xs
xsm
sm
md
lg

ยุบสภาฯ แก้ปัญหาตัวเอง : การฆ่าตัวตายทางการเมือง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: สามารถ มังสัง



ในขณะนี้ได้มีข่าวซุบซิบว่านายกฯ แพทองธาร ชินวัตร อาจยุบสภาฯ เนื่องจากรัฐบาลไม่มีเอกภาพในการผลักกฎหมายที่ สส.พรรคเพื่อไทยเสนอทำให้กฎหมายผ่านไปไม่ได้ และทำให้ สส.พรรคเพื่อไทยบางคนได้พูดกระแหนะกระแหนพรรคภูมิใจไทยในทำนองว่า ขัดขวางการพัฒนาประชาธิปไตย และที่สำคัญเหนืออื่นใดอดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร ซึ่งเป็นนายกฯ เงาได้พูดในทำนองว่า ไม่อยากอยู่ก็ออกไป

จากพฤติกรรมดังกล่าวข้างต้น ทำให้มีการคาดการณ์ว่ารัฐบาลชุดนี้อาจจบลงด้วยการยุบสภาฯ ก่อนที่จะจบลงด้วยคำตัดสินของศาลจากคดีความที่มีผู้ร้องและอยู่ระหว่างการของ ป.ป.ช.และ กกต.

ยุบสภาฯ แก้ปัญหาที่เป็นอยู่จริงหรือ?

เพื่อจะตอบคำถามข้างต้น ขอให้ท่านผู้อ่านลองย้อนไปดูการยุบสภาฯ ในสมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ก็จะพบว่าการยุบสภาฯ ในภาวะที่รัฐบาลตกต่ำทางการเมือง ไม่ต่างจากการฆ่าตัวตายทางการเมือง นอกจากแก้ปัญหาความขัดแย้งไม่ได้แล้ว การเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นข้างหน้าก็จะมีปัญหาเกิดในรูปแบบเดิม เนื่องจากสาเหตุที่ทำให้เกิดปัญหาการยุบสภาฯ คือ ประชาชนไม่ยอมรับพฤติกรรมทางการเมือง โดยเฉพาะการทุจริต คอร์รัปชัน

ในทำนองเดียวกัน รัฐบาลพรรคเพื่อไทยภายใต้การนำของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร ที่มีอดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร คอยชี้นำไม่เป็นที่ยอมรับของประชาชนส่วนใหญ่ และแถมยังมีปัญหาทางด้านกฎหมายกลายเป็นจำเลยสังคม

ดังนั้น ถ้าข่าวการยุบสภาฯ เป็นเรื่องแปลกและสวนทางกับเงื่อนไขการยุบสภาฯ ที่พรรคการเมืองในประเทศที่ประชาธิปไตยเจริญก้าวหน้าแล้วทำกัน ทั้งนี้อนุมานจากเหตุปัจจัยดังต่อไปนี้

1. โดยปกติผู้นำรัฐบาลจะยุบสภาฯ ก็ต่อเมื่อรัฐบาลมีความขัดแย้งกับฝ่ายนิติบัญญัติ และเป็นเหตุให้เกิดอุปสรรคในการออกกฎหมายเพื่อผลักดันโครงการอันจะก่อให้เกิดประโยชน์แก่ประเทศและประชาชนโดยรวม ทั้งนี้เชื่อว่า ถ้ามีการเลือกตั้งใหม่ประชาชนจะให้การสนับสนุน ทำให้ฝ่ายรัฐบาลได้รับชัยชนะได้เสียง สส.เพิ่มขึ้น

แต่รัฐบาลพรรคเพื่อไทยที่มีนางสาวแพทองธาร ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี และมีอดีตนายกฯ ทักษิณ คอยชี้นำครอบงำการทำงานอยู่ในขณะนี้ อยู่ในภาวะตกต่ำทางการเมืองและเผชิญกับปัญหาทั้งทางสังคมและกฎหมาย ประกอบกับข้อขัดแย้งกับฝ่ายนิติบัญญัติเป็นเรื่องที่ประชาชนไม่ได้ประโยชน์ และแถมไปบ่อนทำลายความมั่นคง เฉกเช่น พ.ร.บ.จัดระเบียบกระทรวงกลาโหม จึงไม่เอื้อให้การเลือกตั้งหลังการยุบสภาฯ จึงน่าจะเป็นผลเสียทางการเมืองต่อรัฐบาลมากกว่าเป็นผลดี

2. ถึงแม้จะมีการยุบสภาฯ ก็ใช่ว่าจะทำให้คดีความที่พรรคเพื่อไทยและนายกรัฐมนตรี รวมถึงอดีตนายกฯ ทักษิณ รอดพ้นจากการถูกฟ้องร้องเนื่องจากคดีความก็ดำเนินต่อไปจนถึงที่สุด ส่วนจะผิดหรือถูกขึ้นอยู่กับพยานหลักฐาน

ดังนั้น การยุบสภาฯ ถ้าเกิดขึ้นจริงก็เท่ากับการฆ่าตัวตายทางการเมือง พรรคเพื่อไทยไม่ได้ประโยชน์อันใด พรรคที่ได้ประโยชน์ก็คือพรรคที่คัดค้านไม่เห็นด้วยกับการออก พ.ร.บ.จัดระเบียบกระทรวงกลาโหมนั่นเอง
ด้วยเหตุนี้ จึงอนุมานได้ว่าข่าวการยุบสภาฯ น่าจะเป็นเพียงการปล่อยข่าวเพื่อขู่พรรคร่วมรัฐบาลเท่านั้นเอง
ส่วนว่าการยุบสภาฯ จะเกิดขึ้นเมื่อใด และยุบแล้วจะเกิดอะไรตามมา?

ถ้าการยุบสภาฯ จะเกิดขึ้นจริงและจะเกิดขึ้นเมื่อใดนั้น คาดการณ์โดยอาศัยปัจจัยแวดล้อมทางการเมือง และอาศัยวิชาโหราศาสตร์

ถ้าปัจจัยแวดล้อมทางการเมืองโดยเฉพาะพฤติกรรมองค์กรของพรรคเพื่อไทย จะเห็นได้ว่าพรรคเพื่อไทยยังลังเลไม่กล้าเดินหน้าเต็มตัว ไม่ว่าจะเป็นการออก พ.ร.บ.จัดระเบียบกระทรวงกลาโหม การตั้งประธานบอร์ดธนาคารแห่งประเทศไทย และการเจรจาผลประโยชน์ในพื้นที่ทับซ้อน

แต่ถ้าดูจากพฤติกรรมของอดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร ในการปราศรัยหาเสียงช่วยผู้สมัครนายก อบจ. และการออกมาไล่พรรคร่วมรัฐบาล ดูเหมือนจะมีความมั่นใจในอนาคตทางการเมืองของพรรคเพื่อไทยว่า จะได้รับเลือกตั้งเพิ่มขึ้น

ดังนั้น จึงทำให้คาดการณ์ได้ยากว่าจะยุบหรือไม่ยุบ และถ้ายุบจะยุบเมื่อใด

แต่ถ้าดูโดยอาศัยโหราศาสตร์การยุบสภาฯ ถ้าจะเกิดขึ้นต้องพฤษภาคม 68 ไปแล้ว

ก่อนพฤษภาคม 68 เกิดขึ้นได้ยาก เพราะจากนี้ไปถึงพฤษภาคม 68 พรรคเพื่อไทยไม่อยู่ในฐานะได้เปรียบทางการเมือง


กำลังโหลดความคิดเห็น