เปิดฉากสัปดาห์นี้...ก่อนอื่นคงต้องขออนุญาตแสดงความ “อำลา-อาลัย” ต่อคุณพี่ “โสภณ องค์การณ์” ที่ได้จากไปโดยสงบเมื่อช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา และด้วยเหตุที่ “สุขภาพ” สังขาร-ร่างกายของ “อันตัวข้าพเจ้าเอง” ไม่ได้เอื้ออำนวยให้พอที่จะไปร่วมแสดงความอำลา-อาลัยในพิธีศพของคุณพี่เขา เลยคงต้องอาศัยพื้นที่ช่วงต้นๆ ของคอลัมน์นี้ แสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อความสูญเสียดังกล่าว ไม่ว่าต่อญาติมิตร พี่ๆ-น้องๆ เพื่อนฝูงใกล้ชิด ตลอดไปจนถึงบรรดาแฟนคลับของคุณพี่เขาที่คงอดจะใจหายวูบโหวงๆ เหวงๆ เช่นเดียวกับตัวเรา อย่างมิอาจปฏิเสธได้เลย...
เฮ้ออ์อ์อ์...เอาเป็นว่า ไม่ว่า “อนิจจาโลกา ณ ครานี้” มันจะไปถึงไหนต่อถึงไหน คุณพี่ “โสภณ องค์การณ์” ท่านคงพอได้รับรู้ รับทราบ ขณะที่มองลงมาจากสถานที่สุคติแห่งหนึ่ง แห่งใด อยู่แล้วแน่ๆ แต่สำหรับผู้ที่ยังไม่ได้ “โชคดี...ที่ตายก่อน” อย่างบรรดาเราๆ-ทั่นๆ ทั้งหลายนี่สิ!!! คงมีแต่ต้อง “รอลุ้น” และต้องคอย “สวดมนต์-ภาวนา” กันไปตามสภาพ ด้วยเหตุเพราะความ “ทรหวลปั่นป่วนคลั่ง” แห่งความเป็นไปของโลก มันทำให้โอกาส “ความเป็นไปได้” ของความฉิบหายวายวอด ระดับ “ไฟนรกสุดขอบฟ้า” เจิดจ้าขึ้นมาในแนวรบหนึ่ง-แนวรบใด ไม่ว่า “แนวรบยุโรปตะวันออก” ที่มีรัสเซียกับยูเครนเป็นศูนย์กลาง “แนวรบตะวันออกกลาง” ที่มีการแก้แค้น-เอาคืนระหว่างอิสราเอลกับอิหร่านเป็นโจทย์ใหญ่ ไปจนถึง “แนวรบในทะเลจีนใต้” ที่ไม่เพียงการซ้อมรบของคุณพี่จีนทำให้พวกคิดจะแบ่งแยกดินแดนในเกาะไต้หวัน ไปจนถึงบรรดาผู้สนับสนุนต้องหันมา “ชั่งน้ำหนัก” ว่าจะยกระดับไปถึงขั้น “บุก-ไม่บุก” กันเลยหรือไม่? อย่างไร? แถมยังตามมาด้วยบรรยากาศคันไม้-คันมือ ระหว่างเกาหลีเหนือ-เกาหลีใต้ ขึ้นมาอีกซะด้วย อะไรต่อมิอะไรเหล่านี้นี่เอง...ที่ทำให้ผู้บรรดาที่ยังไม่ได้ “โชคดี...ที่ตายก่อน” ทั้งหลาย หนีไม่พ้นต้องใจตุ๊มๆ ต่อมๆ กันไปตามสภาพ...
