“ตะวันแดง” สาดแสง “แดนมังกร” (ตอนห้า)

“สอดแนมการเมือง”
“ชัชวาลย์ ชาติสุทธิชัย”

หลายบทความ “คำคมวาทะ” ของ “สี จิ้นผิง” ที่นำเสนอไปแล้ว เน้นหนักเรื่องนโยบายต่างประเทศเป็นหลัก จากนี้ไปจะนำเสนอ “คำคมวาทะ” ของ “ผู้นำมังกรจีน” เน้นด้านแนวคิดการบริหารจัดการ “ดินแดนจีน”.. ซึ่งดันมาสอดคล้องเกี่ยวโยงกับ “ทักษิณ” ด้วยสิ!...

ชัยชนะ “การปฏิวัติจีน” ภายใต้การนำของ “เหมา เจ๋อตุง” และการสืบทอดอุดมการณ์ของเหล่า “ผู้นำชาติจีน” รุ่นต่อๆ มา ล้วนมี “ความสำคัญ” ทั้งสิ้น

เพราะได้ “สานต่อ-สืบทอด-พัฒนา” แนวทาง “สังคมนิยม” ที่ทันสมัยอย่างชาญฉลาด ทำให้ชาติจีนที่เคย “ป่วยหนักอาการร่อแร่” ทั้งยากจนและล้าหลัง ได้วิวัฒนาการอย่างรวดเร็ว ภายในเวลาไม่กี่สิบปี จีนได้เปลี่ยนตัวเองกลายเป็น “มังกรจีน” ที่กำลังผงาดขึ้นเป็น “ชาติอันดับหนึ่งของโลก” ทางด้านเศรษฐกิจ

โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านเทคโนโลยี หลายมิติของจีน “ทันสมัยล้ำหน้า” เหนือ “มะกัน” และ “กลุ่มชาติยุโรป” ไปแล้ว!

วันนี้! “มังกรจีน” ที่เคยอ่อนแอปวกเปียก แปรเปลี่ยนเป็น “แข็งแกร่ง” กลายเป็น “เจ้าหนี้อันดับหนึ่ง” ของ “อินทรีมะกัน” จึงสร้างความหวั่นไหวให้ “มะกัน” ถึงกับประกาศให้ “ชาติจีน” เป็น “ศัตรูอันดับหนึ่ง” อย่างเปิดเผย
วันนี้! “จีน” มีประชากรมากถึง “1,400 ล้านคน”! มีประธานาธิบดี “สี จิ้นผิง” เป็น “ผู้นำชาติ”!
“สี จิ้นผิง” เป็น “พญามังกร” เปี่ยมความสามารถทั้ง “บู๊” และ “บุ๋น” อีกทั้ง “สีฯ” ยังผ่านประสบการณ์ชีวิตมาหลากหลายรูปแบบ แนวคิด “สีฯ” จึงน่าศึกษายิ่งนัก เรามาอ่าน “คำคมวาทะสีฯ” กันดีกว่า

“คำนึงผลประโยชน์ พึงเป็นผลประโยชน์ของโลกหล้า แสวงหาชื่อเสียง พึงเป็นชื่อเสียงชั่วนิรันดร์”

วาทะ “หลักคิด-หลักปฏิบัติ” นี้.. ต้อง “ยกนิ้วโป้งสองนิ้ว” ให้เลยครับ..!!
“นักการเมืองที่ดี” ต้องเป็น “ผู้นำ” ที่ “รักชาติ-รักประชาชน” ด้วยใจจริง “สีฯ” จึงมักกล่าวกับ “ข้าราชการ” ทุกหน่วยงานที่ไปเยือนว่า “ถ้าในใจไม่มีประชาชน ก็อย่าเป็นข้าราชการจะดีกว่า”
ทั้งนี้เพราะเป้าหมายของ “สีฯ” คือ “ขอเพียงราษฎร์อิ่มท้องและอุ่นกาย มิเสียดายจากพนามาตรากตรำ”

“สีฯ” ย้ำเตือนอยู่เสมอว่า “การเป็นข้าราชการในที่ใด ก็ต้องทำให้ประชาชนในที่นั้นมีความสุข มีอำนาจรัฐอยู่ในมือ ก็ต้องทำงานเพื่อประชาชน มิฉะนั้น หากทำอะไรไม่ได้สักอย่าง จะเลือกคุณมาทำไม อะไรก็ไม่ทำ แล้วจะเอาไว้ทำไม? ความเป็นอยู่ของประชาชนมิใช่เรื่องนามธรรมล่องลอย หากแต่ควรทำให้เป็นจริง ให้ประชาชนได้ประโยชน์อย่างแท้จริง นี่เป็นบททดสอบความรับผิดชอบของเจ้าหน้าที่ระดับบริหาร”
“สีฯ” มักใช้ทั้ง “พระเดช” ลงโทษ “ข้าราชการเลว” และใช้ “พระคุณ”สนองต่อ “ข้าราชการดี”!

