจะสิ้นพระชนม์ เพื่อให้เขาสามารถต้านทานการโจมตีครั้งแรกเมื่อปราศจากบิดาได้ด้วยตนเอง
ในสี่หนทาง เพื่อความปลอดภัยและรักษาอำนาจของตนไว้ ดยุกทำสำเร็จกี่หนทาง ด้วยวิธีใด โปรดติดตามตอนสิบสองครับ..