xs
xsm
sm
md
lg

ใครคือคนบงการฆ่าลิม กิมยา

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: สุรวิชช์ วีรวรรณ



กรณีนายเอกลักษณ์ แพน้อย หรือจ่าเอ็ม อดีตทหารเรือยิงนายลิม กิมยา อดีต สส.กัมพูชา เสียชีวิตนั้น ดูจากการให้ปากคำของจ่าเอ็มแล้วดูเหมือนยากมากที่จะสาวถึงคนบงการ เพราะเมื่อตำรวจสอบปากคำเชิงลึกถึงข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลอื่นเช่นผู้มีพระคุณที่จ่าเอ็มอ้างว่าเป็นผู้จ้างวานเขาหรือบุคคลผู้ชี้เป้าจ่าเอ็มไม่ให้การที่เป็นประโยชน์เลย

แน่นอนว่า ผู้มีพระคุณของจ่าเอ็มน่าจะเป็นคนไทยนี่แหละ เพราะไม่มีรายงานว่าจ่าเอ็มเคยมีความสัมพันธ์ใดๆ กับทางประเทศกัมพูชามาก่อน ส่วนคนชี้เป้าคือนายคิมริน พิช (kimsrin pich) ผู้ต้องหาที่ 2 ซึ่งอยู่ระหว่างการหลบหนีและถือหนังสือเดินทางของประเทศกัมพูชาได้เดินลงจากรถโดยสารประจำทางคันดังกล่าว และได้เดินไปที่จ่าเอ็มยืนอยู่ ซึ่งแสดงว่า จ่าเอ็มไม่ได้รู้จักกับลิม กิมยา มาก่อน

แน่นอนว่า เมื่อลิม กิมยาเป็นฝ่ายค้านและมีข่าวว่า เขามักจะวิจารณ์ฮุนเซน ฮุน มาเนต ลูกชายฮุนเซนที่ปัจจุบันเป็นนายกรัฐมนตรี มาตลอด โดยเฉพาะเรื่อง MOU 44 ที่ต้องการแบ่งผลประโยชน์ในทะเลกับไทยที่ทั้งทักษิณ และอุ๊งอิ๊งค์-แพทองธาร ชินวัตร บอกว่าถ้าตกลงกันไม่ได้ก็แบ่งกัน 50-50

แต่ลิม กิมยาไม่ได้ไม่เห็นด้วยกับเส้นที่กัมพูชาขีดผ่านเกาะกูดของไทย แต่ลิม กิมยาไม่พอใจเส้นที่กัมพูชาขีดนั้นเมื่อถึงเกาะกูดแล้วก็อ้อมเป็นตัว U ไม่ลากตัดกลางเกาะกูดที่ลิม กิมยาเชื่อว่า เกาะกูดเป็นของกัมพูชา และจากเส้นนี้เองที่ทำให้อุ๊งอิ๊งค์พูดว่า กัมพูชาเขาลากเส้นมาแล้วอ้อมเกาะกูดของไทย เพื่อยืนยันว่า กัมพูชาไม่ต้องการเกาะกูด

ที่น่าสงสัยก็คือ ทำไมต้องฆ่า ลิม กิมยา ที่กรุงเทพฯ ทำไมเมื่อจ่าเอ็ม ยิง ลิม กิมยาตายแล้ว จึงหลบหนีไปกัมพูชา หรือว่า คนที่จ้างวานบอกให้เขาหนีไปที่นั่นแล้วจะปลอดภัย แต่ก็ไม่ใช่อีกเพราะปรากฏว่าจ่าเอ็มถูกตำรวจกัมพูชาจับส่งตัวให้ฝั่งไทย

แต่ทันทีที่ลิม กิมยา ถูกยิงเสียชีวิต คู่อริของฮุนเซน อย่างสม รังสี ได้ชี้นิ้วไปที่ฮุนเซน ทันที โดยสมได้โพสต์คลิปเสียงข้อความเป็นภาษากัมพูชาและภาษาอังกฤษโดยเนื้อหาโดยอ้างว่า “This is a leaked audio message from “Hun Sen” ordering the killing of Mr.Phan Phana and other activists in Thailand, which has so far resulted in the death of Mr.“Lim Kimya.”Hun Sen is the mastermind behind the killings.”