ทว่า! ใน “ชาติไทย” เหตุการณ์กลับตรงกันข้าม! ตั้งแต่อดีตจวบจนปัจจุบัน “นักการเมืองชั่ว” มักสุมหัว “ข้าราชการชั่ว” ช่วยกันโกงชาติบ้านเมืองว่ะ!

คำปราศรัยในงานฉลองครบรอบ 65 ปี “การประสานงานการเมืองประชาชนจีน” “สีฯ” ได้กล่าวย้ำถึงความ “รักชาติ-รักประชาชน” ว่า..

“หัวใจของการปกครองอยู่ที่ทำให้ราษฎรเป็นสุข วิถีแห่งการทำให้ราษฎรเป็นสุข อยู่ที่การเฝ้าสังเกตความทุกข์ร้อนของพวกเขา” และ..

“การปกครองจักรุ่งเรือง เมื่อคล้อยตามจิตใจราษฎร การปกครองจักเสื่อมโทรม เมื่อสวนทางจิตใจราษฎร”

วาทะทั้งสองของ “สีฯ” ผู้นำมังกรจีนคนปัจจุบันนี้ ไร้แนวคิดแบบบรรดาผู้นำ “ชาติทุนนิยมสามานย์” ทั้ง “ผู้นำอินทรีมะกัน” และ “ผู้นำกลุ่มชาติยุโรป” รวมถึงมหาเศรษฐี “อดีตนายกฯ ไทย” ซึ่ง “รวยแล้วยังโคตรโกงชาติ” อย่าง “ทักษิณ” ด้วย!

“อดีตนายกฯ ไทย” ที่ไม่เคย “รักชาติ-รักประชาชน” ผู้ทำทุกวิถีทางมุ่งกอบโกยผลประโยชน์เข้าตัวและพวกพ้อง ถึงกับตั้ง “นายกฯ ฟันน้ำนม” ที่ “สมองด้อยคุณภาพ” ซึ่งนับวัน “นายกฯ ไทยผู้ไร้คุณภาพ” มักทำเรื่อง “ไม่ถูกกาละเทศะ” นำ “ความอับอาย” และ “ความเสียหาย” มาสู่ “ชาติไทย” กับ “ประชาชนไทย” อย่างต่อเนื่อง!!!
“ความรักประชาชน” ของ “สีฯ” นั้น “ถูกต้องอย่างยิ่ง” “สีฯ” จึงระบุว่า “มิมีธรรมใดสูงกว่าการรักประชาชน มิมีความเลวใดทรามกว่าการทำร้ายราษฎร”

“สีฯ” กล่าวจากใจจริงว่า “ขจัดความทุกข์ร้อนของราษฎร ดุจดังขจัดโรคร้ายของตนเอง”

“สีฯ” ยังย้ำต่ออีกว่า “การใดเป็นผลดีต่อราษฎร แม้จะเล็กน้อย ยังพึงกระทำ การใดเป็นผลร้ายต่อราษฎร แม้เล็กน้อยก็มิพึงกระทำ”

โอ..แนวคิดดีงามเช่น “สีฯ” นี้ “รัฐทุนสามานย์ทักษิณ” ไม่เคยคิดและ “ไม่เคยทำ” แม้แต่น้อย!

ความยากจนและความเหลื่อมล้ำจึงท่วมสังคมไทย จนแก้ไขไม่ได้ มีแต่ทวียิ่งขึ้น!

ครานี้มาดูแนวคิด“สีฯ”ด้านการปกครองหน่อยดีไหม?

“สีฯ” ได้ระบุไว้ว่า “การเมืองคือความเที่ยงธรรม หากปฏิบัติตนได้เที่ยงธรรม ไม่ต้องสั่งการนั้นก็ดำเนินได้เอง หากตนเองไร้ซึ่งความเที่ยงธรรม แม้จะสั่งการก็ไม่มีใครยอมรับ”

ผลของเรื่อง “ความเที่ยงธรรม” ในชาติจีน เป็นที่ทราบกันทั่วว่า “สหประชาชาติ” ยอมรับว่า “จีนแก้ปัญหาความยากจนได้จริง”
น่าอนาถใจ ที่คนไทยไม่อาจหา “ความเที่ยงธรรม” ได้จาก “สังคมทุนสามานย์ไทย” ดังนั้นความยากจน ความเหลื่อมล้ำในไทยจึงรุนแรงเพิ่มขึ้น.. ทักษิณ.. รู้บ้างไหม(วะ)?

