xs
xsm
sm
md
lg

เมื่อทักษิณอ้างว่าตกลงกับพระเจ้า แต่สถานการณ์รุมเร้าให้สติแตก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



หนึ่งความคิด
สุรวิชช์ วีรวรรณ

สัปดาห์ที่แล้วผมได้จารนัยไปแล้วว่า “โกงพ่อมึงสิ”ของทักษิณที่ประกาศท้าทายกระบวนการยุติธรรมนั้น แท้จริงเขาได้โกงอะไรไปบ้าง แถมเป็นการโกงที่เหนือชั้นกว่านักการเมืองในอดีต เพราะเป็นการโกงด้วยการทุจริตเชิงนโยบาย ความขัดแย้งกันระหว่างผลประโยชน์ส่วนตัวกับผลประโยชน์ส่วนรวมที่เรียกกว่าผลประโยชน์ทับซ้อน

แต่ที่คนยังสงสัยก็คือว่า วันนี้ทักษิณถืออำนาจบาตรใหญ่มาจากไหนจึงปะฉะดะไม่เกรงใจใครแม้กระทั่งพรรคร่วมรัฐบาลด้วยกัน หรือแท้จริงแล้วทักษิณมีสาระอะไรซ่อนเร้นอยู่ในใจ

เรื่องร้อนๆ ตอนนี้ของทักษิณก็มีเรื่องถูกอัยการสูงสุดสั่งฟ้องคดีมาตรา 112 ซึ่งศาลจะนัดสืบพยานนัดแรกในกลางปีคือวันที่ 1 กรกฎาคม 2568 คดีนี้ทำให้ทักษิณยังไม่มีอิสระที่แท้จริง เพราะศาลสั่งห้ามเดินทางออกนอกประเทศ คงจำกันได้ทักษิณเคยไปขออนุญาตศาลว่าจะไปพบหมอที่ดูไบ ครั้งนั้นทักษิณอ้างว่า มีความประสงค์เดินทางออกนอกราชอาณาจักรไป พำนักที่เมืองดูไบสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ระหว่างวันที่ 1-16 ส.ค.2567 เพื่อพบแพทย์ซึ่งเคยตรวจรักษาอาการป่วยของจำเลยเกี่ยวกับปอดอักเสบเรื้อรัง ระบบหายใจและหลอดเลือดหัวใจเอ็นไหล่ขวาฉีกขาด และหมอนรองกระดูกสันหลังเคลื่อน ในสถานพยาบาล ที่สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ในวันที่ 2 เเละ 8 ส.ค.2567

จะเห็นว่า อาการเหล่านั้นก็เป็นอาการที่ทักษิณอ้างนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจถึง 180 วันนั่นแหละ แต่ศาลไม่อนุญาตโดยระบุว่า อาการป่วยของจำเลยเป็นโรคที่เกิดแก่บุคคลทั่วไป และแพทย์ในประเทศไทยตรวจรักษาเป็นประจำอยู่แล้ว ก็จริงอย่างที่ศาลท่านว่า เพราะตอนนี้เศรษฐีในตะวันออกกลางล้วนแล้วแต่บินมารักษาตัวที่บ้านเรากันทั้งนั้น

แถมปัจจุบันเราไม่เห็นเลยว่า ทักษิณจะมีอาการป่วยอย่างที่ว่า คนที่เอนไหล่ขวาฉีด หมอนรองกระดูกสันหลังเคลื่อนจะสามารถเล่นกีฬากอล์ฟได้หรือ อาการป่วยที่ทักษิณอ้างจึงเป็นเรื่องที่ชวนน่าสงสัยว่าจริงไหม เช่นเดียวกับที่อ้างเพื่อนอนในชั้น 14 ของโรงพยาบาลตำรวจโดยไม่เข้าคุกลาดยาวแม้แต่วันเดียว เข้าไปนั่นแหละแต่ไม่กี่อึดใจเดียวก็ออกมาด้วยอาการที่หมอของกรมราชทัณฑ์อ้างว่าไม่มีความสามารถจะรักษาตัวทักษิณได้ต้องส่งไปมาที่โรงพยาบาลตำรวจ

วันนี้ก็เห็นแล้วว่า ทักษิณสามารถเดินสายหาเสียงให้กับพรรคเพื่อไทยไปทั่วประเทศอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยผิดกับที่เคยอ้างว่า อยู่ในภาวะอันตรายที่เสี่ยงต่อชีวิตอย่างที่หมอโรงพยาบาลตำรวจอ้างแล้วรักษาตัวอย่างไรก็ไม่หาย แต่พอนอนอยู่จนถึงกำหนดได้พักโทษอาการที่หมอรักษาไม่หายใกล้ตายก็หายเป็นปลิดทิ้ง

