xs
xsm
sm
md
lg

“ทาสพระพุทธเจ้า” กับ “คนโกงชาติ”!!!(ตอนจบ)

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“สอดแนมการเมือง”
“ชัชวาลย์ ชาติสุทธิชัย”


“พุทธทาสภิกขุ” เริ่ม “วาทะคำคม” บทความตอนจบ ด้วยการเตือน “มนุษย์” ที่ลุ่มหลงใน “วัตถุนิยม” เป็น “สรณะ” อันเป็นเหตุให้สังคมโลกในวันนี้ วุ่นวายปั่นป่วนด้วย “สงคราม” หาความ “สงบศานติ” ไม่ได้

ที่สำคัญยิ่งคือ ชาติที่เป็น “มหาอำนาจ” มีความเจริญกว่า ใช้อำนาจกองทัพอันทันสมัยและเกรียงไกร บุกไปเอาเปรียบ “ชาติอ่อนแอกว่า” อย่างต่อเนื่องตลอดมา

ดังนั้น...“ท่านพุทธทาส” จึงเผยคำพูดถึงผู้คนไว้ว่า...

“ความเจริญด้วยวัตถุนั้น นับว่าเป็นบาปกรรมของมนุษย์ ผู้มากไปด้วยอวิชชา จงระวังภัยจากวัตถุนิยมกันให้เต็มที่เถิด ความยากลำบาก แก่การเป็นอยู่ในโลกจะสดลงทันที ขอจงรีบหลีกห่างออกมาเสียจากอำนาจวัตถุ”

นอกจากนั้น “ท่านพุทธทาส” ยังเตือนคนลุ่มหลงในเงินตราว่า..“เงินมีคุณอนันต์ เมื่อใช้มันอย่างถูกต้อง มีโทษมหันต์ เมื่อใช้มันอย่างเขลา” นั่นคือสิ่งที่“ท่านพุทธทาส” เตือนด้วยธรรมเมตตาแก่ “มวลมนุษย์” แต่คนอย่าง “ษิณ” ไม่สำนึกและทำดังที่ “ท่านพุทธทาส” แนะนำไม่ได้ครับ เพราะ “ษิณ”ใช้เงินตราอย่างงี่เง่า ซื้อตัวนักการเมือง-ซื้อเสียง-ซื้ออำนาจ-โกงชาติ และทำลายการเมืองไทยมาจนทุกวันนี้

จน “ท่านพุทธทาส” ต้องย้ำว่า “คนสมัยนี้ ‘การเมืองขึ้นสมอง’ ใช้การเมืองเป็นเครื่องมือกอบโกย ฟาดฟันผู้อื่น ครอบงำผู้อื่น เพื่อประโยชน์ตนฝ่ายเดียว การเมืองเลยกลายเป็นเรื่องอัปรีย์จัญไรไปเสีย”

โอ๊ย!..คำพูดล่าสุดช่างตรงกับ “ษิณ” เป๊ะเลย! ทั้งนี้เพราะเมื่อใดที่ “ษิณ” มี “อำนาจ” ก็จะ “โกงชาติมิรู้จักพอ” ทุกที “ษิณ”เ อาแต่กอบโกย “อำนาจ-เงินทอง-ทรัพย์ศฤงคาร”! แบบนี้..“บาปกรรมจะต้องตามสนองแน่นอน”!
แต่อนิจจา! “ษิณ” ไม่เคยแสดงตัวตนกลัวบาป ไม่กลัวต้องตกนรกหมกไหม้.. “ษิณ” จึงโกงแม้กระทั่งที่ดินวัด!!!

“พุทธทาส” ท่านยังกล่าวอีกว่า “เรื่องถูกด่านั้นไม่ต้องห่วง ใครๆก็มีโอกาสถูกด่า แม้กระทั่ง ฟ้า ฝน ก็ถูกด่าเป็นประจำ”

คำกล่าวของ “ท่านฯ” ช่างถูกใจ “ษิณ”อย่างล้นพ้น ใครจะด่า “ษิณ” มากมายแค่ไหน “ษิณ” ไม่สนใจ!

โถ.. “ษิณ” หน้าด้านซะอย่าง..ใครจะทำอะไรได้ล่ะ? ทั้งๆ ที่ถูก “สนธิเปิดโปง” อย่างล่อนจ้อน และถูก “ประชาชน” ขับไล่ราวหมูราวหมา.. เมื่อถูกศาลตัดสินคดีว่าผิดจริง ต้องติดคุกสองปี “ษิณ” หนีเตลิดไปอยู่นอกประเทศ ร่อนไปร่อนมานานถึง 17 ปี.. ส่งเสียงปาวๆ เป็นระยะๆ ว่า “ผมถูกกลั่นแกล้ง!”

ในที่สุด.. “ษิณ” ขอกลับมา “เลี้ยงหลาน” เดินลงจากเครื่องบินอย่างกระปรี้กระเปร่า ยิ้มแย้มร่าเริง หน้าตาสดใส..

