คำถามที่ถูกถามมากตอนนี้คือ เราจะอยู่กับรัฐบาลนี้ไปอีกนานไหม นั่นหมายถึงรัฐบาลที่มีแพทองธาร ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี นัยของคำถามสะท้อนความรู้สึกภายในว่า เธอจะมีความรู้ความสามารถที่จะบริหารประเทศได้ในสภาพเศรษฐกิจที่เป็นอยู่ไหม หรือพูดว่าจะไหวมั้ยกับภาวะเศรษฐกิจแบบนี้หุ้นตกเศรษฐกิจฝืดเคืองภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรีแพทองธาร
หรือประเทศจะไปไหวไหมในภาวะที่รัฐมนตรีพาณิชย์แนะนำให้ชาวนาปลูกกล้วยแทนข้าว หรือให้คนไทยช่วยกินข้าวให้มากขึ้นเพื่อแก้ไขปัญหาราคาข้าวตกต่ำและความทุกข์เทวษของชาวนา
รัฐธรรมนูญของไทยออกแบบให้นายกรัฐมนตรีไม่ได้ยึดโยงกับประชาชนโดยตรงแต่ต้องได้เสียงข้างมากจากตัวแทนของประชาชนในสภาฯ เกินกึ่งหนึ่ง โดยให้พรรคการเมืองเสนอชื่อคนที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีไม่เกิน 3 คนก่อนการเลือกตั้ง โดยส่วนใหญ่แต่ละพรรคก็จะเสนอชื่อหัวหน้าพรรคเป็นแคนดิเดต เช่นเดียวกับแพทองธารที่เป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทยเป็น 1 ในรายชื่อที่พรรคเสนอและได้เป็นนายกรัฐมนตรีอยู่ในขณะนี้
แต่ประเด็นปัญหาก็คือ การคัดเลือกหัวหน้าพรรคเพื่อไทยที่ได้แพทองธารมาเป็นหัวหน้านั้น ไม่ได้พิจารณาจากความรู้ความสามารถและประสบการณ์ที่สั่งสมมาจากการประกอบอาชีพหรือบารมีทางการเมือง แต่มาจากการสั่งการของเจ้าของพรรคคือทักษิณที่ต้องการให้ลูกสาวของตัวเองเข้ามารับตำแหน่งนี้ ข้ามหน้าข้ามตาคนในพรรคทั้งที่มีความรู้ความสามารถและมีอาวุโสในพรรคมาทั้งหมด
เป็นที่รับรู้กันว่า หากแพทองธารเป็นเพียงหญิงสาวคนหนึ่งที่เข้าสู่การเมืองในระยะเวลาสั้น ไม่ใช่ลูกสาวของทักษิณ เธอคงไม่สามารถขึ้นมาสู่ตำแหน่งหัวหน้าพรรคเพื่อไทยได้แน่ หรือการได้ตำแหน่งก่อนนั้นเป็นหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย อย่าว่าแต่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเลย สะท้อนความรู้ความสามารถไม่ใช่เหตุผลสำคัญในการวางคนขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรีของพรรคการเมืองพรรคนี้ แต่เป็นการสืบทอดอำนาจของคนในตระกูลชินวัตร
คุณสมบัติที่โดดเด่นของแพทองธารคืออะไร มีความเหมาะสมไหมกับการรับมือกับภูมิรัฐศาสตร์และสภาวะเศรษฐกิจของโลกในสถานการณ์ปัจจุบัน คำตอบคือ ไม่มีเลย เพราะเธอไม่เคยมีบทบาทอะไรที่พิสูจน์ให้เห็นว่าเป็นคนที่มีความรู้ความสามารถที่จะนำพาประเทศชาติไปในสถานการณ์ปัจจุบัน