จำได้ไหมตอนไปปาฐกาถาให้เครือเนชั่นได้เงินไปหลายสิบล้านเพราะมีเจ้าสัวซื้อโต๊ะเพื่อไปห้อมล้อมทักษิณ ทักษิณไม่ได้พูดเหมือนกับว่า เขาได้เข้าไปรักษาตัวโดนอาการที่ใกล้จะตายตามที่หมออ้างเลยวันนั้นทักษิณยังพูดทีเล่นที่จริงว่า “ขอบคุณที่เชิญมาเล่าให้คนไทยฟังว่าคิดอย่างไรกับบ้านเมืองของเรา เพราะไปอยู่เมืองนอกนานถึง 17 ปี เหมือนถูกส่งไปไปเรียน Post postdoctoral เพราะตัวเองได้ ดร.ไปแล้ว แต่นานไปหน่อย 17 ปี ตอนบินกลับมาเครื่องบินช้า กว่าจะถึงบ้านใช้เวลา 6 เดือน ต้องไปแวะโรงพยาบาลตำรวจ”

น้ำเสียงและลีลาท่าทางนั้นไม่ได้สำนึกเลยว่าตัวเองสำนึกต่อการกระทำความผิดคดโกงแผ่นดินไปตามที่ได้ขอพระราชทานอภัยโทษ และในหลวงทรงพระกรุณาลดโทษจาก 8 ปี เหลือ 1 ปี เช่นเดียวกับที่มาด่ากราดว่า “โกงพ่อมึงสิ” เมื่อเร็วๆ นี้

คดี 112 ก็ดี คดีป่วยทิพย์ก็ดี กำลังเขม็งเกรียวเข้ามาทุกวัน แม้วันนี้ทักษิณจะมีอำนาจมาก แทบจะเรียกว่าเป็นนายกรัฐมนตรีตัวจริงโดยมีลูกสาวเป็นหุ่นเชิดก็ว่าได้ กลายเป็นศูนย์กลางที่ทุกคนต้องวิ่งเข้าหา ทั้งสื่อมวลชน ทั้งนักธุรกิจระดับยักษ์ใหญ่ ทั้งข้าราชการทุกหมู่เหล่า แต่คดีที่ติดชนักหลังอยู่ก็ไม่อาจทำให้ทักษิณวางใจได้

ผมคิดว่า คดี 112 ที่ทักษิณกล่าวพาดพิงถึงสถาบันกษัตริย์กับสื่อเกาหลีที่พาดพิงถึงกลุ่มคนที่เขาเรียกว่า Palace Circle นั้น คดีจะออกทางไหนก็ได้ และอย่าลืมว่า คดีนี้มีอัยการสูงสุดถึง 2 ท่านมีความเห็นไปในทางเดียวกันคือ มีคำสั่งฟ้องทักษิณว่าเข้าข่ายความผิดเพื่อส่งให้ศาลวินิจฉัย ฉะนั้นเชื่อว่า คดีนี้ก็ทำให้ทักษิณไม่อาจวางใจได้เช่นกัน

ถ้าเราเห็นท่าทีของทักษิณ เราจะเห็นว่า ตัวเขามีความเชื่อว่า ผู้มีอำนาจในสังคมต้องการใช้เพื่อต่อสู้กับพรรคของคนรุ่นใหม่อย่างพรรคประชาชน ดังนั้นเขาจึงมั่นใจว่า เขาเป็นคนสำคัญของประเทศนี้ที่มีส่วนที่จะชี้ชะตาว่าประเทศจะเดินไปในทางไหน แต่เขาเองก็คงไม่พอใจนักที่ยังมีคดี 112 คาหลังอยู่

ทักษิณไปพูดหาเสียงที่ศรีสะเกษว่า ..อยากให้ผมทำงานให้หรือไม่ เอาอีกกี่ปี แต่ผมตกลงกับพระเจ้า ว่าผมไม่อยู่ประเทศไทยมา 17 ปี เพราะฉะนั้น ขอทำงานให้พี่น้องคนไทยใช้หนี้ไปก่อนอีก 17 ปี ต้องใช้หนี้ให้คนไทยก่อน

เราไม่รู้เหมือนกับว่า ทักษิณไปดีลกับพระเจ้าองค์ไหนมา เพราะทักษิณเป็นพุทธศาสนิกชนไม่ได้นับถือพระเจ้า ก็เลยยิ่งน่าสงสัยว่าทักษิณไปดีลกับพระเจ้าองค์ไหนถึงมั่นใจว่า เขาจะอยู่ทำงานเพื่อใช้หนี้ให้คนไทยได้อีก 17 ปี

แต่อาการขึ้นเวทีปราศรัยและเหมือนไฟธาตุแตกของทักษิณนอกจากคดี 112 แล้วก็เห็นจะเป็นคดีที่อยู่ในป.ป.ช. แม้คดีนี้ผู้ถูกร้องไม่ใช่ทักษิณโดยตรงแต่เป็นเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์และบรรดาหมอของโรงพยาบาลตำรวจ แต่ถ้าป.ป.ช.เชื่อว่าคดีนี้ผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 12 รายหรือบางคนใน 12 รายเอื้อประโยชน์ให้กับทักษิณแล้ว คนที่ติดคุกก็อาจจะเป็นเจ้าหน้าที่เสียเองก็จริง แต่อาจจะพาดพิงกลับมาที่ทักษิณด้วยหากชี้ว่า การนำตัวทักษิณมารักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจนั้นไม่ชอบด้วยกฎหมาย ทักษิณก็อาจจะต้องกลับไปติดคุกใหม่