หลังจากนั้น ก็เกิดละครฉากใหญ่ ที่คุกบางขวาง-ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ โดย “ษิณ” ได้ทำหนังสือถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษ ยอมรับสารภาพว่า “รัฐบาลกรูโกงชาติจริง”!

ละครชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ เล่นอยู่นานถึงครึ่งปี.. ระหว่างนั้น มี “พระบรมราชโองการ” พระราชทานพระเมตตา ลดโทษ “ษิณ” จาก 8 ปีเหลือ 1 ปี..

แต่บัดนี้.. “ษิณ” กลับมาใหญ่คับฟ้าในแผ่นดินไทยได้อีกครั้ง..!!

“ษิณ” ไม่ “ติดคุก” สักวันเดียว!.. “ษิณ” ไม่ยอมทำตาม “พระบรมราชโองการ” ที่ลดโทษให้ “ษิณ” โกงแม้เวลาติดคุก”!!!
“พุทธทาส” สั่งสอนอีกว่า “ความทุกข์สอนอะไรๆ ได้ดีกว่าความสุข คือ สอนตรงกว่า มากกว่า รุนแรงกว่า ความสุขมีแต่ทำให้เราลืมตัว”
ใช่เลย! “ษิณ” ลืมตัว.. คลั่งรวยและอยากรวยมากยิ่งขึ้นๆ.. จึงโกงมิรู้จักพอ!
“พุทธทาส” เน้นถึงทุกฝ่ายในชาติว่า “ถ้าทำหน้าที่ ก็ต้องทำเพื่อหน้าที่ อย่าไปทำเพื่อสิ่งอื่น มันจึงจะบริสุทธิ์”
“ษิณ” เป็นนายกฯ-ก็ใช้อำนาจรัฐโกงชาติ
“ษิณ” ไม่ยอมติดคุก! “หมอ” บางคนจึงแอบช่วย “ษิณ” เรื่อง “ป่วยทิพย์”! คนในกรมราชทัณฑ์..ก็ช่วย “ษิณ” ไม่ต้องติดคุก? “ตุลาการ” ก็เงียบเฉย.. เงียบกริ๊บเลย!

“นายกฯ เด็กอมมือ” ก็ไร้น้ำยา “พิทักษ์นิติรัฐ”!

“ทุกคน ทุกฝ่าย”ในชาติไทย ไม่ได้ทำหน้าที่ของตนเองดังควรเลย???

ผมนึกถึงคำพูด “พุทธทาส” ที่ว่า “เรื่องการปกครอง การพัฒนา อะไรก็ตาม เดี๋ยวนี้ทำไม่ได้ดี เพราะทำโดยคนไม่มีศีลธรรม ให้ทำอะไร ก็เหมือนกับ‘ให้โอกาส’สำหรับโกง เพื่อประโยชน์ส่วนตัว เพราะความไม่มี‘ศีลธรรม’”

และ “ท่านฯ” ยังพูดต่ออีกว่า “นักการเมืองบริสุทธิ์ ไม่ทำตัวเพื่อเงิน เพื่ออภิสิทธิ์ แต่เพื่อความเป็นธรรม หรือเพื่อหน้าที่ การเมืองบริสุทธิ์ คือ ‘ศีลธรรม’ การเมืองระยำ!! คือ ‘การต่อสู้แย่งชิง’”

มิใช่แค่แย่งอำนาจกับไร้ศีลธรรมเท่านั้น “ษิณ” กับ “รัฐบาลลูกสาว” กำลังจะทำให้ชาติไทย “เสียดินแดนไทย” เพราะ “ษิณ”แอบไปทำ “MOU44” และ “JC44” ไว้กับเขมร

“ท่านพุทธทาสภิกขุ” เคยเรียกร้องให้ “นักการเมือง” โดยเฉพาะนักการเมืองแบบ “ษิณ” นั่นคือ “มีธรรมมะ แค่กำมือเดียวก็พอแล้ว ถ้าปฏิบัติถูกต้องจริง ก็สามารถหลุดพ้นความทุกข์ได้”

ทว่า.. “ษิณ” กับ “นายกฯ ผู้ลูกสาว” ดื้อด้านดันทุรัง “ไม่ยอมยกเลิก” เรื่อง “MOU44” และ “JC44”!