เพราะโดยลักษณะอาการของโลก ที่ไม่ต่างอะไรไปจาก “ถังดินระเบิด” ดังที่เลขาธิการสหประชาชาติท่านอุปมา-อุปไมยไว้เมื่อไม่นานมานี้ แถมยังมี “เด็กที่ชอบเล่นไม้ขีดไฟ” คอยจุดโน่น จุดนี่ อย่างสนุกคะนองเสียเหลือเกิน จนบรรดา “กลไก” ต่างๆ ที่อาจเป็นตัวช่วยถ่วง ช่วยรั้ง ให้เกิดการแสวงหาทางออก-ทางไป ในการพูดคุย เจรจา หรือทางการเมือง-การทูต ต่างแทบไม่หลงเหลือประสิทธิภาพ พอที่จะช่วยคลี่คลายปัญหาช่วยบรรเทา “ความขัดแย้ง” แต่ละเรื่อง แต่ละกรณี ให้ทุเลาเบาบางลงไปได้มั่ง การเดินทางไปเยือนประเทศเยอรมนีของคุณปู่ “โจ ซึมเซา” ผู้นำอเมริกัน เมื่อวันศุกร์ที่ 18 ต.ค.ที่ผ่านมา เพื่อพบปะกับผู้นำพันธมิตร 3 ประเทศ คืออังกฤษ ฝรั่งเศส และเยอรมนี ตามที่หนังสือพิมพ์ “Le Monde” ของฝรั่งเศส ได้ระบุไว้เมื่อช่วงวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (20 ต.ค.) มันจึงไม่ได้ “ส่งสัญญาณ” ถึงการแสวงหาทางออก-ทางไปอันจะนำมาซึ่งการยุติความขัดแย้งระหว่าง “รัสเซีย-ยูเครน” เอาเลยแม้แต่น้อย แต่กลับหนักไปทางการ “โหมฟืน-โหมไฟ” นำไปสู่การร่วมพบปะประชุมของ “รัฐมนตรีกลาโหม NATO” ที่ไม่ต่างอะไรไปจากการร่วมสมคบคิด วางแผนที่จะสู้กับรัสเซียให้ฉิบหาย-วายวอดกันไปข้าง!!!
ขณะที่รัฐมนตรีต่างประเทศอเมริกา “นายAntony Blinken” เดินทางไปเยือนอิสราเอลเพื่อพบปะกับนายกรัฐมนตรี “Benjamin Netanyahu” เป็น “ครั้งที่ 10” ไปแล้วก็ว่าได้ นับจากเกิดการปะทะขัดแย้งระหว่างอิสราเอล-ฮามาส เป็นต้นมา และบรรยากาศของการพบปะเช่นนี้ ก็แทบไม่ได้ช่วยให้ความสับสนอลหม่าน ในตะวันออกกลางผ่อนคลายลงมาบ้างเลย ตรงกันข้าม..กลับยิ่งก่อให้เกิดความขมึงตึงเครียดยิ่งขึ้นไปอีก โดยเฉพาะเมื่อรัฐมนตรีต่างประเทศอเมริกาและผู้นำอิสราเอล ออกมาป่าวประกาศถึง “ความร่วมมือ” ในการเผชิญหน้ากับพี่เบิ้มในตะวันออกกลางอย่างอิหร่าน หรือเป็นไปดังที่รัฐมนตรีกลาโหมอิสราเอล “นายYoav Gallant” ได้ออกมาชี้แนะ ชี้นำ “รัฐบาลอเมริกันเชื้อสายยิว” เอาไว้ก่อนล่วงหน้านั่นแหละว่า “อเมริกา...ควรที่จะยืนเคียงข้างอิสราเอลขณะที่เกิดการโจมตีอิหร่าน” ดังนั้น...ถึงแม้ “การแก้แค้น-เอาคืน” ต่ออิหร่าน ในกรณีการสาดจรวด “Hypersonic” นับร้อยๆ ลูกเข้าใส่อิสราเอลเมื่อช่วงวันที่ 1 ต.ค.ที่ผ่านมา จะถูก “ยืดเวลา” ออกไป ไม่ว่าด้วยสาเหตุเพราะ “ข่าวรั่ว” หรือเพราะเหตุใดๆ ก็ตามที แต่ก็ไม่ได้ทำให้การคิดที่จะ “ขยายวงสงคราม” ของอิสราเอล ด้วยการเล่นงานอิหร่านก่อนหน้าวันเลือกตั้งประธานาธิบดีอเมริกา (5 พ.ย.) ดังที่ได้เคยคุยโม้-คุยโตไว้ก่อนหน้านี้เกิดการ “ลดความเป็นไปได้” ลงไปเลยแม้แต่น้อย...
