เมื่อทักษิณกลับมาใหญ่คับฟ้า จากความยินยอมของคนในประเทศนี้

หนึ่งความคิด
สุรวิชช์ วีรวรรณ 

วันนี้คนในสังคมเริ่มรับรู้กันแล้วว่า ประเทศของเรากำลังปกครองแบบธุรกิจครอบครัวหรือเป็นสมบัติของตระกูลชินวัตร ที่มีนายกรัฐมนตรีหุ่นเชิดมารับบทแสดงแทนพ่อ การสืบทอดตำแหน่งนายกรัฐมนตรีกลายเป็นผลประโยชน์ส่วนตัวของตระกูลชินวัตร โดยไม่ได้คำนึงว่า ประเทศชาติจะได้รับผลกระทบอย่างไรและประชาชนในประเทศนี้จะเผชิญกับชะตากรรมเช่นไร กับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีฝึกหัดที่รับมรดกตกทอดกันในครอบครัว

เพราะวันนี้ถ้าถามว่าใครที่เป็นนายกรัฐมนตรีตัวจริงหรือใครเป็นคนชักหุ่นอุ๊งอิ๊งค์ แพทองธาร ชินวัตร ที่รับบทแสดงเป็นนายกรัฐมนตรี เชื่อว่า ใครก็ต้องตอบว่า ทักษิณ

แน่นอนว่า คนที่หนีคุกไป 17 ปีแล้วกลับมาสารภาพว่าฉ้อฉลคดโกงชาติ กำลังมีบทบาทสำคัญในการเป็นผู้นำตัวจริงของประเทศเรา จากความไม่ประสีประสาและความด้อยสติปัญญาและความสามารถของลูกสาวที่แสดงบทบาทเป็นนายกรัฐมนตรี

ทักษิณคนที่ประกาศว่าอยากจะกลับบ้านมาเลี้ยงหลานจะวางมือทางการเมือง แท้จริงแล้วก็ไม่สามารถปล่อยวางได้จริงๆ เพราะทักษิณต้องการลบปมด้อยของเขาที่กลายเป็นนักโทษติดคุกเพราะคดโกงชาติ วันนี้ทักษิณพูดเหมือนกับว่า เวลา 17 ปีที่เขาหนีไปนั้น ไม่ใช่เพราะเขาหนีความผิด ที่สะท้อนถึงความไม่สำนึกต่อความผิดที่ตัวเองกระทำลงไป มีความพยายามบิดเบือนความจริงเพื่อสร้างความรู้สึกให้สังคมเข้าใจว่าสิ่งที่เขาทำไปในอดีตนั้นไม่ใช่ความผิด แต่ถูกคนอื่นกลั่นแกล้งและรังแก

เขาพูดถึง 17 ปีของเขาหายไปเหมือนถูกใครขโมยเอาไป เขาพูดว่า เขากลับประเทศมาแล้วเสียเวลาอยู่ 6 เดือนในโรงพยาบาลตำรวจ เหมือนเขาไม่ได้สำนึกต่อโทษทัณฑ์และความผิดของเขาจริงเหมือนกับตอนที่เขาขอพระราชทานอภัยโทษที่ประกาศความผิดและความสำนึกผิดของเขาไว้อย่างในชัดเจนในพระบรมราชโองการจนดูเหมือนสิ่งที่เขาสำนึกผิดเป็นเรื่องโกหกที่ปั้นแต่งขึ้นมาเพื่อให้ได้รับการอภัย

ทั้งๆ ที่ 17 ปีที่เขาหนีไปนั้นเป็นการหนีความผิดที่คดโกงชาติบ้านเมือง ด้วยการใช้อำนาจฉ้อฉลเชิงนโยบายเพื่อให้ตัวเองได้ประโยชน์จากธุรกิจที่ถือครองก่อนเข้ามารับตำแหน่ง แม้ว่า ก่อนหน้านั้นทักษิณจะร่ำรวยแล้วจนทำให้คนในประเทศเชื่อกันว่าทักษิณเป็นอัศวินคนใหม่ที่จะเข้ามากอบกู้ประเทศ เพราะรวยแล้วไม่โกง

นอกจากคดีที่ถูกตัดสินจำคุกแล้ว การพิจารณาคดียึดทรัพย์ของทักษิณนั้นมีคำพิพากษาที่สามารถอธิบายให้สังคมเข้าใจได้อย่างละเอียดยิบว่าทักษิณฉ้อฉลชาติอย่างไร โดยเฉพาะอย่างยิ่งคำพิพากษายึดทรัพย์ รวมทั้งสิ้น 46,373 ล้านบาท ให้ตกเป็นของแผ่นดิน โดยระบุเหตุผลอย่างชัดเจนว่าเป็นทรัพย์สินที่ได้มาโดยไม่สมควร สืบเนื่องมาจากการปฏิบัติหน้าที่ อันเป็นการร่ำรวยผิดปกติ การสร้างนโยบายเพื่อให้ธุรกิจของตัวเองได้ประโยชน์ และเป็นการกระทำที่ขัดกันระหว่างผลประโยชน์ส่วนบุคคลและประโยชน์ส่วนรวมอย่างไร

