โค้งสุดท้ายเลือกตั้ง “นายก อบจ.อุบลฯ” สุดเดือดงัดเกมใต้ดินโจมตีผู้สมัครสารพัด “กานต์” เบอร์ 1 เพื่อไทย โดนโยงคดีทุจริต ทั้งที่เป็นคนละสมัย ส่วน “มาดามกบ-จิตรวรรณ” โดนขยี้ปมพลัดถิ่น-โดน ป.ป.ช.ชี้มูล เจ้าตัวโวยวิชามารหวังตัดคะแนน แจงปากแฉะถูกกล่าวหาว่าร่วมทำผิดในฐานะเอกชน ยังปฏิบัติหน้าที่ได้หากได้รับเลือก
20 ธ.ค.67 - โค้งสุดท้ายการหาเสียงเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) อุบลราชธานี บรรยากาศยังคงเป็นไปด้วยความเข้มข้นดุเดือด ผู้สมัครทั้ง 3 รายต่างงัดกลยุทธ์ขึ้นมาต่อสู้กันแบบไม่มีใครยอมใคร ทั้งการลงพื้นที่จัดปราศรัยย่อยขอคะแนนเสียง ตลอดจนการใช้สื่อสังคมออนไลน์ในการประชาสัมพันธ์ ขณะเดียวกันกระแสข่าวว่ามีผู้สมัครบางราย เดินงานใต้ดินก็หนาหูเช่นกัน
ทั้งนี้การลงคะแนนเลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี จะมีขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 22 ธ.ค.67 มีผู้สมัครทั้งหมด 3 ราย ประกอบด้วย นายกานต์ กัลป์ตินันท์ หรือ “นายกฯกานต์” อดีตนายก อบจ. ผู้สมัครเบอร์ 1 จากพรรคเพื่อไทย, นายสิทธิพล เลาหะวนิช หรือ “รองฯน้อย” อดีตรองนายก อบจ. ผู้สมัครเบอร์ 2 จากพรรคประชาชน และ นางจิตรวรรณ หวังศุภกิจโกศล หรือ “มาดามกบ” ที่ปรึกษาพรรคไทรวมพลัง ที่ลงสมัครในนามอิสระ
โดยมีการคาดการณ์กันว่า การเลือกตั้งครั้งนี้จะเป็นการขับเคี่ยวกันระหว่าง นายกานต์ เจ้าของตำแหน่งเดิม กับนางจิตรวรรณ โดยมี นายสิทธิพล เป็นตัวสอดแทรก
รายงานข่าวแจ้งว่า ที่ผ่านมาได้มีข้อเรียกร้องไปถึงกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) อุบลราชธานี ถึงพฤติกรรมที่ส่อไปในทางซื้อเสียงจูงใจให้ลงคะแนนสนับสนุนผู้สมัครบางราย โดยบางพื้นที่มีอัตราซื้อเสียงมากสูงถึง 2,000 บาทต่อหัว ตลอดจนข้อร้องเรียนกรณีการปราศรัยให้ร้าย หรือทำให้เข้าใจผิดด้วย
ส่งผลให้ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา นางจิตรวรรณ ได้กล่าวปราศรัยในหลายเวทีโดยอ้างว่า มีขบวนการวิชามารกล่าวหาใส่ร้ายป้ายสีอย่างเลื่อนลอย ปราศจากข้อเท็จจริง เพื่อหวังให้เกิดความเสียหาย และทำลายคะแนนนิยม เช่นเดียวกับ นายกานต์ ที่ก็ถูกปล่อยข่าวโจมตีเช่นกัน
ทั้งนี้ในส่วนของ นายกานต์ นั้นถูกเชื่อมโยงกับกรณีการทุจริตของ อบจ.อุบลราชธานี แต่เมื่อตรวจสอบพบว่า เป็นกรณีที่เกิดขึ้นในยุคของนายก อบจ.คนเก่า ไม่ใช่ช่วงที่ นายกานต์ ดำรงตำแหน่งแต่อย่างใด
ขณะที่ นางจิตรวรรณ ถูกโจมตีใน 2 ประเด็นหลักคือ มีพื้นเพภูมิลำเนาเดิมมาจาก จ.นครราชสีมา ไม่ใช่คนท้องถิ่น จ.อุบลราชธานี กับกรณีที่ นางจิตรวรรณ ในฐานะกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอี่ยมบูรพา จำกัด เป็นหนึ่งในผู้ที่ถูก คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลความผิดในคดีที่ นายพจน์ งามจั่นศรี เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งรองนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) หนองน้ำใส จ.สระแก้ว กับพวก ถูกกล่าวหาว่า กระทำความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่หรือกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ กรณีลงลายมือชื่อในใบอนุญาตก่อสร้างอาคารโดยมิได้มีตำแหน่ง หรือหน้าที่นั้นในพฤติการณ์ที่อาจทำให้ผู้อื่นเชื่อว่ามีตำแหน่งหรือหน้าที่ และมีการนำใบอนุญาตก่อสร้างอาคารดังกล่าวไปใช้ประกอบการยื่นคำขอรับใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงาน
โดยกระแสข่าวที่ นางจิตรวรรณ มองว่า ทำให้เป็นการใส่ร้ายป้ายสีให้เสียหายนั้น เพราะมีการนำไปขยายความว่า หาก นางจิตรวรรณ ได้รับเลือกเป็นนายก อบจ.อุบลราชธานี แล้วอาจปฏิบัติหน้าที่ไม่ได้ เพราะถูก ป.ป.ช.ชี้มูลความผิด ซึ่ง นางจิตรวรรณ ได้ชี้แจงและยืนยันว่า หากได้รับเลือกเป็นนายก อบจ.อุบลราชธานี ก็ยังสามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ เนื่องจากในคดีดังกล่าวเป็นการกล่าวหา นางจิตรวรรณ ว่าร่วมกระทำความผิดในสถานะเป็นกรรมการบริษัทเอกชน ไม่ได้มีสถานะเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ดังนั้น นางจิตรวรรณ จะถูกหยุดปฏิบัติหน้าที่หรือไม่นั้นต้องรอไปถึงการพิจารณาในชั้นศาล
ผู้สื่ ข่าวรายงานว่า สำหรับการเลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี จะเป็นสนามสุดท้ายของประเทศที่นายก อบจ.ลาออกก่อนครบวาระ และต้องจัดให้มีการเลือกตั้งเพื่อทดแทนตำแหน่งเดิม โดยจังหวัดที่เหลือแม้จะมีนายก อบจ.ลาออกก่อนครบวาระ แต่ก็อยู่ในช่วงที่ไม่ต้องจัดการเลือกตั้งใหม่ และรอไปจัดเลือกตั้งพร้อนกันทั่วประเทศในวันที่ 1 ก.พ.68.