เชื่อไหมว่า ระหว่างคดีของแตงโม-นิดา ที่คนส่วนใหญ่เชื่อว่า เป็นฆาตกรรมมากกว่าอุบัติเหตุ แม้ว่าตำรวจจะทำสำนวนฟ้องไปว่าเป็นอุบัติเหตุ แต่น่าจะน้อยกว่ากรณีของทักษิณซึ่งคนเกือบทั้งหมดน่าจะเชื่อว่า ทักษิณป่วยทิพย์ยิ่งมาเห็นอาการของทักษิณในปัจจุบันด้วยแล้วจะหาคนเชื่อว่าทักษิณป่วยจริงได้ยากมาก

สิ่งที่ทักษิณกำลังสติแตกอยู่ในเวลานี้อีกอย่างก็คือ กรณีที่ศาลฎีกากำลังพิจารณาว่า คดีของทักษิณที่ถูกส่งตัวมารักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจนั้นชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ เพราะว่าถ้าศาลชี้ว่าไม่ชอบ ทักษิณก็จะต้องกลับไปติดคุกใหม่ทันที คราวนี้จะอ้างว่า มีอาการป่วยอีกก็คงจะไม่ได้แล้ว เพราะเห็นกันอยู่ว่าทุกวันนี้ทักษิณแข็งแรงมากไม่ไม่มีอาการของคนใกล้ตายอย่างที่หมอโรงพยาบาลตำรวจเคยอ้างเลย

อาการอีกอย่างของทักษิณในเวลานี้ก็คือ พรรคร่วมรัฐบาลไม่ได้ตามใจทักษิณไปเสียทุกอย่าง และอุ๊งอิ๊งค์ แพทองธาร ลูกสาวที่แสดงเป็นนายกรัฐมนตรีนั้นถูกมองว่าอ่อนด้อยสติปัญญาเสียยิ่งกว่ายิ่งลักษณ์อาของเธอ มีอยู่อย่างเดียวคือการแสดงเป็นผู้นำแฟชั่นไม่เว้นแต่ละวัน

พรรครัฐบาลนั้นแม้จะดูเหมือนสยบยอมรัฐบาล อย่าง พรรคภูมิใจไทยที่อนุทิน ชาญวีรกุล พยายามยอมทำตัวเป็นวอลเปเปอร์ของอุ๊งอิ๊งค์ แต่เอาเข้าจริงๆ แล้วก็ทิ่มแทงกลับมาที่ทักษิณหลายเรื่องโดยเฉพาะที่ดินอัลไพน์ แม้ทักษิณจะพูดปลอบใจตัวเองว่า เอายังไงก็เอาจะได้จบๆ เสียที แล้วตัวเองจะได้เงินชดเชยก็ไม่ง่ายหรอก เพราะมีคดีที่ศาลตัดสินจำคุกยงยุทธ วิชัยดิษฐ์ซึ่งศาลระบุว่าเพราะเอื้อประโยชน์ให้กับบริษัทอัลไพน์และทักษิณซึ่งเท่ากับว่าได้ที่ดินผืนนี้มาโดยไม่สุจริตนั่นเอง นี่เป็นประเด็นหนึ่งที่พรรคภูมิใจทำให้ทักษิณกระอักเลือด
นอกจากนั้น พรรครวมไทยสร้างชาติเองก็ไม่ได้ตามใจทักษิณไปเสียทุกเรื่อง โดยเฉพาะกับนายทุนพลังงานที่ร่วมก๊วนกอล์ฟกับทักษิณ แต่ทักษิณจะเล่นงานก็ยาก เพราะความพยายามของ พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค คือความพยายามลดราคาพลังงานลงมา รวมถึงการรถค่าไฟที่ทักษิณเห็นว่าจะได้ใจประชาชน ทักษิณถึงกับเอาเรื่องลดค่าไฟไปประกาศเพื่อให้ประชาชนเห็นว่า นี่เป็นผลงานของรัฐบาล แต่ไม่ถูกใจนายทุนอย่างแน่นอน

ดังนั้นการที่ไม่สามารถคุมอำนาจได้อย่างเบ็ดเสร็จในฐานะรัฐบาลผสม ลูกสาวกำลังเป็นเป้าการเมืองเรื่องสติปัญญาความสามารถ และคดีความต่างๆที่กำลังรุมเร้าและงวดเข้ามาก็เชื่อว่า เราคงจะได้เห็นทักษิณสติแตก เพราะเขาเชื่อว่ากลับมาเที่ยวนี้ทุกอย่างจะราบรื่น เหมือนกับที่เขาพูดว่า ผมตกลงกับพระเจ้า ว่าผมไม่อยู่ประเทศไทยมา 17 ปี เพราะฉะนั้น ขอทำงานให้พี่น้องคนไทยใช้หนี้ไปก่อนอีก 17 ปี แต่เหมือนพระเจ้ากำลังไม่ทำตามสัญญา

ติดตามผู้เขียนได้ที่ https://www.facebook.com/surawich.verawan


กำลังโหลดความคิดเห็น