ชาติและประชาชน จึงยังอยู่ในความสุ่มเสี่ยง ยังไม่หลุดพ้นจากความทุกข์

ผมจึงนึกถึงคำพูดของ “ท่านพุทธทาส” ที่ว่า “เพราะการละโมบบุญ ละโมบเกียรติ ละโมบสวรรค์ เรื่องนี้เป็นมหกรรม”
กรณี “ษิณ” มี “การละโมบอำนาจ” ด้วยนะครับ.. ซึ่งได้สร้างความแตกแยกในสังคมไทยทั่วทุกหัวระแหง

“พุทธทาสภิกขุ” ยังกล่าวถึง การหลอกตัวเอง ว่า “หลอกตัวเอง ระวังตัวเองหลอกตัวเอง เสียหายกว่าผู้อื่นหลอก ตั้งร้อยตั้งพันเท่า แต่ก็ไม่มีใครระวัง”

และการที่ “พลพรรคนักการเมือง” ในเครือข่ายของ “ษิณ” ชอบพูดเท็จ “คนที่ถึงกับพูดเท็จได้แล้ว จะไม่ทำบาปอย่างอื่นๆ ทุกอย่างได้นั้น เป็นไม่มี เพราะเขาได้โกหกหลอกลวงตัวเองจนถึงที่สุด และขบถต่อตัวเองแล้วอย่างสิ้นเชิง”

“ท่านพุทธทาส” ยังชี้ให้รู้อีกด้วยว่า “ถ้าท่านพูดพล่อยๆ ก็คือท่านเปิดรูรั่ว ให้เกียรติยศของท่าน ค่อยๆ รั่วจนหมดไป”

“ษิณ” และ “นักการเมือง” พากันไร้เกียรติไปหมดสิ้นแล้ว เพราะทำไม่ได้ตามที่ “ท่านพุทธทาส” สอนสั่งไว้ว่า “ความดี ทำแค่สองเวลาคือ เวลาหายใจเข้า กับเวลาหายใจออก”
เวรกรรม! ต่อให้ไร้ลมหายใจเข้าและออก “ษิณ”ก็ทำไม่ได้หรอก!

“พุทธทาส” รู้เท่าทันว่า “เดี๋ยวนี้ มันเต็มไปด้วยคนคดโกง คอร์รัปชั่นทุกรูปแบบ ของการงานในโลกนี้..ก็เพราะว่า มันเสื่อมทางศีลธรรม”

แหม.. ช่างตรงกับสันดาน “ษิณ” กับพรรคพวกเปี๊ยบ!!!???
“ธรรมะกับการเมือง เป็นสิ่งที่แยกกันไม่ได้ แยกกันเมื่อไร การเมืองก็กลายเป็นทำลายโลกขึ้นมาทันที”
โอ๊ย! “ษิณ” กับ “นักการเมืองในคอก” ไม่มีวันเข้าใจ “ธรรมนี้” ของ “ท่านพุทธทาสภิกขุ” แน่นอน
รวมถึงที่ “ท่านฯ” กล่าวว่า “ความดีต้องสู้ความชั่วได้ พระพุทธเจ้าได้ตรัสไว้ว่า “ความดีแม้น้อย ก็ชนะความชั่วแม้มากได้” เพราะว่า ความดีมีอำนาจพิเศษ ฉะนั้นอย่าท้อถอย ถ้าตายก็ตายด้วยความดี คนที่ตายด้วยความดี เขาไม่เรียกว่าแพ้”
ใช่เลย! ทุกคนต้องรู้อยู่เสมอว่า “คนทำดีตาย ‘ความดี’ จะเป็น ‘ตำนาน’ ให้คนรุ่นหลังได้เล่าขานนิรันดร์กาล! “คนทำชั่ว” ฤา ยาม “ษิณตาย”! “ความชั่ว” จะติดตรึงไปชั่วนิรันดร์!

“ถ้าไม่รู้จักใช้เงิน ก็เป็นทาสเงิน ต้องหาเงินมากเกินความจำเป็น ไม่รู้จักใช้อะไร ก็จะเป็นทาสของสิ่งนั้น”

“ท่านพุทธทาส” สอนดีเหลือเกิน ที่สำคัญ..ท่านรู้ด้วยว่า “พอมีอำนาจ ราชศักดิ์ ก็มีโอกาสที่จะทุจริตได้ง่ายขึ้นอีกหลายเท่าตัว ต้องระมัดระวังไว้ให้ดี”

สำหรับ “ษิณ” มัน “สาย” ไปแล้ว! แม้ “ท่านพุทธทาส” จะเคยบอกว่า “ชีวิตที่อยู่ภายใต้อำนาจกิเลส คือชีวิตที่‘ติดคุก’นิรันดร”
“ษิณ” เอ๋ย!..ตายไปก็เอาเงินติดตัวไปไม่ได้นะเฟ้ย..!

ปิดท้ายหนังสือ “ทาสพระพุทธเจ้า” ด้วยวาทะคำคมหลังปก “พุทธทาสภิกขุ” ที่กล่าวไว้ว่า.. “เข้าใจผิดว่า แก่แล้วทำอะไรก็ได้ ที่ถูกคือ แก่แล้วต้องยิ่งสำนึก ทำชั่วไม่ได้ เวลาเหลือน้อย”

“ษิณ” แก่จวนจะตายวันตายพรุ่ง “ษิณ” จะกลับตัวกลับใจ มาทำดีได้บ้างไหม??


กำลังโหลดความคิดเห็น