เปิดฉากสัปดาห์นี้...คงหนีไม่พ้นต้องไป “รอลุ้น” และ “สวดมนต์-ภาวนา” ควบคู่กันไปด้วยนั่นแหละทั่น!!! สำหรับกรณีการ “แก้แค้น-เอาคืน” ของอิสราเอล ต่อการที่อิหร่านเขาสาดจรวด “Hypersonic” เกือบ 200 ลูก เจาเกราะเหล็ก “Iron Dome” เข้าไปถล่มสนามบินกองบัญชาการทหาร และศูนย์ข่าวกรอง ฯลฯ ในดินแดนอิสราเอล ชนิดแทบราบเป็นหน้ากลองเมื่อช่วงวันที่ 1 ต.ค.ที่ผ่านมา ว่าจะเป็นแค่การ “แก้เกี้ยว-แก้หน้า” หรือถึงขั้นคิดจะ “จุดไฟนรกสุดขอบฟ้า” ขึ้นมาในแนวรบตะวันออกกลางหรือไม่? อย่างไร?
คือถ้าว่ากันตามคำพูด คำขู่ ของรัฐมนตรีกลาโหมอิสราเอล “นายYoav Gallant” ที่ออกมาป่าวประกาศว่าจะโจมตีกันแบบ “D-P-S” เอาเลยถึงขั้นนั้น หรือให้ต้องตายโหง-ตายห่า เลือดนองท้องช้าง (Deadly) ให้มากๆ เข้าไว้ และให้เจาะทะลวงด้วยความแม่นยำไปยังเป้าหมายต่างๆ (Pinpoint Accurate) รวมทั้งให้เกิดความตื่นตะลึงพรึงเพริด ความประหลาดใจ (Surprise) ต่อฝ่ายตรงข้าม ชนิดได้แต่อ้าปากหวอทำอะไรแทบไม่ได้ โดยจะเป็นการมุ่งโจมตีไปที่คลังและแหล่งผลิตน้ำมันหรือศูนย์อำนวยความสะดวกด้านนิวเคลียร์ หรือหน่วยบัญชาการทางทหารแห่งหนึ่ง-แห่งใดฯลฯ ก็ยังไม่เป็นที่ชัดเจน แม้จะมีข่าวว่าผู้สนับสนุนรายใหญ่อย่างคุณพ่ออเมริกา “ขอร้อง” ให้หลีกเลี่ยงการโจมตี 2 เป้าหมายแรกไปแล้วก็ตาม...
ส่วนถ้าว่ากันตาม “รายงานข่าว” ของสำนักข่าว “ABC News” เมื่อช่วงวันพฤหัสฯ ที่แล้ว (17 ต.ค.) เห็นว่า...ไอ้เหี้ยย์ย์ย์มม์ม์ม์อย่าง “นายBenjamin Netanyahu” นายกรัฐมนตรีอิสราเอลได้ลงนามอนุมัติการถล่ม “เป้าหมาย” ต่างๆ ในอิหร่านไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยจะเริ่มลงมือ-ลงตีนกันในเมื่อไหร่? ตอนไหน? ยังไม่เป็นที่แจ้งชัด แต่คาดๆ กันว่า...น่าจะก่อนการลงคะแนนเสียงเลือกตั้งชิงตำแหน่งประธานาธิบดีอเมริกัน ในวันที่ 5 พฤศจิกายนที่จะถึงนี้ ส่วนจะนำมาซึ่งฉากเหตุการณ์แบบ “เปรี้ยงๆ...ดังเสียงฟ้าฟาด โครมๆ...พินาศพังสลอน” ไปถึงขั้นไหนต่อขั้นไหน อันนี้นี่แหละ...ที่ยากจะจินตนาการ ยากที่จะฟันธง-ฟันเฟิร์มเอาไว้ก่อนล่วงหน้า เหลือแต่ต้องคอยสวดมนต์-ภาวนาและรอลุ้นกันไปตามสภาพ...
