เปรียบมวยศึกชิง “นายก อบจ.อุบลฯ” แชมป์เก่า “กานต์ กัลป์ตินันท์” สรรพกำลังเป็นรอง “เจ๊กบ แป้งมัน” แถม “ส่วนกลาง” ปล่อยสู้โดดเดี่ยว ท่ามกลางข่าว “สองใบเทา” ว่อน “เมืองดอกบัว” ต้องจับตา “นายใหญ่” ที่จะขยับลงมาช่วยหาเสียงจะกู้สถานการณ์ได้หรือไม่ น่ากลัวจะเอาชื่อ “เพื่อไทย” ไปทิ้งกลางสนามรบ และอาจลามไปถึงศึกเลือกตั้งใหญ่ด้วย
ถือว่าเอาตัวรอดไปได้ สำหรับชัยชนะของ “เสี่ยป๊อป” ศราวุธ เพชรพนมพร ว่าที่นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) อุดรธานี ผู้สมัครจากพรรคเพื่อไทย ที่มีเหนือ “ทนายแห้ว” คณิศร ขุริรัง ผู้สมัครจากพรรคประชาชน
จากผลจากการนับคะแนน 100 เปอร์เซนต์ ปรากฎว่า "ศราวุธ" ได้ไป 327,487 คะแนน ส่วน "คณิศร" ได้ 268,675 คะแนน ส่วนต่างกัน 58,812 แต้ม หรือเกือบ 6 หมื่นคะแนน
มองผิวเผินอาจเป็นชัยชนะที่ทิ้งห่างกันพอสมควร แต่หากลงรายละเอียดแล้วก็จะพบว่า “ไม่ง่าย” สำหรับ “ค่ายสีแดง” พรรคเพื่อไทย ที่ถูก “ค่ายสีส้ม” พรรคประชาชน ท้าทายอย่างหนัก ทั้งที่เป็น “เมืองหลวงคนเสื้อแดง” ที่ควรจะชนะสบายกว่านี้ด้วยซ้ำ ชัยชนะของ “ศราวุธ” จึงอาจพูดได้ว่าแค่ “เสมอตัว”
ความหวั่นไหวของพรรคเพื่อไทย สะท้อนผ่านการงัดไพ่ “นายใหญ่“ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ และผู้นำจิตวิญญาณคนเสื้อแดง ที่ต้องไปลงพื้นที่ตรึงฐานเสียงโหวตเตอร์ นั่นเอง
โดยหลังจากนี้จะเหลืออีก 5 จังหวัดที่จะมีการเลือกตั้งนายก อบจ.เพื่อแทนคนเก่าที่ลาออกก่อนครบวาระ ประกอบด้วย กำแพงเพชร ในวันที่ 1 ธ.ค.67, ตาก ในวันที่ 15 ธ.ค.67 ส่วนอีก 3 จังหวัด ได้แก่ เพชรบูรณ์, อุตรดิตถ์ และ อุบลราชธานี จะเลือกตั้งในวันที่ 22 ธ.ค.67
ส่วนจังหวัดที่นายก อบจ.คนปัจจุบันไม่ได้ลาออกก่อนครบวาระ จะไปเลือกตั้งพร้อมกันในวันที่ 1 ก.พ.67
สำหรับ 5 สนามนอกฤดูกาลที่ยังเหลืออยู่นั้น มีเพียง “เมืองดอกบัว” อุบลราชธานี จังหวัดเดียวที่ พรรคเพื่อไทย ประกาศส่ง “เฮียกานต์” กานต์ กัลป์ตินันท์ อดีตนายก อบจ.อุบลราชธานี เป็นผู้สมัครในนามพรรค ลงรักษาเก้าอี้อีกสมัย
หากแต่มิติการต่อสู้ของสนาม “เมืองดอกบัว” แตกต่างจากสนามที่อุดรธานี เพราะแม้จะมี “เสี่ยน้อย” สิทธิพล เลาหะวนิช อดีตรองนายก อบจ. เป็นผู้สมัครในนาม พรรคประชาชน ลงแข่งขันด้วย
แต่ “ผู้ท้าชิง” ที่ถูกจับตามองไปที่ “เจ๊กบ” จิตรวรรณ หวังศุภกิจโกศล ผู้สมัครในนามพรรคไทรวมพลัง
ยุทธจักรการเมืองรู้จัก “เจ๊กบ” ดีในฐานะน้องเมีย-เมียน้อง “กำนันป้อ” วีระศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล อดีต รมช.คมนาคม-พาณิชย์ ที่ปัจจุบันผันตัวไปอยู่เบื้องหลัง ดูแลพื้นที่ จ.นครราชสีมา ให้พรรคเพื่อไทย และผลักดัน “หมวยปุ๋ง” สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล เป็น รมว.วัฒนธรรม ในรัฐบาลปัจจุบัน
