“สอดแนมการเมือง”
“ชัชวาลย์ ชาติสุทธิชัย”
บทความ “วาทะคำคม” ของ “สีฯ” วันนี้ ขอเริ่มด้วย “หลักการสำคัญยิ่ง” ซึ่ง “มนุษย์ดี” พึงยึดและพึงกระทำ นั่นคือ..
“หนึ่งใจทำให้บ้านเมืองล่มสลายได้ หนึ่งใจทำให้บ้านเมืองรุ่งเรืองได้ เพียงแค่ระหว่างส่วนรวมกับส่วนตัวเท่านั้น”
จริงครับ! เรื่องที่ “สีฯ” พูดนั้น ขึ้นอยู่กับเป็น “คนดี” หรือ “คนชั่ว” ถ้าขึ้นชื่อว่า “ทักกี้” ชาวไทยรู้กันทั่วแล้วว่า เป็นมหาเศรษฐี “อดีตนายกฯ” ที่มีอำนาจล้นฟ้า แต่สันดาน “รวยแล้วยังโกงชาติมิรู้จักพอ” ว่ะ!
“สีฯ” ได้เปรียบเรื่องความซื่อสัตย์ว่า “ความซื่อสัตย์ภักดีของคนนั้น เปรียบเสมือนปลาที่มีน้ำ”
“จีน” ที่ปกครองโดย “พรรคคอมมิวนิสต์จีน” นั้น “สีฯ” ได้กล่าวว่า “การซื่อสัตย์ต่อพรรคมิใช่แค่ลมปาก หรือแค่คำพูดในที่ประชุม หากควรตรงกันทั้งภายในภายนอก ความรู้กับการปฏิบัติเป็นหนึ่งเดียว และเสมอต้นเสมอปลาย นี่คือการยึดมั่นในอุดมการณ์ ถ้าอุดมการณ์ไม่แข็งแกร่งพอ เมื่อพบกับลมฝนย่อมสั่นคลอน”
อืม.. อุดมการณ์ของชาว “พรรคคอมมิวนิสต์จีน” ต้องยึด “ชาติ” กับ “ประชาชน” เป็นสิ่งสำคัญที่สุด แต่นั่นคือ “สมาชิกพรรค” ในชาติจีนของ “สีฯ” นะว้อย ต่างกันกับ “พรรคการเมือง” ในชาติไทยราวฟ้ากับเหว.. เพราะ “พรรคการเมืองไทย” ยึดหลัก “เจ้าของ” กับ “นายทุนพรรค” เป็นหลักว่ะ..
และมักใช้ “นักการเมือง” กับ “ข้าราชการ” รวมหัวกัน “โกงชาติ” กับ “โกงประชาชน” เป็นหลัก ถ้า “สีฯ” ปกครอง “ชาติไทย” คงได้สั่ง “ยิงเป้า” พวก “โกงชาติ” จนเพชฌฆาตมือหงิกเลยล่ะ!!!
เพราะ “สีฯ” ยึดหลักการว่า “ประเทศมีเสาหลักสี่ต้น คือ จารีต คุณธรรม โปร่งใส ละอายต่อความชั่ว หากเสาหลักสี่ต้นนี้มิจรรโลง ประเทศย่อมล่มสลาย”
อีกทั้ง “สีฯ” ยังยึดหลักว่า “มิมีภัยใดใหญ่เกินกว่าความไม่รู้จักพอ มิมีความผิดใดเกินกว่าความกระหายใคร่อยาก”
อืม..มิน่าเล่า.. “สีฯ” ถึงปราบ “คนโกงชาติ” ทั้งระดับ “เล็ก” และ “ใหญ่” อุตลุด..โกงชาติแล้วหลบหนีไปอยู่ต่างประเทศก็จับกลับมาลงโทษในจีน
ทว่า.. ใน “ชาติไทย” นั้น “อดีตนายกฯ ษิณ”ก็ “โคตรโกงชาติ” แถมบงการ “นายกฯ ผู้น้องสาว”ให้ “โกงชาติ” ด้วย
เฮ้อ!...คิดๆ แล้ว.. “ชาวไทยโคตรเหนื่อย” เลยว่ะ “รัฐบาลเครือข่ายษิณ” โกงชาติจนเป็น “สันดาน” ไปแล้ว.. มันน่าอับอาย “ชาวโลก” ยิ่งนัก!!!