เพราะอย่างที่รู้ๆ กันอยู่แล้วนั่นแหละว่า...อิหร่านนั้น เขาก็ใช่ว่าจะไร้มือ-ไร้ตีน หรือคิดจะเอามือ-เอาตีน “ซุกหีบ” ไว้เฉยๆ ต่อความเพียรพยายาม “ยกตีนลูบหน้า” ของอิสราเอลต่ออิหร่านและบรรดาพันธมิตรทั้งหลายชนิดคราวแล้ว-คราวเล่า ไม่ว่าการบุกเข่นฆ่า ล้างเผ่าพันธุ์ ชาวมุสลิมในปาเลสไตน์ไปแล้วกว่า 42,000 คน การลอบฆ่า ลอบสังหาร ผู้นำ “Hamas” ถึงในดินแดนอิหร่าน เล่นงานเจ้าหน้าที่ระดับสูงทางทหารอิหร่านไปแล้วไม่รู้จะกี่คนต่อกี่คน ใช้ระเบิดทะลวงบังเกอร์ปลิดชีพผู้นำ “Hezbollah” พันธมิตรรายสำคัญของอิหร่านในเลบานอน และล่าสุดเห็นว่า...ยังตามไปเด็ดหัวผู้นำ “Hamas” ที่เพิ่งขึ้นมาสืบทอดรายใหม่ “นายYaha Sinwar” ชนิดไม่คิดจะให้เหลือเสี้ยนหนาม เศษซาก ฯลฯ การกระทำเหล่านี้จึงย่อมส่งผลอย่างที่รัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่าน “นายAbbas Araghchi” เลยต้องโทร.ไปตอกย้ำความเข้าใจกับเลขาธิการสหประชาชาติ “นายAntonio Guterres” เมื่อช่วงวัน-สองวันที่ผ่านมานั่นแหละว่า... “อิหร่านไม่ต้องการสงคราม แต่ก็พร้อมที่จะตอบโต้อย่างแน่วแน่และสร้างความโทมนัสให้กับใครก็ตามที่คิดโจมตีอิหร่าน โดยได้เตรียมพร้อมแบบเต็มอัตราศึกเพื่อรับมือต่อเหตุการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้น”...
ไม่เพียงแต่การโทรศัพท์ไป “เคลียร์” กับเลขาธิการสหประชาชาติเท่านั้น...รัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่านเขายังออก “เดินสาย” ไปคุยกับรัฐมนตรีต่างประเทศฝรั่งเศส ไปเยือนประเทศโลกมุสลิมด้วยกันไม่ว่าเลบานอน ซีเรีย ซาอุดีอาระเบีย กาตาร์ อิรัก จอร์แดน โอมาน อียิปต์ ตุรเคีย ฯลฯ เพื่อชี้ให้เห็นถึงความ “ถูกต้อง-ชอบธรรม” ของอิหร่าน ในการรับมือกับความก้าวร้าว ความกระเหี้ยนกระหือรือของอิสราเอล ที่เพียรพยายามจะ “จุดไฟนรกสุดขอบฟ้า” ขึ้นมาในแนวรบตะวันออกกลางให้จงได้และที่สำคัญเอามากๆ ก็คือ...การพบปะกันครั้งแรกระหว่างประธานาธิบดีคนใหม่ของอิหร่าน “นายMasoud Pezeshkian” กับผู้นำรัสเซีย ประธานาธิบดี “ปูติน” มหาอำนาจคู่แข่งของคุณพ่ออเมริกาที่เมือง “Ashgabat” ประเทศเติร์กเมนิสถาน เมื่อช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ที่ผู้รู้ ผู้เชี่ยวชาญ อย่าง “นายFarhad Ibragimov” แห่ง “The Faculty of Economics of RUDN University” ผู้บรรยายพิเศษแห่งสถาบัน “The Institute of Social Sciences of Russian Presidential Academy of National Economy and Public Administration” ถึงกับเรียกขานเอาไว้ว่า ถือเป็นการก่อรูป ก่อร่าง ของสิ่งที่เรียกว่า “New Axis of influence” หรือพันธมิตรใหม่ผู้ทรงอิทธิพลและอำนาจ เอาเลยถึงขั้นนั้น...
และจะด้วยเหตุนี้หรือไม่? อย่างไร? คงต้องไปคิดๆ กันเอาเอง...ที่ทำให้ฝ่ายรัสเซียซึ่งเคยพยายามระมัดระวังต่อการกำหนดบทบาทความสัมพันธ์กับอิสราเอลมาโดยตลอด เลยต้องออกมา “เตือน” ดังๆ ไว้ก่อนล่วงหน้า ไม่ว่าโดยรัฐมนตรีต่างประเทศ “Sergey Lavrov” หรือรัฐมนตรีช่วย “Sergey Ryabkob” ว่าถ้าอิสราเอลคิดโจมตีสิ่งอำนวยความสะดวกด้านนิวเคลียร์ของอิหร่านอันมีจุดมุ่งหมายเพื่อพลเรือนไม่ใช่ทางการทหาร ย่อมมีสิทธินำมาซึ่งฉากสถานการณ์ระดับ “กลียุค” ได้ทุกเมื่อ!!! หรืออาจส่งผลให้พันธมิตรอิหร่านอย่างรัสเซีย ย่อมไม่อาจ “เอามือซุกหีบ” ได้อีกต่อไปเอาเลยก็ไม่แน่???
