อุบัติเหตุทางรถยนต์ทำให้มีผู้เสียชีวิต และบาดเจ็บเกิดขึ้นบ่อยในประเทศไทย จนคนเคยชินเมื่อได้ยินข่าวทำนองนี้ โดยเฉพาะเทศกาลปีใหม่และเทศกาลสงกรานต์
โดยปกติอุบัติเหตุทางรถยนต์จะเกิดจากสาเหตุหลักคือ
1. คนขับเสพสิ่งเสพติดจนมึนเมา และเกิดความขาดสติ ขับรถเร็วทำให้เกิดอุบัติเหตุ
2. รถอยู่ในสภาวะไม่พร้อมใช้งานได้อย่างปลอดภัย เกิดจากสภาพเก่าใช้งานมานาน และการบำรุงรักษาให้อยู่ในสภาพที่พร้อมต่อการใช้งาน หรือมีการดัดแปลงสภาพรถให้ผิดแผกไปกว่าที่ผู้ผลิตกำหนด
3. ถนนชำรุดเสียหายไม่ปลอดภัยต่อการขับขี่หรืออยู่ในระหว่างซ่อม และผู้รับเหมาไม่ป้องกันอุบัติเหตุ โดยการวางไฟสัญญาณเตือนก่อนถึงบริเวณก่อสร้าง ทำให้ผู้ขับขี่ชนสิ่งกีดขวางหรือตกหลุมที่ขุดไว้
ดังนั้น ในทุกปีโดยเฉพาะในเทศกาลปีใหม่ และเทศกาลสงกรานต์จะเกิดอุบัติเหตุและทำให้มีการเสียชีวิต และบาดเจ็บจำนวนมากจนเป็นเรื่องปกติ และเกิดความรู้สึกว่าเป็นเรื่องปกติเมื่อได้ยินหรือได้อ่านข่าวทำนองนี้
แต่อุบัติเหตุที่เกิดกับรถบัสที่บรรทุกครูและนักเรียนไปทัศนศึกษา ทำให้ครูและนักเรียนเสียชีวิต 32 คน และบาดเจ็บนับสิบคน ไม่อาจพูดได้ว่าเป็นเรื่องปกติและปล่อยไปโดยไม่ทำการศึกษาสาเหตุ และวางแนวทางป้องกัน ทั้งนี้เนื่องจากเหตุปัจจัยดังต่อไปนี้
1. รถคันที่เกิดอุบัติเหตุมีอายุการใช้งานนานถึง 54 ปี และได้มีการดัดแปลงสภาพจากการใช้น้ำมันมาเป็นก๊าซเอ็นจีวี โดยมีการติดตั้งถังก๊าซจำนวน 11 ถังและกระจายอยู่ใต้ท้องรถ
ดังนั้น เมื่อก๊าซถังใดถังหนึ่งชำรุด และมีก๊าซรั่วไหลออกมากระทบกับประกายไฟอันเกิดจากการเสียดสีหรือจากท่อไอเสียก็จะเกิดการระเบิดลุกไหม้ พร้อมกับลุกไหม้ท่วมตัวรถ เนื่องจากก๊าซเอ็นจีวีเบากว่าอากาศ เมื่อเกิดการรั่วก็จะลอยขึ้นข้างบนจึงทำให้เกิดการลุกไหม้อย่างรวดเร็วและรุนแรงยากแก่การหนีเอาตัวรอด
2. คนขับน่าจะประมาทขับรถเร็วจึงทำให้รถเสียการทรงตัว และไปกระแทกสิ่งกีดขวางทางให้ถังก๊าซชำรุด และก๊าซรั่วไหลออกมาจนเป็นเหตุให้เกิดเพลิงไหม้ทำให้คนตาย และได้รับบาดเจ็บดังกล่าว
ส่วนการป้องกันทำได้โดยกำชับให้กรมการขนส่งทางบกควบคุมการตรวจสภาพให้รอบคอบ รัดกุม และที่สำคัญจะต้องไม่เรียกรับเงินเพื่อแลกกับการทำผิดกฎหมาย
ในส่วนของคนขับป้องกันได้โดยให้ผู้ขับขี่รถรับจ้างสามารถต้องตรวจร่างกายทุกปี และหากพบว่า ร่างกายไม่พร้อมจะขับรถให้ยกเลิกใบอนุญาต
ในส่วนของถนนค่อนข้างจะป้องกันยาก เนื่องจากมีพื้นที่กว้างและเกี่ยวข้องกับเอกชนที่รับเหมาซ่อมถนนไม่ปฏิบัติตามที่ทางการกำหนดเช่น ไม่ตั้งไฟสัญญาณเตือนก่อนถึงบริเวณก่อสร้าง และขุดถนนแล้วไม่ปรับพื้นที่ให้อยู่ในสภาพปกติเหมือนเดิม เป็นต้น
ในปัจจัย 3 ประการนี้ คนขับสำคัญที่สุดเพราะคนขับรถก่อนนำรถออกวิ่งก็จะต้องตรวจความเรียบร้อย และศึกษาเส้นทางที่จะไปว่าสภาพถนนเป็นอย่างไร ใช้ความเร็วได้ในระดับใด จึงจะปลอดภัย
ส่วนในกรณีของโรงเรียนถ้าจะนำเด็กออกไปทัศนศึกษา จะต้องรอบคอบรัดกุมในการจัดหารถ ทั้งในส่วนของสภาพรถ และพฤติกรรมคนขับว่าเป็นคนอย่างไร ก่อนจะตัดสินจ้างมาให้บริการก็จะช่วยให้เกิดความปลอดภัยได้ในระดับหนึ่ง