จับใจความได้ว่า “เป็นข้อความเสียงของฮุนเซนที่สั่งการให้สังหารโดยมีการระบุชื่อชายคนหนึ่งและนักเคลื่อนไหวคนอื่นๆ ในประเทศไทย ซึ่งจนถึงขณะนี้ส่งผลให้นายลิม กิมยาเสียชีวิตแล้ว นอกจากนี้นายสม รังสียังอ้างว่าฮุนเซนคือผู้วางแผนอยู่เบื้องหลังการสังหารครั้งนี้”

แน่นอนสิ่งที่ถูกโยงเข้ากับการสังหารลิม กิมยา กลางกรุงเทพฯ ก็คือ ความสัมพันธ์ที่แนบแน่นระหว่างทักษิณกับฮุนเซน

แต่รัฐมนตรีอาวุโสกิเทค และฝ่ายกฎหมายของรัฐบาลเตือนประชาชนที่กล่าวหาฝ่ายรัฐบาลว่าการหมิ่นประมาทสาธารณะ ด้วยการใส่ร้ายและยุยงให้เกิดความไม่สงบในสังคมถือเป็นความผิดทางอาญาที่กำหนดและลงโทษตามกฎหมายที่ใช้บังคับแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา

นอกจากนั้นมีบทความชื่อ “ใครอยู่เบื้องหลังการฆาตกรรมนายลิม กิมยา” ลงใน www-freshnewsasia.comปิดบังชื่อผู้เขียน และใช้ชื่อว่า โดย : อาจารย์ประจำสาขาวิชารัฐศาสตร์จังหวัดพระตะบอง อ้างว่าเขาทำการวิเคราะห์อย่างอิสระโดยยึดหลักเหตุและผลไม่ใช่การเมือง โดยเขาตั้งคำถามว่า ใครได้ประโยชน์จากการสังหารนายลิม กิมยา ซึ่งดูเหมือนเจตนาของเขาจะปกป้องรัฐบาลเป็นสำคัญ
เขาบอกว่า รัฐบาลไม่มีผลประโยชน์ใดๆเลยในการฆาตกรรมนักการเมืองฝ่ายค้านโดยเฉพาะกรณีของนายลิมกิมยา นอกจากจะไม่ได้รับผลประโยชน์ใดๆ แล้วยังต้องเสียหายมหาศาลด้วย เพราะถ้าหากเกิดการฆาตกรรมนักการเมืองฝ่ายค้านขึ้นเป็นที่ชัดเจนว่าความเห็นสาธารณะจะสงสัยพรรครัฐบาลซึ่งเป็นคู่ต่อสู้ของเหยื่ออย่างแน่นอน เห็นได้ชัดว่าทันทีที่เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นกลุ่มฝ่ายค้านที่นำโดยนายสม รังสี ก็ได้กล่าวหาเขาทันทีและไม่ลังเล

เขาบอกว่า นายลิม กิมยาไม่ใช่บุคคลที่มีอิทธิพลสำคัญในเวทีการเมืองเลยนายลิม กิมยาเป็นเพียงอดีตสมาชิกรัฐสภาจากโควตาของนายเคม โสคา ที่ไม่ได้เคลื่อนไหวทางการเมืองมาหลายปีแล้วประชาชนทั่วไปไม่เคยได้ยินหรือรู้จักนายลิม กิมยาเลยแล้วเราก็ถามได้ง่ายๆ ว่ารัฐบาลมีความจำเป็นอะไรที่ต้องจ้างคนมาลอบสังหารลิม กิมยา? จากข้อโต้แย้งทั้งหมดข้างต้นเป็นเรื่องไม่น่าเชื่อที่รัฐบาลจะจ้างคนไปลอบสังหารลิม กิมยา

บทความอ้างว่า นายลิม กิมยา แท้จริงแล้ว เป็นศัตรูตัวฉกาจของนายสม รังสี อ้างความเห็นของชุมเสรีโสคม ผู้สนับสนุนสม รังสี ในสหรัฐฯโดยอ้างว่านายลิม กิมยา สมควรที่จะตาย เนื่องจากก่อนหน้านี้เขาเคยกล่าวประณามสม รังสีอย่างรุนแรงมาแล้ว

