“สอดแนมการเมือง”
“ชัชวาลย์ ชาติสุทธิชัย”
บทความก่อน (ตอนสาม) ผู้เขียนได้นำ “วาทะคำคม” ของประธานาธิบดี “สี จิ้นผิง” แห่งชาติจีน เกี่ยวกับนโยบายต่างประเทศ ซึ่งเน้นโครงการ “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” พัฒนาจีนจากในอดีตที่ยากจนล้าสมัย พลิกผงาดกลายเป็นหนึ่งใน “ชาติมหาอำนาจโลก” ที่แข็งแกร่ง
หลายมิติ จีนได้ล้ำหน้าทันสมัยเหนือ “อินทรีมะกัน” และ “กลุ่มชาติยุโรป” จน “อินทรีมะกัน” ต้องถือ “มังกรจีน” เป็น “ศัตรูหมายเลขหนึ่ง” ของ “มะกัน” ไปเลย
อืม..ถ้า “ผู้นำชาติจีน” คิดและทำตาม “วาทะคำคม” ที่ได้แสดงออกจากใจจริง ด้วยการพูดหรือเขียน ตามสถานที่ต่างๆ อีกทั้งผลักดัน “ชาติมหาอำนาจโลก” ให้เห็นด้วยและ “ร่วมกันทำ” เพื่อ “ชุมชนโลก” จัก “ไร้วิกฤต” และได้พบ “สันติภาพ” กับ “ศานติสุข” อันเป็น “ยอดปรารถนา” ของ “ชาวโลกทั้งมวล”
ทว่า..เรื่องนี้ “คอการเมืองโลก” ล้วน “ฟันธงเปรี้ยง”โดยไม่ลังเลว่า “เฮ้ย! “สีฯ” ฝันกลางวันนี่หว่า! เพราะ..“ไม่มีมหาอำนาจทุนสามานย์ชาติใดจะทำตามว่ะ!”
แม้บรรดา “ชาติมหาอำนาจทุนสามานย์”จะไม่สนใจ แต่ “ผู้นำชาติและชาวโลกที่ดี” ก็พึง “ต้องอ่าน-ต้องรู้” เนื้อหา “วาทะคำคม” ของ “สีฯ” เพื่อประดับสมองบ้าง..จริงไหม?
งั้นเรามาอ่าน “วาทะมังกรสีฯ” กันดีกว่า..โดยใน พ.ศ.2556 “สีฯ” เริ่มจากสำนวนจีนว่า
“ก่อดินกองเป็นเนิน ประมวลสินเป็นมหาสมุทร” ขอเพียงแต่เรายืนหยัดอย่างไม่ท้อถอย ส่งเสริมความร่วมมือระหว่างจีน-แอฟริกาอย่างต่อเนื่อง ย่อมจะได้ผลลัพธ์ที่ยิ่งใหญ่
จีนได้ให้คำมั่นกับประชาคมโลก ไม่แสวงหาอำนาจและไม่สร้างเขตอิทธิพล จีนจะยืนหยัดบนเส้นทางการพัฒนาอย่างสันติ สัญญาสุภาพบุรุษพูดแล้วไม่คืนคำ
“สีฯ” ยังพูดยืนยันผ่านเวที “BRICS” ในวันที่ 19 มีนาคม 2556 ว่า
“ประเทศจีนและรัสเซีย มีดินแดนเชื่อมต่อกันด้วยภูเขาและแม่น้ำ เป็นเพื่อนบ้านที่ดีต่อกัน เป็นมิตรสหายที่ดีต่อกัน การมีมิตรที่ดี เป็นสมบัติอันล้ำค่าเพื่อบ้านเมือง การท่องเที่ยวเป็นการปฏิบัติธรรมวิธีหนึ่ง ประชาชนจีนได้ประสานการท่องเที่ยวกับการศึกษา เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันมาแต่โบราณ จึงมีสำนวนกล่าวว่า “อ่านหนังสือหมื่นเล่ม เดินทางไกลนับหมื่นลี้”
22 มีนาคม 2556 “สีฯ” ปราศรัยในพิธีเปิดงาน“ท่องเที่ยวประเทศจีน-รัสเซีย”.. ย้ำว่า “มีเพื่อนมาจากแดนไกล มิใช่เรื่องที่น่ายินดีหรือ? ประชาชนจีนกำลังสร้างสรรค์ประเทศจีนที่สวยงามอย่างเร่งรีบ”
คำกล่าวของ “สีฯ” ในงานเฉลิมฉลอง “พคมจ.ก่อตั้งครบรอบ 95 ปี” ในวันที่ 1 กรกฎาคม 2559 ว่า..