“สีฯ” ยังเตือนถึง “ภัยใหญ่หลวงที่สุดของแผ่นดิน และมิบังควรที่สุด คือการได้ชื่อว่า บ้านเมืองสงบสุขดีปราศจากเรื่องราว แต่ความจริงแล้วยังมีภัยที่คาดไม่ถึงแฝงอยู่ เอาแต่นั่งดูความเปลี่ยนแปลงของภัย โดยมินำพา ถ้าเป็นเช่นนั้นเกรงว่า ในที่สุดก็คงเยียวยาไม่ได้”

ข้อความนี้ “สีฯ” เตือนถึง “เภทภัยอันมิบังควร” ในบ้านเมืองที่สงบสุขของจีนและในโลก ที่ภาพรวมส่วนใหญ่สงบสุข แต่ในทางเป็นจริงกลับมีภัยร้ายแอบแฝงชนิดไม่คาดคิด ถ้าเรามัวแต่นิ่งเฉยโดยไม่จัดการ

“สีฯ” จึงสรุปว่า “สุดท้ายแล้วยากจะเยียวยา หากสิ่งมิบังควรยังคงฝืนทำกันอย่างแข็งขัน”

เอ๊ะ! คำพูดนั้น.. “สีฯ” เตือนชาวจีนและชาวโลก ดันมาตรงกับสถานการณ์ในชาติไทยเป๊ะเลย!

หลัง “ทักษิณ” กลับมาแสดงอำนาจใหญ่โต “คับฟ้าไทย” ตั้ง “นายกฯ ผู้ลูกสาว” เป็น “หุ่นเชิด” ที่ด้อยคุณภาพทั้ง IQ และ EQ “ภัยอันมิบังควรจึงขยายตัวร้ายแรงทวีขึ้นในแผ่นดินไทย”!!!

“สีฯ” กล่าวด้วยว่า “ปฏิบัติอย่างจริงจังบ้านเมืองย่อมสงบ เอาแต่วาทกรรมบ้านเมืองย่อมไม่สุขสงบ” โดย “สีฯ” ได้ตำหนิว่า “คุณประชุม ฉันประชุม ทุกคนต่างประชุม ทุกคนต่างร่ายวาทกรรม”

“สีฯ” พูดถึงคนพวกนี้ว่า “ทิ้งบทเรียน ดีแต่พูด แต่ทำบ้านเมืองล่มสลายไว้ในประวัติศาสตร์”

เอ๊ะ! นี่ “สีฯ” ด่าคนไทยบางคนนี่หว่า? ที่กล้าทำรัฐประหาร ประกาศจะปฏิรูปชาติ แต่สุดท้ายเป็นแค่คำพูดล่องลอยหายไปในสายลม..! “ผลงานปฏิรูป-ไม่เห็นสักเรื่องเลยว่ะบิ๊กตู่!”

“หากมองด้วยสายตาของใต้ฟ้า จะไม่มีสิ่งใดที่ไม่เห็น หากฟังด้วยโสตประสาทของใต้ฟ้า จะไม่มีสิ่งใดที่ไม่ได้ยิน หากใส่ใจครุ่นคิดถึงใต้ฟ้า จะไม่มีสิ่งใดที่ไม่รู้”

แล้วก็เป็นจริง! ตามที่ “สีฯ” กล่าวสรุปไว้ ในความสัมพันธ์ระหว่างผู้บริหารแผ่นดินกับประชาชน ในการประชุมกับประชาชนจีน “สีฯ” สัญญาว่า “ลำบากด้วยกัน ผ่านไปด้วยกัน ทำงานด้วยกัน”

โดย “สีฯ” ย้ำว่า.. การทำงานของเรา(รัฐบาลจีน) ล้วนเกี่ยวกับความเป็นอยู่ของประชาชนทุกครอบครัว น่าทึ่งแกมอิจฉา ที่“สีฯ”เปลี่ยนจีนได้ และน่าอับอายที่ “ชาติไทย” ในวันนี้ มีแต่เรื่อง “นายกฯตัวจริง” ที่ “โคตรโกง-โกงเงินชาติ-โกงอำนาจ-โกงคุก” เหิมเกริมลุอำนาจถึงกับตั้งและใช้ “นายกฯ ฟันน้ำนม” ที่ไม่ฟังเสียงประชาชนว่า “รัฐบาลต้องจัดการอะไรบ้าง เพื่อแก้ปัญหาความยากจน” เพราะ “นายกฯ สมองกลวง” ทำตามคำสั่ง “พ่อ” ที่ “คิดเอง-สั่งเอง-โกงเอง”.. ใช่ไหม “ษิณ”???!!!

ในสถานการณ์แบบนี้ “สีฯ” คงระลึกถึงคำเตือนของ “เติ้ง เสี่ยวผิง” ที่สั่งเสียไว้ว่า “ทำการแต่เนิ่นๆ บริหารก่อนจะวุ่นวาย”..นะเว้ย “สีฯ”!

นั่นคือ “มรดก” ที่ “เติ้ง” ทิ้งไว้ ว่าต้อง “ป้องกันเภทภัยตั้งแต่ยังไม่เกิด.. จัดการปัญหาต้อง“ชิงลงมือก่อน”!
เอ๊ะ!..แล้ว..ผู้มีอำนาจที่ดี “ตัวจริง” ในชาติไทย จะจัดการแก้ปัญหาใหญ่ของชาติเรื่อง “ษิณ” อย่างไรวะ??