ความ“บ้า”แบบใหม่ของประธานาธิบดีอเมริกันรายใหม่!!!

ปิดท้ายสัปดาห์นี้...ก็เป็นอันว่า “เรียบโร้ยย์ย์ย์โรงเรียนทรัมป์บ้า” ไปแล้ว!!! สำหรับการเลือกตั้งประธานาธิบดีอเมริกาเมื่อช่วงวันอังคารที่ 5 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ไม่ว่าผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีแห่งพรรคเดโมแครต อย่างคุณน้อง “กมลา” ที่ถูกตำหนิติติง ในเรื่อง “IQ” มาโดยตลอด ยังรอจังหวะประกาศ (ความพ่ายแพ้) ไปจนกว่าจะถึงเช้าวันพุธ (6 พ.ย.) โน่นเลยแต่อดีตประธานาธิบดีและผู้สมัครแห่งพรรครีพับลิกัน อย่าง “ทรัมป์บ้า” ก็ลุกขึ้นมาชูมือ ชูไม้ ชูกำปั้นประกาศชัยชนะพร้อมๆ กับการออกมาแสดงความยินดีของบรรดาผู้นำประเทศต่างๆ อย่างชนิดแทบไม่ต้อง “รอลุ้น” ใดๆ ต่อไปอีกแล้ว...

และอันนี้...ต้องเรียกว่า “ชนะขาด” หรือชนะแบบถล่มทลายดังที่ “กูรู” ของสำนักข่าว “ผู้จัดการ” อย่างคุณ “ทะนง ขันทอง” ท่านทำนายทายทักเอาไว้ล่วงหน้าจริงๆ คือขณะที่ “ทรัมป์บ้า” กวาดคะแนนเสียง “คณะเลือกตั้ง” มาได้ถึง 277 รายเกินจำนวนเส้นมาตรฐาน 270 ที่นั่ง คุณน้อง “กมลา” ยังมีอันต้อง “ดมฝุ่น” ได้จำนวนที่นั่งเพียงแค่ 224 ที่นั่งเท่านั้นเอง แม้แต่จำนวนที่นั่งใน “สภาสูง-สภาล่าง” ว่ากันว่าพรรครีพับลิกันกวาดไว้ได้ทั้งหมด สภาสูงนั้นเกินกว่า 51 เสียงไปเรียบร้อยแล้วส่วนสภาล่างขณะที่รีพับลิกันกวาดไป 194 เสียง เดโมแครตยังคงกระหืดกระหอบไล่ตามหลังอยู่ห่างๆ ได้เพียงแค่ 161 ที่นั่งอันต้องถือเป็นความพ่ายแพ้แบบ “รูดมหาราช” ของบรรดาพวก “ลิเบอร่าน” หรือพวกรัฐบาล “เสรีนิยม” ทั้งหลาย ที่ไม่ว่าจะในอเมริกา อังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมนี หรือแม้แต่คุณพี่ญี่ปุ่น-ยุ่นปี่ ฯลฯ คราวล่าสุด ต่างก็เป็นไปในลักษณะที่ไม่ได้ผิดแผกแตกต่างไปจากกันสักเท่าไหร่...