“กติการะหว่างประเทศ และการจัดระเบียบโลกเช่นไร จึงจะมีผลดีต่อโลกและมีผลดีต่อประชากรโลก ต้องผ่านการปรึกษาร่วมกัน ไม่ใช่คำพูดของประเทศใดประเทศหนึ่ง และไม่อาจยึดตามความคิดเห็นของคนส่วนน้อย”
อืม..เสียง “สังคมโลกส่วนใหญ่” ต้องเห็นด้วยกับวาทะนี้..จริงไหมล่ะ?
“สีฯ” ยังพูดต่อในการประชุมสุดยอดงาน “ความเชื่อมั่นแห่งเอเซีย” ครั้งที่ 4 เมื่อวันที่ 21พฤษภาคม 2557
“ผู้รู้มักจะเปลี่ยนแปลงตามกาลเวลา ผู้มีปัญญามักจะพลิกแพลงตามสถานการณ์” สถานการณ์กำลังพัฒนา และกาลเวลากำลังขับเคลื่อนไปข้างหน้า จะก้าวให้ทันกับกาลเวลา เราไม่ควรจะมีชีวิตอยู่ในศตวรรษที่ 21 แต่ความคิดยังคงหยุดอยู่ในยุคของสงครามเย็น เกมผลรวมจึงเป็นศูนย์แบบเก่า”
“สีฯ” ยังได้กล่าวต่อ “คกก.กลางกรมการเมือง” ครั้งที่ 35 เมื่อวันที่ 27 กันยายน 2559 ว่า
“ผู้รู้จำนวนมากทั่วโลกต่างเชื่อกันว่า จากการที่โลกกำลังพัฒนาอย่างต่อเนื่อง จากการที่มนุษย์ต้องเผชิญหน้ากับการท้าทายข้ามชาติที่หนักหน่วงเพิ่มขึ้นทุกวัน จึงจำเป็นต้องทำการปรับเปลี่ยน และปฏิรูปการกำกับดูแลรักษาโลกให้สอดคล้องยิ่งขึ้น การปฏิรูปนี้มิใช่เป็นการล้มกระดานทั้งหมด และไม่ใช่การสร้างครัวใหม่ แต่เป็นการสร้างนวัตกรรม เมื่อติดขัด ย่อมต้องเปลี่ยนแปลง เมื่อเปลี่ยนแปลง ย่อมลื่นไหล ไม่ว่าจะเป็นประเทศหนึ่งหรือทั่วทั้งโลก ล้วนต้องขับเคลื่อนไปตามสถานการณ์ จึงจะสามารถรักษาพลังขับเคลื่อนได้อย่างยั่งยืน”
ในคำปราศรัยของ “สีฯ” ที่ “บรูจส์” สถาบันศึกษาแห่งยุโรป เมื่อวันที่ 1 เมษายน 2557 “สีฯ” ยังเปรียบเทียบแบบง่ายๆว่า “เหมือนประชาชนจีนชอบดื่มชา แต่ชาวเบลเยี่ยมชอบดื่มเบียร์ เนื้อหาการดื่มชาสุขุมนุ่มลึก ประกอบกับความร้อนแรงของเบียร์ เป็นสัญลักษณ์แห่งรสชาติของชีวิต เป็นการอธิบายรูปแบบที่ต่างกัน 2 ลักษณะของโลก แต่ชากับเบียร์ไม่ใช่สิ่งที่เข้ากันไม่ได้อย่างเด็ดขาด คนเรานอกจากชอบร่ำสุรา สุราพานรู้ใจ พันจอกน้อย จิบชา ลิ้มรส เรียนรู้ชีวิตอีกด้วย อารยธรรมที่หลากหลายร่วมผสมผสาน ส่องแสงประกายเจิดจ้า”
“แหงนมองอนาคต พวกเราควรจะแสวงหาเป้าหมายสลายความแตกต่าง จาก“การแสวงจุดร่วม สงวนจุดต่าง” จนถึง “รวมพลังสลายความแตกต่าง” ความร่วมมือกันทางผลประโยชน์ หน้าที่ ความท้าทาย และทัศนคตินิยม ระบอบการเมือง การปกครอง ความแตกต่างของขั้นตอนการพัฒนา สร้างความสัมพันธ์ระดับพรรคแบบใหม่ ที่สอดคล้องกับยุคสมัย”
นั่นเป็นคำปราศรัยของ “สีฯ” ในการพบปะกับ “ประธานพรรคสังคมประชาธิปไตย” เยอรมัน และรองนายกรัฐมนตรี “กาเบรียล” ในวันที่ 15 กรกฎาคม 2558