สะท้อนถึงปัญหาของการออกแบบระบอบประชาธิปไตยของเราในการให้ได้มาถึงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี รวมถึงสะท้อนถึงสภาพพรรคการเมืองที่มีคนเป็นเจ้าของพรรค และการไม่มีประชาธิปไตยในพรรคแม้จะเรียกพรรคของตัวเองว่า ฝ่ายประชาธิปไตยแต่ไม่มีนักประชาธิปไตยในพรรคคนไหนกล้าหืออือกับอำนาจที่สั่งการมาจากเจ้าของพรรคเลย
ถามว่า มองเห็นแพทองธาร นั่งหัวโต๊ะเป็นนายกรัฐมนตรีแล้วรู้สึกเช่นไร ถามว่า เห็นแพทองธาร ยืนอ่านไอแพดแถลงมติการประชุมคณะรัฐมนตรี โดยมีนักการเมืองอาวุโสยืนเป็นวอลเปเปอร์แล้วคิดอย่างไร ถามว่าเห็นแพทองธารเรียกประชุมหัวหน้าส่วนราชการแล้วคิดอย่างไร หรือถามว่าเห็นแพทองธารนั่งเป็นประธานการประชุม ก.ตร.แล้วคิดอย่างไร
เธอมีความรู้ความสามารถที่จะเข้าใจภารกิจของเธอได้อย่างลึกซึ้งไหมความรู้ความสามารถของแพทองธารนั้นเหมาะสมกับบทบาทและสถานะที่กล่าวมาไหม เธอจะเอาอะไรมาสั่งงานราชการ หรือชี้แนะแนวทางให้กับคนที่เป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของเธอ
มันอดตั้งคำถามไม่ได้ว่า สถานภาพการเป็นนายกรัฐมนตรีของแพทองธารนั้นจะสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนต่างชาติอย่างไร
มันสะท้อนว่าประชาธิปไตยแบบไทยนั้นมันสามารถคัดสรรผู้นำที่ดีขึ้นมาบริหารประเทศได้ไหม มันอดไม่ได้ที่จะตั้งคำถามถึงการคัดเลือกผู้นำหรือการวางตัวผู้นำแบบจีนและสิงคโปร์ที่ถูกมองว่าไม่ได้เป็นประชาธิปไตย แต่ได้ผู้นำที่มีความรู้ความสามารถและรัฐบาลที่มีเสถียรภาพ
ผู้นำระดับสูงของจีนมักเริ่มต้นจากการทำงานในระดับท้องถิ่นแล้วค่อยไต่เต้าขึ้นมาเป็นผู้ว่าการมณฑลหรือเลขาธิการพรรคในเมืองใหญ่พวกเขาจะถูกทดสอบด้วยการบริหารจัดการปัญหาจริง เช่น การพัฒนาเศรษฐกิจการจัดการวิกฤตและการรักษาความมั่นคง
โดยพรรคมีระบบประเมินผลงานที่เข้มงวดโดยดูจากตัวชี้วัดเช่นการเติบโตของ GDP ความสงบเรียบร้อยในพื้นที่และความสำเร็จในนโยบายที่พรรคกำหนดผู้ที่มีผลงานดีจะได้รับการเลื่อนตำแหน่งขึ้นสู่ระดับสูงขึ้นเช่นคณะกรรมการกลาง (Central Committee) หรือโปลิตบูโร (Politburo) ก่อนขึ้นสู่ตำแหน่งผู้นำ
ระบบนี้ช่วยให้ได้ผู้นำที่มีประสบการณ์สูงและผ่านการพิสูจน์มาแล้วในระดับต่างๆ ทำให้รัฐบาลมีเสถียรภาพและนโยบายมีความต่อเนื่องเพียงแต่ข้อเสียคือขาดการมีส่วนร่วมของประชาชนคือมันไม่เป็นประชาธิปไตยนั่นแหละ