เพียงแต่ว่าถึงวันนี้ไม่มั่นใจว่า กระทรวงการคลังกรมบัญชีกลางที่มีหน้าที่ยึดทรัพย์ได้กระทำการตามคำพิพากษาของศาลหรือยัง ถ้าได้ทำแล้วช่วยชี้แจงให้สังคมทราบด้วย เพราะข่าวที่สังคมเขากล่าวขานกันนั้น เชื่อว่า กระทรวงการคลังยังไม่ได้ดำเนินการแต่อย่างไรเลย วันนี้เงินและทรัพย์สมบัติที่ศาลชี้แจงว่าทักษิณคดโกงมานั้นยังอยู่กับทักษิณและตระกูลทุกบาททุกสตางค์

วันนี้ต้องยอมรับว่า ทักษิณกลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง และมีความโอหังมมังการ์กล่าวเดิม ผ่านคำพูดและการแสดงออกของเขา คนจำนวนไม่น้อยเชื่อว่า การกลับมาของทักษิณนั้นมีดีลกับชนชั้นนำที่ต้องพึ่งพาทักษิณจากการคุกคามของพรรคการเมืองของคนรุ่นใหม่ที่ต้องการรื้อโครงสร้างและระบอบของรัฐเพื่อเปลี่ยนประเทศไทยไม่ให้เหมือนเดิม และกำลังได้รับความนิยมจากประชาชนมากขึ้นเรื่อยๆ จากความเบื่อหน่ายโครงสร้างเก่าที่พวกเขามองว่า เป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาประเทศ และเป็นส่วนเกินของระบอบประชาธิปไตยที่เป็นสากล

ทักษิณจึงแสดงออกเหมือนกับเป็นผู้ยิ่งใหญ่ของประเทศนี้ ไม่สนใจเสียงครหา ไม่สนใจข้อจำกัดทางกฎหมาย เขาแสดงตัวเป็นนายกรัฐมนตรีตัวจริงที่มีอำนาจสั่งการและมอบนโยบายให้รัฐบาลนำไปทำ ที่เราเห็นการพูดของเขาในงานแสดงวิสัยทัศน์ของอดีตนายกรัฐมนตรีที่คดโกงที่สื่อค่ายเนชั่นจัดขึ้นและต่อมาทุกเรื่องกลายเป็นนโยบายที่รัฐบาลจะต้องทำ

รวมถึงคอยดูว่าการแสดงความเห็นของเขาในงานประชุมพรรคที่หัวหินที่เพิ่งผ่านมาไม่กี่วันจะกลายเป็นนโยบายของรัฐบาลหรือไม่ ที่เขาเสนอให้นำบิทคอยน์มาเป็นเงินสำรองของประเทศ

“แล้ววันนี้เงินคริปโท (Cryto) หลายสกุลก็ออกมาแล้ว มีคนบอกว่าอีกหน่อยเราจะมีสกุลเงินมากกว่าจำนวนประเทศชาติในโลกนี้ คือแบงก์ของประเทศหนึ่งมีมากกว่าหนึ่งสกุล เพราะฉะนั้นวันนี้คนไทยต้องคิดและต้องเตรียมรู้เท่าทันให้ได้ นายกฯ อิ๊งค์ มอบให้กระทรวงการคลังไปศึกษาว่าเราจะรับบิทคอยน์ได้ไหม เราจะ Sandbox ในแหล่งท่องเที่ยวอย่างภูเก็ตหรือหัวหินนี้ได้ไหม คือคนมีบิทคอยน์มันกำไรทั้งนั้น มันมีแนวโน้มจะใช้เยอะ สมมุติว่าต้นทุนหมื่นนึงวันนี้มันมีค่าแสนนึง ไปพักห้องสวีทดีกว่าแสนเดียวเท่ากับหมื่นเดียว เพราะฉะนั้นวันนี้หลายประเทศจะเริ่มแล้ว” ทักษิณกล่าว

คอยดูว่ารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง จะดำเนินตามนโยบายที่ทักษิณประกาศไว้ทันทีหรือไม่ ซึ่งจะสะท้อนให้เห็นว่า แท้จริงแล้วทักษิณมีอำนาจเหนือรัฐบาลอย่างไร รวมไปถึงการแสดงออกต่อพรรคร่วมรัฐบาลที่มีท่าทีแข็งขืนต่อนโยบายบางด้านของพรรคเพื่อไทยที่บอกว่า อย่าทำเป็นอีแอบ อยู่ก็อยู่ ไม่อยู่ก็ไม่ต้องอยู่ที่แสดงให้เห็นว่า เขาเป็นเจ้าของรัฐบาลนี้ แม้จะไม่มีฐานะและหน้าที่อย่างเป็นทางการเพียงแต่มีสถานะเป็นพ่อของนายกรัฐมนตรีเท่านั้นเอง