หรือพูดง่ายๆ ว่า...ชัยชนะของตัวแทนพรรครีพับลิกัน อย่าง “ทรัมป์บ้า” ที่แม้ว่าจะบ้าในหลายต่อหลายเรื่อง แต่ไม่ได้ถึงกับ “บ้าสงคราม” เหมือนอย่างคุณปู่ “โจ ซึมเซา” หรือคุณน้อง “กมลา” แห่งพรรคเดโมแครต ที่เป็นไปในลักษณะเดียวกันกับบรรดาพวก “พรมเช็ดเท้า” หรือพวกรัฐบาลเสรีนิยมใหม่ในยุโรปแต่ละประเทศเลยส่งผลให้ “ตลาดหุ้นรัสเซีย” ที่แม้ว่ายังต้องทำศึกสงครามแบบอุตลุดชุลมุนวุ่นวาย อยู่กับ “ตัวตลก-ตัวแทน” ของอเมริกาและตะวันตกอย่างยูเครนเลยพุ่งกระฉูดแบบอุจจาระแตก อุจจาระแตนไปแล้วก็ว่าได้เห็นว่า...หุ้นของบริษัทพลังงานอย่าง “Gazprom”, “Lukoil”, “Rosneft” ฯลฯ พุ่งขึ้นไปตั้งแต่ 5 เปอร์เซ็นต์ 2.8 เปอร์เซ็นต์ หรือ 3 เปอร์เซ็นต์ เอาเลยถึงขั้นนั้น แม้แต่บริษัทอะลูมิเนียม “Rusal” สายการบิน “Aeroflot” หรือกระทั่งบริษัทประเภท “Google” ของรัสเซียอย่าง “Yandex” ฯลฯ ยังพลอยได้รับอานิสงส์ไปด้วย หุ้นขึ้นตั้งแต่ 3.4 เปอร์เซ็นต์ 5.9 เปอร์เซ็นต์ ไปจนถึง 2.8 เปอร์เซ็นต์ อันเป็นไปดังที่หัวหน้าคณะที่ปรึกษาการลงทุนแห่งบริษัท “Alor Broker” ของรัสเซีย “นายAleksey Antonov” เขาได้ให้ข้อสรุปเอาไว้นั่นแหละว่า เพราะ “ชัยชนะของทรัมป์...คือความชั่วที่น้อยกว่าสำหรับประเทศรัสเซีย” จึงส่งผล ส่งอานิสงส์ให้หุ้นของบริษัทต่างๆ ในรัสเซีย เลยพุ่งกันระเบิดเถิดเทิงไปด้วยประการละฉะนี้...

แต่ก็นั่นแหละ...แม้ว่าชัยชนะของ “ทรัมป์บ้า” อาจพอช่วยลดๆ “กลิ่นอายสงคราม” ลงไปได้มั่งอย่างที่ว่าที่ประธานาธิบดีอเมริกันรายนี้ ได้เอ่ยปากไว้บนเวทีประกาศชัยชนะว่า “4 ปีนับจากนี้...เราจะไม่มีสงคราม!!!” แต่สำหรับการคิดที่จะ “จบสงครามรัสเซีย-ยูเครนภายใน 24 ชั่วโมง” ดังที่เคยป่าวประกาศไว้ก่อนหน้านั้น มันคงไม่ถึงกับ “ง่าย” กันสักเท่าไหร่นัก เพราะแม้แต่โฆษกเครมลิน “นายDmitry Peskov” ท่านก็ยังไม่ถึงกับคิดจะเชื่อว่า “ทรัมป์บ้า” จะมี “ไม้เท้าศักดิ์สิทธิ์” อันมีฤทธิ์มีเดช มีอานุภาพไปได้ถึงปานนั้น เช่นเดียวกับอดีตประธานาธิบดีและรองประธานสภาความมั่นคงแห่งชาติรัสเซีย “นายDmitry Medvedev” ที่ให้สัมภาษณ์นักข่าวโทรทัศน์ “Russia Today” “นายRory Suchet” เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาว่าแม้ “ทรัมป์บ้า” จะผงาดขึ้นมาเป็นประธานาธิบดีรายใหม่ของอเมริกา แต่ “เขาคงไม่ได้มีขีดความสามารถที่จะหยุดสงครามไม่ว่าภายใน 1 วัน 3 วัน 3 เดือน...และถ้าหากเขาพยายามที่จะทำเช่นนั้น เขาก็อาจต้องกลายเป็น JFK รายใหม่” หรืออาจต้องถูก “ลอบสังหาร” เป็นครั้งที่ 4 ด้วยความรู้เห็น-เป็นใจของบรรดาพวก “Deep State” หรือพวก “อุตสาหกรรมอาวุธ” ทั้งหลาย แบบเดียวกับอดีตประธานาธิบดีอเมริกา “John F. Kennedy” ผู้เคยคิดจะยุติ “สงครามเวียดนาม” นั่นแล!!!