ซึ่งก็แน่ล่ะว่า...ฝ่ายอิหร่านเขาย่อมหนีไม่พ้นต้องเก็ง “หมัดน็อก” หรือ “หมัดสวน” เอาไว้แล้วเต็มที่ ชนิดแม้แต่สื่ออิสราเอลอย่าง “The Jerusalem Post” ยังต้องหันไป “อ้างแหล่งข่าว” จากเจ้าหน้าที่ระดับสูงของ “IRGC” (Islamic Revolutionary Guard Corps) ของอิหร่าน ว่าถ้าหากถูกโจมตีแหล่งน้ำมัน หรือสิ่งอำนวยความสะดวกโครงการนิวเคลียร์ขึ้นมาเมื่อไหร่? โอกาสที่ฝ่ายอิหร่านและพันธมิตรแห่งการต่อต้าน จะสาดจรวด “Hypersonic” ประมาณ 1,000 ลูกเป็นอย่างน้อย ไม่ใช่แค่ 180-200 ลูกเหมือนครั้งก่อน เข้าใส่แหล่งพลังงาน ศูนย์กลางการค้าของอิสราเอล ฯลฯ แถมยังอาจเข้าแทรกแซงการขนส่งพลังงานในอ่าวเปอร์เซีย หรือ “ปิดช่องแคบ Hormuz” ย่อมเป็นไปได้ทุกเมื่อ ฯลฯ อันนี้นี่แหละ...ที่ใครซึ่งยังไม่ได้ “โชคดี...ที่ตายก่อน” ย่อมมีโอกาสเจอะเจอกับราคาน้ำมันระดับ 120 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้เอาเลย...
ส่วนใครที่ยังหวังๆ ไว้เล็ก-น้อยๆ...ว่าการเลือกตั้งประธานาธิบดีอเมริกัน ผู้นำโลกรายใหม่ ที่กำลังจะมาถึงในอีกแค่ไม่กี่วันนับจากนี้ อาจพอช่วยๆ อะไรได้มั่ง โดยเฉพาะเมื่อผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีอย่าง “ทรัมป์บ้า” ออกมาย้ำแล้ว ย้ำอีก ถึงภารกิจในการป้องกันไม่ให้ “สงครามโลกครั้งที่ 3” อุบัติขึ้นมา โดยมีสถานการณ์ในยุโรป หรือตะวันออกกลางเป็นตัว “จุดชนวน” ก็แล้วแต่ อีกทั้งถ้าว่ากันตาม “โพล” ของสำนัก “Election Betting Odds” คราวล่าสุด ก็อาจพอหวังๆ ได้บ้าง เพราะจำนวน “คะแนนนิยม” ของ “ทรัมป์บ้า” ในบรรดารัฐ “Swing States” ทั้งหลาย ไม่ว่าแอริโซนา จอร์เจีย นอร์ท แคโรไลนา เพนซิลเวเนีย เนวาดา มิชิแกน และวิสคอนซิน ต่างออกไปทาง “นอนมา” โดยไม่ต้องมีพระสวดนำหน้า เหนือกว่าคู่แข่งอย่างนาง “กมลา แฮร์ริส” หลายต่อหลายเท่า แต่ก็นั่นแหละ...ขึ้นชื่อว่า “โพล” ยอมพลิกได้ เปลี่ยนได้เสมอๆ อีกทั้งบางโพลยังหันไปให้ผู้สมัครเดโมแครต มีคะแนนนำหน้าพรรครีพับลิกันอีกด้วยต่างหาก...