ผู้เขียนยังอ้างด้วยว่า เป้าหมายของกลุ่มฝ่ายค้านหัวรุนแรงในกัมพูชาและไทยคือการล้มล้างรัฐบาลที่ปกครองอยู่เป้าหมายร่วมกัน และความสอดคล้องระหว่างทั้งสองกลุ่มได้ทำให้เกิดคำถามอีกข้อหนึ่งขึ้นมา: เป็นไปได้หรือไม่ที่จะมีบุคคลที่สามมาจัดระเบียบเพื่อช่วยเหลือทั้งสองกลุ่มโดยกล่าวโทษรัฐบาลของพวกเขาเอง?

ตลกมากคือ โยงมาถึงฝ่ายต่อต้านรัฐบาลของประเทศไทยด้วยว่าอาจจะมีส่วนเกี่ยวข้อง มันจึงยิ่งตอกย้ำว่า บทความชิ้นนี้ถูกเขียนขึ้นมาจากจินตนาการมากกว่าการอ้างอิงของเท็จจริงอย่างมีหลักฐานตามที่อ้าง

นอกจากนั้น นายซวนเสรีระธา ซึ่งตามข่าวบอกว่าเป็นอดีตผู้นำพรรคฝ่ายค้านของรัฐบาลให้สัมภาษณ์ว่าก่อนที่จะเดินทางออกจากฝรั่งเศสมายังประเทศไทยลิม กิมยามีความขัดแย้งกับสม รังสีเกี่ยวกับการก่อตั้งขบวนการปลดปล่อยแห่งชาติเนื่องจากลิม กิมยาเข้าใจและถือว่าการเคลื่อนไหวดังกล่าวผิดกฎหมายและอาจกลายเป็นกลุ่มก่อการร้ายฝ่ายค้านได้ นั่นคือเหตุผลที่ลิม กิมยาตัดสินใจมาประเทศไทยเพื่อแสวงหาการมีส่วนร่วมทางการเมืองกับพรรคที่ก่อตั้งโดยอดีตกองทัพกอบกู้ชาติตามที่ผู้ให้ข้อมูลลิม กิมยาจะเข้าพบเนมพรหริศเพื่อมีส่วนร่วมในการเมืองในพรรคนี้

พูดง่ายๆ ว่า คดีนี้มีการโยนกันไปมาระหว่างฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้าน ในขณะที่ฝ่ายรัฐบาลกัมพูชา ซึ่งมีกระบอกเสียงมากกว่ายืนยันขันแข็งว่า ผู้นำประเทศไม่ได้เกี่ยวข้องกับการตายของลิม กิมยา

แต่ส่วนตัวผมคิดว่า สม รังสีไม่น่าจะมีศักยภาพในการจ้างมือปืนในประเทศไทยมาสังหาร ลิม กิมยาที่เดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศใจกลางกรุงเทพฯ ได้ เพราะสม รังสีน่าจะรู้ดีว่า รัฐบาลของไทยในขณะนี้มีความสัมพันธ์ที่เหนียวแน่นกับรัฐบาลกัมพูชา มันง่ายมากถ้าหากมือปืนถูกจับกุมตัวแล้วจะต้องซัดทอดผู้บงการ เพราะไม่มีเหตุผลอะไรที่มือปืนจะต้องกลัวอิทธิพลของสม รังสี เพราะเขาไม่ได้มีอิทธิพลอะไรในประเทศไทย หรือแม้แต่ในกัมพูชาก็ตาม

ถึงตรงนี้น่าจะพอคาดการณ์ได้ว่าสังคมจะเชื่อใครว่าใครคือผู้บงการตัวจริงระหว่างการซัดทอดกันไปมาระหว่างฝ่ายค้านและรัฐบาลกัมพูชา แต่เชื่อว่าจะถูกตัดตอนให้จบลงที่จ่าเอ็มเพียงคนเดียว ยากจะสาวถึงคนบงการได้
 
ติดตามผู้เขียนได้ที่ https://www.facebook.com/surawich.verawan
 


กำลังโหลดความคิดเห็น