ในขณะนี้รัฐบาลที่มีพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำ และมีนางสาวแพทองธาร ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี กำลังเผชิญปัญหานานารูปแบบ มีทั้งปัญหาด้านกฎหมาย และปัญหาทางด้านสังคมซึ่งเกี่ยวข้องโดยตรงกับพรรคเพื่อไทย และนายกรัฐมนตรีอันเป็นปัจเจกและเกี่ยวข้องกับรัฐบาลทั้งชุด แต่ที่น่าจะส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพของรัฐบาล และทำให้ต้องกันจุดจบอย่างกะทันหันเห็นจะได้แก่เหตุปัจจัยดังต่อไปนี้
1. การถือหุ้นสนามกอล์ฟอัลไพน์ ซึ่งศาลได้พิพากษาตัดสินว่าได้มามิชอบ และให้คืนแก่วัดที่นางเนื่อม ชำนาญชาติศักดา ได้ถวายให้เป็นที่ธรณีสงฆ์
2. จำใจและจงใจปล่อยคนนอกครอบงำการบริหารพรรค ซึ่งขัดต่อกฎหมายพรรคการเมือง และเรื่องนี้อยู่ในระหว่างการสอบสวนของ กกต.
3. ละเว้นไม่ปฏิบัติตามคำตัดสินของศาลในกรณีที่ดินเขากระโดง และสนามกอล์ฟอัลไพน์ ซึ่งศาลได้พิพากษาตัดสินแล้วว่าผู้ครอบครองในปัจจุบันได้มาโดยมิชอบ และให้คืนแก่ผู้ถือครองกรรมสิทธิ์ที่ดินคือ การรถไฟฯ และวัดซึ่งได้รับจากการถวายของคุณยายเนื่อม ชำนาญชาติศักดา เพื่อให้เป็นธรณีสงฆ์
4. ไม่ยกเลิก MOU44 ที่อดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร ได้ทำไว้กับเขมร โดยไม่ผ่านสภาฯ และแถมยังเดินหน้าแบ่งผลประโยชน์ในพื้นที่ซึ่งอ้างว่าเป็นพื้นที่ทับซ้อน แทนที่จะเจรจากำหนดเขตแดนให้เรียบร้อยก่อน โดยยึดกฎหมายสากลว่าด้วยการแบ่งเขตแดนทางทะเล และไม่ยอมฟังเสียงประชาชน
ในจำนวนเหตุปัจจัย 4 ข้อข้างต้น ข้อ 3 และข้อ 4 เป็นความผิดค่อนข้างชัดเจน ถ้าไม่ดำเนินการแก้ปัญหาในข้อ 3 โดยการเพิกถอนโฉนดของผู้ถือครองในปัจจุบัน และคืนแก่เจ้าของเดิมตามคำสั่งศาล นายกรัฐมนตรีในฐานะกำกับดูแลกระทรวงมหาดไทย และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะกำกับดูแลกรมที่ดินเข้าข่ายละเว้นการปฏิบัติตามมาตรา 157
ส่วนในข้อ 4 ถ้าไม่ยกเลิก MOU44 และเดินหน้าเจรจาแบ่งผลประโยชน์ก็จะเป็นชนวนนำไปสู่ความขัดแย้งกับกองทัพ และประชาชนที่ออกมาชุมนุมขับไล่ สุดท้ายก็จะนำไปสู่การทำรัฐประหาร
อีกประการหนึ่ง ถ้ามองการเมืองในแง่ของโหราศาสตร์ ก็จะพบว่าจากนี้ไปจนถึง 24 ม.ค. 68 ดาวอังคารเป็น 4 กับลัคนาดวงเมือง และเป็น 3 กับอังคารเดิม จะมีคดีการเมืองที่สำคัญและมีผลกระทบต่อรัฐบาลขึ้นสู่ศาล โดยมีนักการเมืองและข้าราชการเป็นจำเลย และถ้าผลการตัดสินออกมาจำเลยมีความผิดติดคุกก็จะมีการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง โดยกระบวนการยุติธรรม แต่ถ้าไม่มีการตัดสินก่อน 24 ม.ค. 68 ก็จะเกิดความวุ่นวายทางการเมือง และนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงโดยการทำรัฐประหารค่อนข้างแน่นอน
ส่วนว่าการเปลี่ยนโดยกระบวนการยุติธรรมและการเปลี่ยนแปลงโดยการทำรัฐประหารอย่างไหนแก้ปัญหาได้ดีกว่ากัน มิได้ขึ้นอยู่กับกระบวนการเปลี่ยนแปลง แต่ขึ้นอยู่กับบุคคลที่มาบริหารประเทศหลังการเปลี่ยนแปลงเป็นหลัก จึงต้องรอดูกันต่อไปว่าจะเป็นอย่างไร