ชาวจีนมองเรื่องโกงมโหฬารในไทยแล้ว คงนึกถึงคำพูดนี้ของ “สีฯ” นั่นคือ
“ประเทศชาติรุ่งเรืองเพราะได้คนที่มีความสามารถ ประเทศชาติล่มสลายเพราะสูญเสียคนที่มีความสามารถ ได้คนมีความสามารถกับสูญเสียคนที่มีความสามารถ สาเหตุมิใช่วันเดียว หากเป็นสาเหตุที่ค่อยๆ เป็นไป”
“ผู้นำจีน” ย้ำต่อว่า “ความสำคัญของการปกครอง ไม่มีใดเกินการใช้คน”
อ๊ะ!..อ๊ะ!..“สีฯ” กำลังช่วยด่า “ษิณ” เหรอเนี่ย? “ษิณ” ไม่เคยให้ความสำคัญเรื่องการปกครองเลย
ก็ดูสิ.. ทั้งๆ ที่รู้อยู่แก่ใจว่า ลูกสาวด้อยทั้ง IQ กับ EQ ยังทู่ซี้ตั้งให้เป็นนายกฯ เพื่อตนจะได้กอบโกยผลประโยชน์..เฮ้อ!.. ชาติกับประชาชนไทยอิ๊บอ๋ายแน่ๆ!
“สีฯ” ยังขยายความต่อว่า “ไม่รู้ข้อบกพร่องของคน ไม่รู้ความเชี่ยวชาญของคน ไม่รู้ข้อบกพร่องในความเชี่ยวชาญของคน ไม่รู้ความเชี่ยวชาญในความบกพร่องของคน ผู้นั้นมิอาจใช้คนได้ และมิอาจสั่งสอนผู้อื่นได้”
“สีฯ” ยังระบุถึงความเข้าใจในการใช้สิ่งที่เหมาะสมเช่น “อาชาไนยสามารถฝ่าอันตราย แต่ไถนามิสู้โค รถใหญ่บรรทุกน้ำหนักได้ แต่ข้ามน้ำมิสู้เรือ”
อืม.. นั่นคือสิ่งที่ “สีฯ” และ “ผู้นำชาติที่ดี” ทุกคนรู้ แต่ “อดีตนายกฯ ษิณ” แกล้งไม่รู้ เพราะมุ่งจะใช้ “นักการเมืองชั่ว” กับ “ข้าราชการชั่ว” สุมหัวกัน “โกงชาติมิรู้จักพอ” นั่นเอง!!!
“ทะเลกว้างสุดหยั่งไร้ฟากฝั่ง นาวาแล่นตามลมสู่จุดหมาย ฝ่าเมฆเขาดุจเข้ามาเยี่ยมกราย พฤกษารายจากบ้านเกิดสู่นาวา คลื่นสงบแลไปสุดเวหน ตาได้ยลหาดทรายอยู่ลิบเวหา จากสหายเมื่อไรจึงได้พบพา นัยนามองตะวันรุ่งอรุณ”
“สีฯ” ยกกวีสมัย “ราชวงศ์ถัง” เรื่องการเดินทางต้องมี “จุดหมาย” ที่ต้องทำเพื่อ “ชาติ” และ “ประชาชน”
“สีฯ” มิได้มีแนวคิดที่สุดโต่ง “หากใช้น้ำไปเพิ่มรสน้ำ ผู้ใดจะดื่มได้ หากพิณหรือเครื่องสายใดดีดได้เสียงเดียว ผู้ใดจะยอมฟัง” เพราะมันไม่เป็นเพลง!
และ.. “สรรพสิ่งต่างก่อเกิดโดยไม่ทำลายกัน มรรควิถีดำเนินพร้อมกันก็มิได้ขัดกัน” เพราะ “สรรพสิ่ง”มั กเอื้อกันและกันเสมอ..จริงไหม?
“สีฯ” ยกปรัชญาต่ออีกว่า “ขุนเขาสะสมดินจึงสูงตระหง่าน แม่น้ำสะสมหยาดหยดจึงยาวไกล” คำที่ “สีฯ” อ้างนี้เป็นขอ ง“ปราชญ์จีนโบราณ” ที่ถูกจารึกไว้บนศิลา..
เฮ้อ..“ความหมาย” ของเรื่องที่ “ผู้นำจีน” นำเสนอนี้ มันยากเกินกว่าที่ “สมองฟันน้ำนม-นายกฯหุ่นเชิดผู้ลูกสาว” จะเข้าใจว่ะ!
เพราะหลายเรื่องที่ “ษิณ” กับ “นายกฯ หุ่นเชิด” ทำไม่ได้ นั่นคือ “ผู้ออกกฎห้ามที่ดี ต้องห้ามตนเองก่อนค่อยห้ามผู้อื่น”
“สีฯ” เน้นที่ “ยุติธรรมก่อเกิดความโปร่งใส สุจริตก่อเกิดบารมี”
อีกทั้งย้ำต่อว่า “มัธยัสถ์ย่อมประหยัด รู้จักประหยัดจึงเกิดความดีมากมาย ฟุ่มเฟือยย่อมสุรุ่ยสุร่าย เรื่องเลวร้ายทั้งปวงจะตามมา”
โอ๊ย!..ให้ตายเถอะ! สำหรับ “พ่อลูกคู่นี้” คนหนึ่ง “โกงจนชิน” เป็นสันดาน ส่วนอีกคน “ใช้เงินมือเติบจนชิน” !!!