ในขณะที่สิงคโปร์นั้นเป็นประชาธิปไตยที่มีพรรคการเมืองเด่นคือพรรค People’s Action Party (PAP) ซึ่งครองอำนาจมาตั้งแต่ได้รับเอกราชมีกระบวนการคัดเลือกผู้สมัครที่มีศักยภาพสูงตั้งแต่อายุยังน้อย โดยมองหาคนที่มีการศึกษาดีมีผลงานเด่นในภาครัฐหรือเอกชนและมีจริยธรรมสูงผู้ที่ถูกคัดเลือกจะได้รับการฝึกฝนผ่านตำแหน่งต่างๆ ในรัฐบาล เช่น รัฐมนตรีกระทรวงต่างๆ เพื่อพิสูจน์ความสามารถในการบริหารและการแก้ปัญหา
ลอว์เรนซ์ หว่อง นายกฯ คนปัจจุบันของสิงคโปร์ถูกเตรียมตัวมานานหลายปีผ่านตำแหน่งรัฐมนตรีต่างๆ และได้รับการรับรองจากรุ่นพี่ในพรรคจะเห็นว่าเขาไม่ได้เหาะเหินมาจากครอบครัวหรือถ้าย้อนไปสมัยลีเซียนลุงแม้จะมีที่มาจากการสืบทอดอำนาจในครอบครัวแต่เขาผ่านการพิสูจน์ให้เห็นถึงความรู้ความสามารถมาก่อน
แพทองธารได้พิสูจน์ให้เห็นถึงความรู้ความสามารถมาจากการบริหารธุรกิจไหม คำตอบคือไม่เคยมีผลงานอะไรโดดเด่นมาก่อน และไม่ได้ค่อยๆ ไต่เต้าขึ้นมาจากตำแหน่งทางการเมืองเพื่อพิสูจน์ถึงความรู้ความสามารถมาก่อนจะขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรีเลย นอกจากมีสามีคนหนึ่งและคลอดลูกมาสองคน
การได้ผู้นำที่ดีมีความสามารถของจีนและสิงคโปร์แลกด้วยการถูกเรียกว่าเป็นระบบเผด็จการและกึ่งเผด็จการ ไม่ได้ยึดโยงกับประชาชนโดยตรง แต่มีเสถียรภาพการเมืองที่มั่นคง ไม่ใช่เสรีประชาธิปไตยเปรียบเทียบกับการได้ผู้นำมาบริหารประเทศของเราที่เรียกว่า เป็นระบอบเสรีประชาธิปไตย แล้วประเทศไม่มีเสถียรภาพทางการเมือง ผู้นำที่ไม่มีความสามารถมีความขัดแย้งในพรรคร่วมรัฐบาลแล้วลองคิดดูว่ามีวิธีไหนที่ดีกว่ากัน
ที่พูดมานี่ไม่ได้หมายความว่า ผมสนับสนุนระบอบเผด็จการนะครับ เพราะระบอบเผด็จการหลังการยึดอำนาจแบบไทยก็ไม่ได้ทำให้เราได้ผู้นำที่มีความรู้ความสามารถ แม้จะได้รับการชื่นชอบจากประชาชนกลุ่มหนึ่ง แต่ต้องการสะท้อนถึงวิธีการเลือกผู้นำที่จะขึ้นมาบริหารประเทศนั้นมันควรจะมีวิธีการที่ดีกว่าระบบของเราไหม ถ้าระบอบประชาธิปไตยของเราทำให้พรรคการเมืองยังเป็นที่สืบทอดอำนาจของคนในครอบครัวก็ไม่ต่างกับระบอบเผด็จการของเกาหลีเหนือตรงไหน
คำถามว่า เราควรจะออกแบบระบบของเราอย่างไรเพื่อให้มีผู้นำที่มีความรู้ความสามารถขึ้นมาบริหารประเทศ และทำให้ประเทศมีเสถียรภาพทางการเมืองที่มั่นคง และมีความเชื่อมั่นต่อนักลงทุนทั้งไทยและต่างชาติ
หรือใครคิดว่าระบบที่เป็นอยู่ของประเทศเรามันก็ดีอยู่แล้ว หรืออยู่กันไปอย่างนี้นี่แหละ เดี๋ยวคนเก่งคนดีคนมีความสามารถก็จะอวตารมาเอง
ติดตามผู้เขียนได้ที่ https://www.facebook.com/surawich.verawan