โดยถ้าเกิดการ “หักปากกาเซียน” ขึ้นมาจริงๆ...หรือผู้สมัครพรรคเดโมแครตอย่างนาง “กมลา” เกิดนอนมากันแทนที่ แนวโน้มที่อะไรต่อมิอะไรมันอาจเป็นไปดังที่อดีตผู้สมัครชิงตำแหน่งอิสระอย่าง “นายRobert F. Kennedy Jr.” ออกมาป่าวประกาศผ่านวิดีโอเมื่อช่วงวันพฤหัสฯ ที่ผ่านมา (24 ต.ค.) ว่า...การโหวตให้กับนาง “กมลา” วันนี้ ไม่ต่างไปจากการโหวตให้อดีตรองประธานาธิบดี “ดิ๊ก เชนีย์” ยุครัฐบาลจอร์จ ดับเบิลยู. บุช ผู้เคยโกหกเรื่อง “อาวุธทำลายล้าง” จนก่อให้เกิด “สงครามอิรัก” ที่ส่งผลให้ผู้คนต้องล้มตายนับเป็นล้านๆ นั่นเอง เพียงแต่คราวนี้อาจ “หนักกว่า” เพราะมีสิทธิกลายเป็น “สงครามนิวเคลียร์” ที่ “ผู้คนไม่น่าจะต่ำกว่า 5.8 พันล้านคน ต้องล้มตายภายในเวลาไม่เกิน 2 ชั่วโมง” ส่วนผู้ที่เหลือรอดจะกลายเป็นผู้ที่หนีไม่พ้นต้องหันไปอิจฉาผู้ที่โชคดี...ที่ตายก่อน อันเนื่องมาจากความทุกข์ทรมานจากสงครามประเภทนี้!!!
แต่ก็นั่นแหละ...ใช่ว่าถ้าหาก “ทรัมป์บ้า” ผงาดขึ้นมาเป็นผู้นำโลก เป็นประธานาธิบดีอเมริกาได้อีกครั้ง อีกครา โลกจะหวนกลับมาสู่ความสงบ สู่สันติภาพกันได้ง่ายๆ โดยเฉพาะถ้าหากอิสราเอลเกิดโจมตีคลังน้ำมัน ศูนย์นิวเคลียร์ของอิหร่านก่อนวันเลือกตั้งประธานาธิบดีอเมริกันขึ้นมาจริงๆ หรือขณะที่ผู้นำอเมริกันอย่าง “โจ ซึมเซา” ยังคงมี “อำนาจตัดสินใจ” ก่อนที่พิธีสาบานตัวขึ้นเป็นประธานาธิบดีคนใหม่จะเริ่มต้นในอีก 3-4 เดือนข้างหน้า โอกาสที่ประธานาธิบดีอเมริกันไม่ว่าจะเป็น “ทรัมป์บ้า” หรือนาง “กมลา” ก็แล้วแต่ มีแต่ต้อง “ตกกระไดพลอยโจน” หรือต้องเดินไปตามแนวทางที่ประธานาธิบดีคนก่อนได้วางเอาไว้แล้วล่วงหน้า อย่างมิอาจหลีกเลี่ยงและปฏิเสธได้ ก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้เอาเสียเลย...
และอาจด้วยเหตุนี้นี่เอง...ที่ทำให้ผู้นำประเทศเบลารุส พันธมิตรรายสำคัญของรัสเซีย อย่างประธานาธิบดี “Alexander Lukashenko” ท่านเลยต้องเปิดอก เปิดใจ พูดกับสำนักข่าว “VGTRK” ของรัสเซีย ระหว่างการเข้าร่วมประชุมกลุ่มประเทศ “BRICS” เมื่อช่วงวันพุธที่ผ่านมา (23 ต.ค.) แบบชนิดตรงไป-ตรงมา ด้วยข้อสรุปที่ว่า...การเลือกตั้งประธานาธิบดีอเมริกาคราวนี้คือ “การเลือกตั้งที่น่าสยดสยองและโง่เง่า” อันเนื่องมาจากผู้ชิงตำแหน่งประธานาธิบดีทั้งสองไม่ว่าจะเป็น “ทรัมป์บ้า” หรือ “กมลา แฮร์ริส” ก็ตาม ต่างก็ “Idiots” หรือโง่เง่า เต่าตุ่นไปด้วยกันทั้งคู่!!! จริง-ไม่จริง เชื่อ-ไม่เชื่อ ก็ลองเอาหัวสมองหรือหัวแม่เท้า ตรองดูเอาเองก็แล้วกัน...