นอกจากนั้นทักษิณยังประกาศให้กรมสรรพากรและปปง.ตรวจสอบเส้นทางการเงินของบรรดานักร้องที่ออกมาร้องเรียนรัฐบาลของเขา ซึ่งเป็นวิธีการที่ทักษิณชอบใช้และเป็นส่วนหนึ่งที่เราเรียกกันว่าระบอบทักษิณ เช่นเดียวกับที่เขาเคยสั่งให้กรมสรรพากรและปปง.ตรวจสอบเส้นทางการเงินกับศัตรูของเขาตอนที่เป็นนายกรัฐมนตรี ที่สะท้อนว่า การใช้อำนาจอย่างไม่บันยะบันยังซึ่งเป็นโลโก้ติดตัวทักษิณหรือสิ่งที่เราเรียกว่าอำนาจมืดทางการเมืองกำลังจะถูกนำกลับมาใช้อีกครั้งในยุคนี้

แน่นอนว่าความเชื่อที่ว่าทักษิณมีดีลนั้นยิ่งทำให้เขาโอหังยิ่งกว่าเก่า มีคนพยายามบอกว่า วันนี้ทักษิณเป็นขุนพลของฝ่ายอนุรักษนิยมและชนชั้นนำที่มีสถานะและบทบาทไม่ต่างกับ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ผู้ล่วงลับในอดีต เพียงแต่ทักษิณไม่มีตำแหน่งยศถาบรรดาศักดิ์อย่างเป็นทางการเท่านั้น และเราได้เห็นว่า เขาแสดงออกให้สังคมเห็นว่า เขาเป็นผู้ยิ่งใหญ่ในประเทศนี้อย่างไร แม้ว่าจะมีผู้กล่าวว่าเขาพยายามแสดงออกเพื่อลบล้างปมด้อยในอดีตของเขา

เหตุผลสำคัญที่ทักษิณต้องออกมามีบทบาทขับเคลื่อนทางการเมืองแทนการไปเลี้ยงหลานอย่างที่เขาอ้างก็เพราะทักษิณน่าจะรู้ศักยภาพของอุ๊งอิ๊งค์ลูกสาวของตัวเองดีว่ามีความสามารถและสติปัญญาเพียงไหน แม้ว่าหลายครั้งทักษิณจะชมลูกสาวของตัวเองต่อสังคมว่าเก่งก็ตาม เพราะคนส่วนใหญ่ก็สัมผัสได้ถึงความมีสติปัญญาอันน้อยนิดของอุ๊งอิ๊งค์จนหลายคนมองว่า ยิ่งลักษณ์ที่สังคมเคยตั้งคำถามถึงความรู้และความสามารถเช่นเดียวกันก็ยังดูดีกว่าอุ๊งอิ๊งค์มาก

อุ๊งอิ๊งค์เพิ่งจะแถลงผลงาน แต่ทุกคนฟังแล้วก็มีแต่ความว่างเปล่าและขายฝันในอนาคต สวนดุสิตโพลเพิ่งจะสำรวจพบว่า ผลงาน 3 เดือน ของรัฐบาลเป็นอย่างไรในสายตาของประชาชน 39.85% ระบุว่า ยังประเมินไม่ได้ 28.14 % ระบุ ต่ำกว่าที่คาดหวังไว้ และ24.96% บอกเป็นไปตามที่คาดหวัง และ 7.05%ระบุดีกว่าที่คาดหวัง ขณะที่เรื่องประชาชนเชื่อมั่นการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของรัฐบาลหรือไม่พบว่า เกินครึ่งหนึ่ง 54.99% บอกไม่เชื่อมั่น และ 45.01% ระบุมีความเชื่อมั่น

วันนี้ทักษิณกำลังลำพองและกร่างมาก เหมือนกับเด็กช่างกลที่ชอบพ่นตามกำแพงว่า “เป็นพ่อทุกสถาบัน” ทักษิณทำตัวให้เห็นว่า เขามีอำนาจเหนือกฎหมาย แม้จะมีพระบรมราชโองการให้เขาติดคุก 1 ปีจากความผิดตามคำพิพากษา 8 ปีไม่นับคดีที่ดินรัชดา 2 ปีซึ่งหมดอายุความไปแล้ว แต่กลับไม่ติดคุกจริงๆแม้แต่วันเดียว ซึ่งเชื่อว่าด้วยอำนาจและสถานะของทักษิณวันนี้จะไม่มีใครตามล้างเอาผิดและเอาตัวเขากลับไปติดคุกจริงๆ ได้

แต่คนจำนวนไม่น้อยก็บอกว่า ที่ประเทศของเราต้องเผชิญกับชะตากรรมเช่นนี้ คนที่เคยคดโกงฉ้อฉลแผ่นดินกลับมามีอำนาจเป็นใหญ่ในแผ่นดินอีกครั้ง เพราะประชาชนที่เป็นเจ้าของประเทศยินยอมให้เขาเข้ามาเพื่อแลกเปลี่ยนกับผลประโยชน์เพียงน้อยนิดที่เขาหยิบยื่นให้ เพราะเชื่อว่าถึงเขาโกงเราก็ได้ประโยชน์ซึ่งเป็นทัศนคติของคนไทยในวันนี้

ติดตามผู้เขียนได้ที่ https://www.facebook.com/surawich.verawan