“ซินแคลร์” ผู้นำด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์สัญชาติไทย เปิดตัวแพลตฟอร์ม “AZURITES OpenXDR” โซลูชันป้องกันภัยไซเบอร์ขั้นสูง หวังทุกองค์กรรับมือการคุกคามจากภัยไซเบอร์อย่างมีประสิทธิภาพ ชู 3 จุดเด่นที่เหนือกว่าระบบอื่น เชื่อพลิกโฉมการรักษาความปลอดภัยโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลในอนาคต
เมื่อวันที่ 9 ต.ค.67 ที่ห้องคันธวาส เพลส โรงแรม ดิ แอทธินี ถ.วิทยุ กทม. บริษัท ซินแคลร์ จำกัด (Cynclair Co., Ltd.) ได้จัดงานเปิดตัว “อะซูไรต์ โอเพนเอ็กซ์ดีอาร์” (AZURITES OpenXDR) ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มความปลอดภัยทางไซเบอร์ที่ออกแบบมาเพื่อตอบสนองภัยคุกคามทางไซเบอร์สำหรับองค์กรต่างๆ โดยมีคู่ค้า และพันธมิตรทางธุรกิจ รวมถึงแขกผู้มีเกียรติทั้งในประเทศไทย และจากต่างประเทศเข้าร่วมงาน
นายธนจักร วัฒนกิจ ผู้ก่อตั้ง และประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยี (CTO : Chief Technology Officer) บริษัท ซินแคลร์ จำกัด กล่าวตอนหนึ่งว่า บริษัท ซินแคลร์ จำกัด เป็นธุรกิจสตาร์ทอัพด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์สัญชาติไทย ที่แยกตัวออกมาจากเครือบริษัท อาร์ วี คอนเน็กซ์ จำกัด (R V Connex Co., Ltd.) ซึ่งเป็นผู้นำด้านอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ โดย บริษัท ซินแคลร์ จำกัด เป็นผู้ออกแบบนวัตกรรม และให้บริการระบบป้องกันภัยคุกคามทางไซเบอร์ ซึ่งนับวันจะทวีความรุนแรงและมีความซับซ้อนมากขึ้น จึงได้ขอนำเสนอ “อะซูไรต์ โอเพนเอ็กซ์ดีอาร์” ที่ผ่านการออกแบบและพัฒนาให้เป็นระบบความปลอดภัยทางไซเบอร์ขั้นสูง ยกระดับความสามารถในการป้องกัน ด้วยการตรวจจับ และตอบสนองภัยคุกคามทางไซเบอร์ให้กับองค์กร และธุรกิจแขนงต่างๆ
“เราเข้าใจปัญหาที่ทั่วโลกต้องเผชิญ เนื่องจากเราก็เคยเป็นหนึ่งในผู้ประสบภัยทางไซเบอร์มาก่อน จึงต้องการให้ทุกคนสามารถเข้าถึงระบบความปลอดภัยทางไซเบอร์ที่มีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นองค์กรภาครัฐ หรือภาคธุรกิจทุกระดับ ซินแคลร์ฯ จึงขอนำเสนอแพลตฟอร์มนวัตกรรม “อะซูไรต์ โอเพนเอ็กซ์ดีอาร์” เพื่อเป็นทางเลือกให้ทุกคนสามารถเข้าถึงความปลอดภัยทางไซเบอร์ ที่นับวันจะทวีความรุนแรงและมีความซับซ้อนมากขึ้น” นายธนจักร ระบุ
นายธนจักร เล่าย้อนด้วยว่าว่า บริษัท อาร์ วี คอนเน็กซ์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ บริษัท ซินแคลร์ จำกัด เคยต้องรับมือกับการโจมตีโดยกลุ่มแฮกเกอร์ที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลต่างประเทศ (Nation-state Hacker) ที่มีความสามารถสูงมาก่อน เราจึงนำความรู้ และประสบการณ์จากทีมผู้เชี่ยวชาญมาพัฒนาโซลูชันที่มีประสิทธิภาพในการป้องกันการโจมตีเหล่านี้ ซึ่งถือเป็นภัยคุกคามระดับสูงที่องค์กรทั่วไปอาจไม่สามารถรับมือได้ นอกจากนี้เรายังมุ่งเน้นการลงทุนเพื่อพัฒนาบุคลากร มีการถ่ายทอดความรู้และประสบการณ์จากผู้เชี่ยวชาญในต่างประเทศให้กับทีมงานในประเทศไทย เพื่อพัฒนาโซลูชันที่มีคุณภาพเทียบเท่ากับบริษัทระดับโลก และทำให้วันนี้บุคลากรของบริษัทมีความรู้ และทักษะเฉพาะทางด้านไซเบอร์ซีเคียวริตี้ไม่เพียงแต่ระดับประเทศ หรือภูทิถาค แต่บางคนมาจากระดับโลก ซึ่งช่วยให้ลูกค้าของเราสามารถลดค่าใช้จ่ายในการลงทุนด้านนี้ได้อีกทางหนึ่ง