ด้วยเหตุนี้...สิ่งที่รองประธานสภาความมั่นคงรัสเซียรายนี้ท่านพยายามชี้แนะ ชี้นำไว้ล่วงหน้า ว่าถ้าหาก “ประเทศตะวันตกโดยเฉพาะอเมริกามีความยืดหยุ่นและฉลาดพอ” ก็คือการหันมา “ยอมรับความจริง” ว่าความเป็นไปของโลกที่มันคงไม่มีวันเหมือนเดิมอีกต่อไปแล้ว เพราะระเบียบโลกแบบที่พวกตะวันตกเรียกว่า “rules-based order” นั้น มันไม่ได้มีเสถียรภาพในระดับโครงสร้างอีกต่อไปแล้ว และคงต้องหมดสภาพไปในอีกไม่นาน-ไม่ช้า หรือ “ระเบียบโลกแบบขั้วอำนาจเดียวที่ต้องหล่อเลี้ยงตัวเองเอาไว้ด้วยสงครามซึ่งอเมริกาพยายามปกป้องในทุกๆวิถีทางกำลังใกล้ถึงจุดอวสาน ขณะที่ระเบียบโลกแบบหลายขั้วอำนาจที่มีรัสเซียและกลุ่มประเทศ BRICS ได้เพียรพยายามผลักดัน ก็คือระเบียบโลกที่หมายถึงการติดต่อสัมพันธ์ระหว่างขั้วอำนาจที่มีความแตกต่างไปจากกัน และการสรรค์สร้างสมดุลแห่งอำนาจเพื่อรองรับระบบความสัมพันธ์ที่มีเสถียรภาพ” ขึ้นมาแทนที่...

หรือพูดง่ายๆ ว่า...ต้องหันมา “อยู่ร่วมกันโดยสันติ” กับรัสเซีย กับจีน หรือกับบรรดากลุ่มประเทศ “BRICS” ทั้งหลายนั่นเอง ไม่ใช่การคิดที่จะดำรงรักษา ความเป็น “American First” หรืออเมริกาต้องมาก่อน ต้องเหนือกว่าใครๆ ในโลก หรือแม้แต่การคิดที่จะนำพาอเมริกาไปสู่ยุคทอง หรือ “Golden age of America” ดังที่ “ทรัมป์บ้า” ได้ป่าวประกาศบนเวทีแห่งชัยชนะ ทั้งที่ตัวเองยังต้องยอมสารภาพในระหว่างให้สัมภาษณ์กับ “นายTucker Carlson” ต่อหน้าบรรดาผู้สนับสนุนในรัฐแอริโซนาก่อนหน้าการเลือกตั้งแค่ไม่กี่วัน ว่า... “เรากำลังเป็นรัฐที่ล้มเหลว เป็นรัฐที่กำลังเจอกับความเสื่อมถอยที่เป็นจริง-เป็นจังเอามากๆ” อันเนื่องมาจาก... “สิ่งที่รัฐบาลโง่ๆ กำลังทำอยู่ นั่นก็คือพวกเขายอมอนุญาตให้รัสเซีย-จีน-อิหร่าน-เกาหลีเหนือ และอื่นๆ ไปจับกลุ่มรวมตัวเป็นพวกเดียวกัน”...

