รัฐบาลเลวประชาชนไล่ : เหตุให้เกิดรัฐประหาร

 “น้ำทำให้เรือลอยได้ แต่น้ำก็ทำให้เรือจมได้เช่นกัน”
ถ้อยคำอันเป็นสุภาษิตในเชิงเปรียบทางการเมืองระหว่างพรรคการเมืองกับประชาชน โดยเปรียบประชาชนเป็นน้ำและพรรคการเมืองเป็นเรือ

เรือจะลอยได้ต้องมีน้ำหนุนอยู่ด้านลงและน้ำที่ทำเรือลอยก็จะทำให้เรือจมได้ ถ้าเรือรั่วและน้ำไหลเข้าเรือ
ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ได้นำสุภาษิตนี้มาอ้างเมื่อพูดถึงการดำเนินกิจกรรมทางการเมืองของพรรคคอมมิวนิสต์จีน

วันนี้พรรคเพื่อไทยซึ่งเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล โดยมีนางสาวแพทองธาร ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี
พรรคเพื่อไทยได้รับเลือกตั้งเข้ามาเป็นอันดับสองรองจากพรรคก้าวไกล แต่พรรคก้าวไกลซึ่งได้รับเลือกตั้งเข้ามาเป็นอันดับหนึ่ง แต่ไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้เนื่องจากเสนอนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกฯ แล้วไม่ผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภา โอกาสในการเป็นรัฐบาลจึงตกมาเป็นของพรรคเพื่อไทย โดยเสนอนายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกรัฐมนตรี และได้รับความเห็นชอบจากรัฐสภา จึงเป็นอันว่าเพื่อไทยได้อำนาจรัฐไปครอง

แต่เส้นทางการเมืองของพรรคเพื่อไทยมิได้ราบรื่นอย่างที่ทุกคนในพรรคเพื่อไทยคิด ตรงกันข้ามเส้นทางการเมืองของพรรคเพื่อไทยเต็มไปด้วยขวากหนามทุกวันเวลาที่ผ่านไปเกิดอุปสรรคและปัญหาให้แก้ไขทั้งในส่วนของพรรคและบุคลากรของพรรค โดยเฉพาะอดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร ซึ่งเป็นนายทุนของพรรคและคอยชี้นำพรรค

ดังนั้น เศรษฐา ทวีสิน ผู้ซึ่งมิได้เป็น สส.ทั้งมิได้เป็นหัวหน้าพรรค และไม่มีต้นทุนทางการเมืองใดจึงทำงานในตำแหน่งผู้นำรัฐบาลได้ยาก และในที่สุดก็ต้องพ้นจากตำแหน่งไป ด้วยคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญจากกรณีแต่งตั้งนายพิชิต ชื่นบาน เป็นรัฐมนตรี เนื่องจากนายพิชิต ชื่นบาน เคยต้องโทษจำคุกจึงขาดคุณสมบัติของบุคคลที่จะเป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง

เมื่อนายเศรษฐา มีอันต้องจากไป นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ทายาททางสายเลือดของอดีตนายกฯ ทักษิณ ก็ได้เข้าเป็นทายาททางการเมืองสืบทอดเจตนารมณ์ทางการเมืองของพรรคเพื่อไทย

แต่ด้วยความไม่พร้อมที่จะเป็นผู้นำรัฐบาล เนื่องจากไม่มีความรู้ ความสามารถและขาดประสบการณ์ในทางการเมือง จึงไม่ได้รับการยอมรับทั้งจากประชาชน และในแวดวงการเมืองยกเว้น สส.ในพรรคเพื่อไทย ซึ่งจำใจต้องยอมรับในฐานะหัวหน้าพรรคและเป็นทายาทของนายทุน

ดังนั้น เมื่อได้เป็นนายกฯ จึงเป็นเสมือนหุ่นที่มีคนคอยเชิดอยู่ข้างหลัง จะเห็นได้จากการแถลงข่าวหรือแม้แต่พูดในที่ประชุมก็ต้องนั่งอ่าน และในการตอบคำถามแทบทุกครั้ง จะต้องมีเรื่องให้ถูกวิพากษ์วิจารณ์บ่อยๆ ว่าตอบไม่ตรงคำถาม

นอกจากมีข้อด้อยในการเป็นผู้นำแล้ว ยังมีข้อด้อยในการทำงานในตำแหน่งผู้นำ จะเห็นได้จากเหตุปัจจัยดังต่อไปนี้

1. ในการปราศรัยหาเสียงเลือกตั้ง นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ในฐานะหัวหน้าพรรคได้พูดชัดเจนว่าจะลดค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าก๊าซทันทีที่ได้เป็นรัฐบาล แต่ครั้นได้เป็นค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าก๊าซยังคงเดิม

2. นอกจากไม่ทำในเรื่องปากท้องอันเป็นปัญหาความเดือดร้อนของคนยากคนจนแล้ว ยังเร่งทำเรื่องไกลตัวและสวนทางกับคนส่วนใหญ่ของประเทศเช่น การเจรจาแบ่งผลประโยชน์ในพื้นที่ทับซ้อนกับเขมร การเสนอแก้ไข พ.ร.บ.กระทรวงกลาโหม การตั้งบ่อนกาสิโน เป็นต้น

3. การเพิกเฉยต่อการแก้ปัญหาที่ดินเขากระโดง และสนามกอล์ฟอัลไพน์ที่ศาลตัดสินแล้วให้เป็นไปตามคำตัดสินของศาล

จากพฤติกรรมส่วนตัวและการทำงานที่สวนทางกับความต้องการของประชาชนของผู้นำรัฐบาลนี้เอง ทำให้ประชาชนไม่พอใจและส่อเค้าว่าจะมีการชุมนุมขับไล่ ถ้ามีการชุมนุมขับไล่เมื่อใดก็อนุมานได้ว่ามีโอกาสเกิดการทำรัฐประหารตามมาแน่นอน