ส่วนตัว “เจ๊กบ” เองดีกรีก็ไม่ธรรมดา พื้นเพเป็นคนโคราช เคยเป็นอดีต สส.นครราชสีมา ในนามพรรคเพื่อแผ่นดิน ก่อนเว้นวรรคทางการเมือง หอบผ้าหอบผ่อนมาทำธุรกิจแป้งมัน “เอี่ยมอุบล-เอี่ยมอำนาจ” ที่แตกสาขาจากอาณาจักรกงสี “เอี่ยมเฮง” จนกว้างขวางในพื้นที่อุบลราชธานี, ศรีสะเกษ และอำนาจเจริญ นานนับสิบปีแล้ว
เลือกตั้งปี 2566 ที่ผ่านมา “เจ๊กบ” ในฐานะเจ้าของพรรคเพื่อไทยรวมพลัง (ชื่อเดิม) ไม่ลงสนามเอง แต่ก็แสดงอิทธิฤทธิ์ส่งผู้สมัคร สส.ลงแค่ 2 เขต ใน จ.อุบลราชธานี และก็สร้างสถิติ 100% คว้าเก้าอี้ สส.มาไดเทั้ง 2 เขต โค่นตัวเก๋าของพรรคเพื่อไทย ทั้ง “ชูวิทย์ พิทักษ์พรพัลลภ-สมคิด เชื้อคง” ด้วยสไตล์ชกแบบไฟเตอร์ เกทับ “อันลิมิต” ไม่ให้คู่แข่งได้คิดสู้
เข้าใจว่าเหตุที่ “เจ๊กบ” ไม่ลงการเมืองสนามใหญ่ ก็คงเพราะล็อกเป้าไว้ที่นายก อบจ.อุบลราชธานี ที่ “บ้านใหญ่กัลป์ตินันท์” ครอบครองมาหลายสมัยนั่นเอง น่าสนใจที่เทียบฟอร์มนาทีนี้ ผู้สันทัดกรณีต่างยกให้ “เจ๊กบ” มาแรงเหนือ “เฮียกานต์” แบบไม่กล้าเปิดราคาต่อรองด้วยซ้ำ
ด้วยฝั่ง “เจ๊กบ” นอกจากมีฐานเสียงสำคัญ 2 สส.เขตของพรรคตัวเองแล้ว ยังได้ “ค่ายสีน้ำเงิน” พรรคภูมิใจไทย ในอีก 3 เขตมาร่วมด้วยช่วยกันต่อกร “บ้านใหญ่กัลป์ตินันท์”
ขณะที่ “เฮียกานต์” แม้จะมีพี่เลี้ยงชั้นอ๋องอย่าง “เฮียเกรียง” เกรียง กัลป์ตินันท์ อดีต รมช.มหาดไทย พี่ชาย พร้อม สส. 4 เขตของพรรคเพื่อไทยเป็นฐานเสียง แต่ข่าวคราวแจ้งว่า ไม่ได้รับการสนับสนุนจาก “ส่วนกลาง” เท่าที่ควร
ไม่พ้นต้องถาม “บ้านใหญ่จันทร์ส่องหล้า” ว่าคิดอ่านอย่างไรกับสนาม อบจ.เมืองดอกบัว เพราะ “เจ๊กบ” เครือข่าย “กำนันป้อ” ก็ “กากี่นั้ง” ขอกันได้ แต่กลับปล่อยให้ลงชนกับ “เฮียกานต์” ที่ลงสมัครในนามพรรค สร้างความเสียหายทั้งสองฝ่ายแบบไม่จำเป็น
แถมจังหวะที่ “เฮียเกรียง” หลุดจากรัฐมนตรี ก็เป็นจังหวะที่ควรได้อยู่ในตำแหน่งต่อเพื่อสู้ศึกเลือกตั้งท้องถิ่นแท้ๆ
ทำให้ “เฮียกานต์” ผู้สมัครที่แปะโลโก้เพื่อไทยของแท้ต้องตกที่นั่งลำบาก ยิ่งมีข่าวสะพัดว่า มีการปูพรมทั่วจังหวัดตามเรท “สองใบเทา” ด้วยแล้ว ว่ากันว่าแชมป์เก่าได้แต่มองปริบๆ
ความระส่ำระสายที่เกิดขึ้น ทำให้ “นายใหญ่” ต้องขยับ ปล่อยโปรแกรมเดินทางไป จ.อุบลราชธานี ในวันที่ 11 ธ.ค.67 เพื่อช่วย “เฮียกานต์” หาเสียง แต่กลับมีคิวแค่นัดพบปะเยี่ยมเยียนแกนนำเขตเลือกตั้งระดับท้องถิ่นที่บ้านพัก “เสี่ยบอมบ์” วรสิทธิ์ กัลป์ตินันท์ สส.อุบลราชธานี เขต 1 พรรคเพื่อไทย ลูกชาย “เฮียเกรียง” หลานชาย “เฮียกานต์” เท่านั้น โดยไม่มีการขึ้นเวทีปราศรัยเหมือนที่เมืองอุดรฯแต่อย่างใด
จนถูกมองว่าเป็นโปรแกรมไปช่วยหาเสียงแบบ “เสียไม่ได้” มากกว่า “แพ้ไม่ได้” แบบที่ตีธงสู้สุดตัวที่ จ.อุดรธานี
ดูทรงแล้วสมรภูมิเดือดชิงนายก อบจ.อุบลฯ น่าจะทำให้ “เพื่อไทย” เสียสถิติ เอาชื่อไปทิ้งในสนามรบ น่ากลัวจะกลายเป็นโมเดลลามไปทั่วในการเลือกตั้ง อบจ.-ท้องถิ่นทั่วประเทศ ที่ย่อมส่งผลไปถึงเลือกตั้งใหญ่หนหน้าด้วย.