ด้วยเหตุนี้...แม้ว่าจะไม่ได้ถึงกับ “บ้าสงคราม” แต่สิ่งที่ว่าที่ประธานาธิบดีอเมริกันรายใหม่กำลังคิดจะทำ และเปิดอก-เปิดใจไว้กับ “นายTucker Carlson” ก็ออกจะ “บ้า” มิใช่น้อย นั่นก็คือ.. .“ผมกำลังคิดจะทำให้พวกเขาไม่เป็นเอกภาพกัน และผมคิดว่าผมทำได้” หรือคิดจะ “ตอกลิ่ม” ให้เกิดความขัดแย้ง แตกแยก ระหว่างมหาอำนาจคู่แข่งอเมริกาอย่างจีนและรัสเซียนั่นเอง อันเป็นอะไรที่ตรงข้ามกับการคิดจะ “อยู่ร่วมกันโดยสันติ” หรือการร่วมสร้างสรรค์ระเบียบและกฎกติกาที่เหมาะสมสอดคล้องกับความเป็นไปของโลก ซึ่งเพรียกหาความถูกต้อง ยุติธรรม ความเท่าเทียมระหว่างชาติต่างๆ ไม่ว่าใหญ่หรือเล็กไม่ว่ามหาอำนาจ อภิมหาอำนาจ หรือประเทศเล็ก-ประเทศน้อยทั้งหลาย อันเป็นสิ่งที่รัสเซีย-จีนและบรรดาประเทศกลุ่ม “BRICS” ต่างพยายามนำเสนอและพยายามถักทอบูรณาการให้กลายเป็น “ระเบียบโลกแบบใหม่” ให้จงได้...

อันนี้นี่แหละ...ที่จะทำให้ “ความชั่วที่น้อยกว่า” ของอเมริกา ภายใต้การนำของว่าที่ประธานาธิบดีอเมริกันคนใหม่อย่าง “ทรัมป์บ้า” ดังที่หัวหน้าคณะที่ปรึกษาบริษัทการลงทุนของรัสเซียว่าไว้ จึงไม่ได้มีอะไรผิดแผกแตกต่างไปจากเดิมมากมายสักเท่าไหร่ หรืออย่างที่ “นายDmitry Medvedev” ได้สรุปไว้ก่อนหน้าผลการเลือกตั้งจะปรากฏนั่นแหละว่า... “สำหรับรัสเซียแล้ว การเลือกตั้งประธานาธิบดีอเมริกัน ไม่ได้เปลี่ยนอะไรได้เลย เพราะโดยจุดยืนของผู้สมัครชิงตำแหน่งทั้งคู่ ต่างอยากจะเห็นรัสเซียเป็นผู้แพ้” ไปด้วยกันทั้งสิ้น...

ด้วยเหตุนี้...ไม่ว่าจะเป็น “ติ่งทรัมป์” หรือ “ติ่งกมลา” ก็อย่าถึงกับต้องไปตื่นเต้ลล์ล์ล์ ดีใจ หรือตกอก ตกใจ อะไรกันมากมายเพราะไม่ว่าประธานาธิบดีอเมริกาจะเป็นใครก็ตามที แต่โลกใบนี้ย่อมไม่ได้เหมือนเดิม หรือไม่มีวันเหมือนเดิมอีกต่อไปแล้วไม่ได้เป็น “โลกของอเมริกา” หรือโลกที่อเมริกาสามารถควบคุม ครอบครอง อะไรต่อมิอะไรได้ง่ายๆ ดังที่แม้แต่อดีตประธานเสนาธิการทหาร 2 ยุค 2 สมัยของอเมริกา “พลเอกMark Milley” ต้องออกมาสารภาพต่อหน้าบรรดานายธนาคารที่กรุงนิวยอร์กเมื่อช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมานั่นแหละว่า. ..“เรากำลังอยู่ในโลกแบบหลายขั้วอำนาจ” อันเนื่องมาจากความหมายของคำว่า “อภิมหาอำนาจ” ในโลกใบนี้ ไม่ได้มีเพียงแค่ประเทศอเมริกาหลังจากช่วงสงครามเย็นยุติลงไปแล้ว แต่ยังมีทั้งจีนและรัสเซียที่มีศักยภาพในทางเศรษฐกิจ หรือทางการทหาร มากพอที่จะถือเป็นอภิมหาอำนาจไม่น้อยไปกว่า 3 รายด้วยกันการหาทาง “อยู่ร่วมกันโดยสันติ” หรือการสร้าง “สมดุลทางอำนาจ” จึงน่าจะเป็นทางออก-ทางไปที่เหมาะสม สอดคล้องกับความเป็นไปของโลก มากกว่าการคิดที่จะทำให้ “America First” ไปโดยตลอดอยู่แล้วแน่ๆ!!!