“แนวโน้มกระแสโลกอันเชี่ยวกราก ผู้คล้อยตามย่อมได้รับความเจริญรุ่งเรือง ผู้ต่อต้านย่อมพบกับความดับสูญ ดูจากประวัติศาสตร์โลก การอาศัยกำลังรุกรานเพื่อขยายอาณาเขต ย่อมพบกับความพ่ายแพ้และล้มเหลวในที่สุด นี่คือกฏแห่งประวัติศาสตร์” “สีฯ” กล่าวในที่ประชุมสมัชชาพรรคครั้งที่ 18 วันที่ 28 มกราคม 2556
ในคำปราศรัยของ “สีฯ” ในการประชุม “ผู้นำเอเซียแอฟริกา” เมื่อวันที่ 22 เมษายน 2558 “สีฯ” ได้พูดถึงสำนวน “แอฟริกา” และ “จีน” ว่า
“สำนวนชาวแอฟริกันกล่าวว่า “ไม้ท่อนเดียวไม่สามารถสร้างบ้านได้ทั้งหลัง” สำนวนของจีนก็ย้ำว่า “สู้เพียงลำพังยากจะประสบความสำเร็จ ร่วมเดินเป็นคณะขับเคลื่อนได้ง่าย” ส่งเสริมความร่วมมือระหว่างประเทศเอเซีย-แอฟริกา ทำให้เกิดผลลัพธ์มากกว่า 2”
ส่วนที่ “รัฐสภาอินโดนีเซีย” วันที่ 22 ตุลาคม 2556 “สีฯ” ยืนยันความร่วมมือแบบ Win Win “วางแผนการต้องวางแผนเพื่อประโยชน์ต่อคนทั้งโลก ประเทศจีนยินดีใช้การพัฒนาตนเอง อำนวยประโยชน์ให้กับประเทศในกลุ่มอาเซียน ด้วยนโยบายที่เปิดกว้างและตั้งอยู่บนพื้นฐานที่เสมอภาค”
“สีฯ” ยังไปกล่าวคำนี้ที่มหาวิทยาลัยแห่งชาติ กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ วันที่ 4 กรกฎาคม 2557 ว่า
“ทรัพย์ศฤงคารที่ไม่ชอบธรรมนั้น เปรียบเหมือนหมอกควัน คัดค้านพฤติกรรมที่เห็นแก่ผลประโยชน์ส่วนตนและไม่ชอบธรรม” คำสั้นๆ ของ “สี จิ้นผิง” นี้ “ยอดเยี่ยม” ต้องยกนิ้วโป้งให้เลย-ขอให้ทำจริงนะ “สีฯ”!
ในโอกาสเดียวกันนี้ “สีฯ” พูดว่า “คบกันด้วยผลประโยชน์ เมื่อหมดผลประโยชน์ความสัมพันธ์ก็เลิกรา คบกันด้วยอำนาจ เมื่ออำนาจเสื่อม
ความสัมพันธ์ก็จบสิ้น มีแต่คบหากันด้วยใจ ความสัมพันธ์จึงยั่งยืนนาน การพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ต้องประสานใจของประชาชนทั้งสองประเทศ”
วันที่ 18 มกราคม 2560 “สีฯ” โผล่ไปพูดที่ “สำนักงานใหญ่สหประชาชาติ” กรุงเจนีวา ว่า
“ในโลกนี้ไม่มีดินแดนดอกท้อที่ปลอดภัยอย่างเด็ดขาด ความปลอดภัยของประเทศหนึ่ง ไม่ควรตั้งอยู่บนความทุกข์ยากของประเทศอื่น เพราะความทุกข์ยากของประเทศอื่น ก็อาจกลายเป็นปัญหาที่ท้าทายประเทศเราได้ หากประเทศเพื่อนบ้านมีปัญหา อย่ามัวแต่เสริมแนวป้องกันของตนเพียงอย่างเดียว แต่ควรจะหาทางช่วยเหลืออีกแรงหนึ่ง ไม้ท่อนเดียวนั้นหักง่าย หากรวมกันเป็นมัดย่อมหักได้ยาก ทุกๆ ประเทศควรร่วมมือกันอย่างบูรณาการ ถึงจะมีความปลอดภัยร่วมกันที่ยั่งยืน”
คำพูดต่อไปนี้ของ “สีฯ”.. ทำให้ “ชาวไทย” รำลึกถึง “ในหลวงรัชกาลที่ 9”อีกครั้ง เพราะ “ผู้นำมังกรจีน” ระบุว่า.. “จีนกำลังเร่งช่วยชาวแอฟริกันด้วยแนวคิด..“การหยิบยื่นปลาให้แก่ผู้อื่น ยิ่งต้องให้ความสำคัญในการสอนวิธีจับปลา!!!”