แม้ว่าพันธมิตรของอิสราเอลอย่างคุณพ่ออเมริกา จะพยายามปกป้องอิสราเอลแบบชนิด “ไข่ในหิน” เพียงใดก็ตาม ไม่เพียงส่งเรือบรรทุกเครื่องบิน 2 ลำ กองเรือประมาณ 1 ใน 3 ของกองทัพเรืออเมริกัน ไปคอยช่วยปัดโดรน ปัดจรวด ที่สาดใส่ไปยังดินแดนอิสราเอลในแนวรบแต่ละด้าน ล่าสุด...ยังส่งระบบป้องกันภัยทางอากาศ “THAAD” พร้อมทหารอเมริกันเข้าไปในอิสราเอลเป็นครั้งแรก แถมยังส่งเครื่องบินทิ้งระเบิดล่องหน “B-2 Stelh” เข้าไปหย่อนระเบิดทะลวงบังเกอร์ (GBU-57) ใส่หัวพวกนักรบเยเมน พันธมิตรอีกรายของอิหร่านที่เมือง “Saada” ตูมแล้ว ตูมเล่า ชนิดรัฐมนตรีกลาโหมอเมริกา “พลเอกLloyd Austin” ต้องหยิบมาคุยโม้ คุยโต ถึงแสนยานุภาพของอเมริกาในการปกป้องอิสราเอลแบบ “แตะเธอเมื่อไหร่...โลกแตกแน่” อะไรประมาณนั้น...
ด้วยเหตุนี้...การตอบโต้ แก้แค้น-เอาคืน ระหว่างอิสราเอลและอิหร่าน จึงอาจนำมาซึ่งการปะทะ การเผชิญหน้าโดยตรงระหว่าง “มหาอำนาจสูงสุดของโลก” อย่างอเมริกากับ “มหาอำนาจคู่แข่ง” อย่างรัสเซีย ตลอดไปจนคุณพี่จีนที่กำลังทำให้การซ้อมรบ “Joint Sword-2024 B” รอบๆ เกาะไต้หวัน สร้างความหวาดผวาให้กับบรรดาทหารไต้หวันถึงขั้นต้องคิดๆ ไว้ก่อนล่วงหน้าว่า อาจยกระดับไปสู่การ “บุกโจมตีเต็มขั้น” (Full out Attack) ขึ้นมาเมื่อไหร่ก็ย่อมได้ หรืออาจทำให้ “การชี้วัดตัดสิน” กันด้วย “กำลังทหาร” ระหว่างพวก “โลกขั้วอำนาจเดียว” กับ “โลกหลายขั้วอำนาจ” กลายเป็นสิ่งที่จำต้องอุบัติขึ้นมา ในอีกไม่ช้า-ไม่นาน หรืออีกไม่ใกล้-ไม่ไกลนับจากนี้ เอาเลยก็เป็นได้!!!
เพราะอย่างที่ “ศาสตราจารย์Joe Siracusa” นักรัฐศาสตร์และคณบดี “Global Futures” แห่ง “Curtin University” ได้ตั้งข้อสังเกตต่อสำนักข่าว “Sputnik” เมื่อช่วงวัน-สองวันมานี้นั่นแหละว่า ภายในช่วงระยะเวลาประมาณ 4 เดือนที่ยังเหลืออยู่ของผู้เฒ่าเอ๋อ คุณปู่ “โจ ซึมเซา” ผู้นำอเมริกา ประธานาธิบดีผู้นี้ยังมี “อำนาจตัดสินใจ” ในระดับ “make major decisions that can never be overturned” หรือที่อาจก่อให้เกิดเหตุการณ์อันมิอาจย้อนกลับมาได้ดังเดิม ไม่ว่าจะเป็นการอนุมัติให้ “ตัวตลก-ตัวแทน” อย่างยูเครน ใช้ขีปนาวุธพิสัยไกลที่สหรัฐฯ มอบให้ ยิงลึกเข้าไปในดินแดนรัสเซีย อันถือเป็นการละเมิดเส้นตายและล่วงละเมิด “หลักนิยมนิวเคลียร์” ของรัสเซียที่เพิ่งได้รับการปรับปรุงใหม่ หรือตัดสินใจให้อิสราเอลเปิดฉากถล่มอิหร่านโดยไม่จำเป็นต้องยั้งมือ-ยั้งตีนอีกต่อไป...
โดยที่การตัดสินใจในเรื่องราวเหล่านี้นี่เอง...ที่จะกลายเป็นตัว “บีบบังคับ” ให้ประธานาธิบดีอเมริกันรายใหม่ ไม่ว่าจะเป็น “ทรัมป์บ้า” หรือ “นางกมลา แฮร์ริส” ก็ตามแต่ หนีไม่พ้นต้อง “แบกรับ” ผลพวงแห่งการตัดสินใจในลักษณะเช่นนี้ อย่างมิอาจหลีกเลี่ยงไปเป็นอื่น หรือหนีไม่พ้นต้องตกกระไดพลอยโจน ต้องโดดเข้าร่วมวงใน “อภิมหาสงคราม” อันจะหมายถึง “สงครามโลกครั้งที่ 3” หรือ “สงครามนิวเคลียร์” ก็คงต้องลองไปจินตนาการและสวดมนต์-ภาวนากันเอาเอง!!!