“ษิณ” ลุ่มหลงใน “อำนาจ-เงินทอง” จึง “โกงชาติไม่รู้จักพอ”! ส่วน “ผู้ลูกสาว” คาบช้อนเงินช้อนทองมาตั้งแต่เกิด จึงฟุ่มเฟือยฟุ้งเฟ้อมาแต่ไหนแต่ไร!
“จุดเริ่มต้นของความฟุ้งเฟ้อฟุ่มเฟือย เป็นที่มาของความล่มสลาย” ดังนั้น “สีฯ” จึงยกกฎแห่ง “ธรรมชาติ” มาให้เห็นเป็นรูปธรรม นั่นคือ “สิ่งใดๆ ก็ตาม ต้องเน่าเหม็นก่อน จากนั้นจึงเกิดหนอน”
เอ้อ!..อายุ “ษิณ” ก็ “ใกล้ฝั่ง” จวนเจียน “ลงโลง” เข้าไปทุกวัน ดังนั้นย่อมเข้าใจกฎ “เกิด-แก่-เจ็บ-ตาย” ให้ “หนอนแทะ” อย่างดี.. บรรดา “เงินทองทรัพย์สินมหาศาล” ที่มี ให้ “ผู้ลูก” ผลาญต่อไป ถ้า “ผู้ลูก” บริหารทรัพย์สิน “ผิดพลาดเสียหาย” ก็แค่ “ชินเจ๊ง”..
แต่การดันให้ “ผู้ลูก” เป็น “นายกฯ หุ่นเชิด”ด้อยคุณภาพ ขึ้นมา “บริหารชาติ” ถ้าเกิด “ผิดพลาด” ชาติ-ประชาชน “อิ๊บอ๋าย” นะโว้ย “ษิณ”!!!
เรื่องแบบนี้ “สีฯ” ได้เตือนอย่างจริงจัง โดยระบุว่า “ระงับจุดเล็กไม่ให้ก่อเกิดนั้นง่าย กอบกู้ที่ปลายเหตุนั้นยาก”
ใน “ชาติไทย” “อดีตนายกฯ ษิณโกงชาติ” ขอกลับไทย-ขอรับผิด-ขออภัยโทษ โดย “ในหลวงรัชกาลที่ 10” ทรงพระเมตตา “ลดโทษ 8 ปี” เหลือ “1 ปี”
แต่ “ษิณ” บังอาจทำลายพระเกียรติ “ในหลวงรัชกาลที่ 10”! ไม่ยอม “ติดคุกแม้แต่วันเดียว”!!!???
มั่นใจว่า.. สำหรับ “สีฯ” เขาจะไม่ปล่อยเรื่องเช่นนี้ให้ผ่านไปง่ายๆ แน่นอน เพราะ “เภทภัยมันเกิดจากการละเลยในเรื่องเล็กน้อย ส่วนผู้ทรงปัญญาและความกล้าหาญ มักผิดพลาดในสิ่งที่ลุ่มหลง”
ดังนั้น “สีฯ” จึงประกาศจุดยืนแน่วแน่ว่า “ประเทศมิได้แข็งแกร่งเสมอไป และมิได้อ่อนแอเสมอไป เชิดชูกฎหมายอย่างแข็งขัน ประเทศจะแข็งแกร่ง พวกหย่อนยานต่อกฎหมาย ประเทศจะอ่อนแอ”
“สีฯ-ผู้นำจีน” ยังย้ำเตือนอีกว่า “การบัญญัติกฎหมายที่ดีมาใช้กับใต้ฟ้า ใต้ฟ้าย่อมสุขสงบ การบัญญัติกฎหมายที่ดีมาใช้กับประเทศ ประเทศย่อมสุขสงบ”
“สีฯ” ตอกย้ำอีกว่า “ใดๆ ในใต้หล้า ที่ยาก มิใช่การบัญญัติกฎหมาย หากความยากอยู่ที่การปฏิบัติตามกฎหมาย”
เป็นความจริงล้านเปอร์เซ็นต์เลยครับ! กฎหมายจะศักดิ์สิทธิ์ เมื่อมีการปฏิบัติอย่างจริงจัง.. จึงเป็นข่าวรับรู้กันทั่วโลกว่า “สีฯ” จับและลงโทษ “คนโกงชาติ” อย่างเฉียบขาด!
แต่ที่เมืองไทย “คำสั่งศาลด้อยค่า” เพราะ “ทักษิณ คนโกงชาติ” ไม่ต้องติดคุกสักวันเดียว!!!
น่าสลดใจ.. ที่ “ษิณ” มีอำนาจใหญ่เหนือใครใต้หล้าฟ้าไทย “ษิณ”ใหญ่กว่า “คำพิพากษาศาล”! “ษิณ” ใหญ่กว่ากฎหมาย!! “ษิณ” ใหญ่กว่าพระบรมราชโองการ!!!