นายธนจักร กล่าวต่อว่า บริษัท ซินแคลร์ จำกัด ได้รับการยอมรับว่าเป็นผู้บุกเบิกด้านการป้องกันภัยไซเบอร์ โดยผู้ให้บริการตรวจจับ ป้องกัน และรับมือ (MDR : Managed Detection and Response) แห่งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ได้รับการนำเสนอใน Gartner Peer Insights (แพลตฟอร์มออนไลน์ที่เปิดให้ผู้เชี่ยวชาญและผู้ใช้บริการ ให้คะแนน และประเมินซอฟต์แวร์ และบริการด้านเทคโนโลยี) และเป็นองค์กรแห่งแรกในประเทศไทยที่นำ NIST Cybersecurity Framework 2.0 มาใช้ในการจัดการกับความท้าทายด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ระดับโลกและระดับภูมิภาค และเนื่องจากภูมิภาคอาเซียนยังคงเป็นเป้าหมายของการโจมตีทางไซเบอร์ที่เพิ่มขึ้น บริษัท ซินแคลร์ จำกัด จึงตั้งเป้าที่จะปิดช่องว่างด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ ที่แม้ว่าปัจจุบันระบบ AI จะเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมทั่วโลก แต่ความปลอดภัยทางไซเบอร์ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ยังขาดแคลนผู้เชี่ยวชาญที่มีทักษะ ต้องเผชิญกับความท้าทายใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง
“ซินแคลร์ ตระหนักดีว่า ทุกองค์กรต้องการโซลูชันด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ที่แข็งแกร่ง และเน้นที่ธุรกิจมากขึ้น เป็นที่มาขอการนำเสนอ แพลตฟอร์มนวัตกรรม “อะซูไรต์ โอเพนเอ็กซ์ดีอาร์” ที่ผ่านการพัฒนาจากผู้เชี่ยวชาญด้านการป้องกัน และความปลอดภัยทางไซเบอร์มาอย่างยาวนาน ผ่านการทดสอบรับมือกับภัยคุกคามทางไซเบอร์ขั้นสูงที่มีความซับซ้อนทุกรูปแบบ” ผู้ก่อตั้ง ซินแคลร์ กล่าวย้ำ
สำหรับ AZURITES OpenXDR มีความแตกต่างจากโซลูชัน MDR อื่นๆ 3 ประการ
1. Explainable Cybersecurity (GenAI)
Krystal-Clear AI Alerts: ระบบแจ้งเตือนที่ประมวลผลด้วย AI ที่เข้าใจง่าย ทำให้มั่นใจได้อย่างเต็มที่ในมาตรการรักษาความปลอดภัยขององค์กร
Tailored Protection : ระบบการป้องกันที่ปรับแต่งได้ ผ่านการพัฒนาด้วยโครงสร้างเชิงสถาปัตยกรรมขั้นสูง เพื่อการตรวจจับภัยคุกคามที่แม่นยำและรวดเร็ว นำหน้าภัยคุกคามที่เปลี่ยนแปลงไป
2. Proactive Threat Hunting
Dynamic Threat Defense: การป้องกันภัยคุกคามแบบไม่หยุดนิ่ง นำหน้าอาชญากรไซเบอร์ด้วยการป้องกันที่ปรับเปลี่ยนได้แบบเรียลไทม์
Always-On Protection: การป้องกันแบบเปิดตลอดเวลา ตามติดตามภัยคุกคามที่ขับเคลื่อนด้วยระบบ AI อัตโนมัติจะสแกนหาความเสี่ยงอย่างต่อเนื่อง โดยระบุภัยคุกคามที่อาจเกิดขึ้นก่อนที่ภัยคุกคามเหล่านั้นจะเข้าถึงระบบ
3. Automated Incident Response (IR) Playbooks
Immediate Threat Response: การตอบสนองต่อภัยคุกคาม โดยการแจ้งเตือนโดยอัตโนมัติและดำเนินการเพื่อลดความเสี่ยงทันที เมื่อเกิดการรั่วไหลของข้อมูล หรือตรวจพบภัยคุกคามจากภายนอก
Streamlined Incident Handling: มีคู่มือที่ให้คำแนะนำทีละขั้นตอนเพื่อการตอบสนองต่อเหตุการณ์ได้อย่างรวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ
ด้าน Mr.Joel Wong (โจเอล หว่อง) ประธานเจ้าหน้าที่บริการ (CEO) บริษัท ซินแคลร์ จำกัด กล่าวเสริมว่า แพลตฟอร์มนวัตกรรม “อะซูไรต์ โอเพนเอ็กซ์ดีอาร์” จะเป็นการกำลังกำหนดนิยามใหม่ว่าธุรกิจต่างๆ จะรักษาความปลอดภัยโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลของตนได้อย่างไร โซลูชันของเราไม่ได้ตรวจจับภัยคุกคามเพียงอย่างเดียว แต่ยังติดตามภัยคุกคามอย่างเป็นเชิงรุก ระบุรายละเอียดของภัยคุกคามเหล่านั้นอย่างชัดเจน และตอบสนองทันที เนื่องจากโลกกำลังเผชิญกับความเสี่ยงทางไซเบอร์ที่เพิ่มมากขึ้น ซินแคลร์ จึงขอมอบเครื่องมือที่จำเป็นให้กับองค์กรต่างๆ เพื่อปกป้องการดำเนินงานและปกป้องสิ่งที่สำคัญที่สุด
“การได้รับการยอมรับจาก Gartner และการนำมาตรฐานระดับโลกมาใช้ สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของเราในการพัฒนาโซลูชันที่มีคุณภาพสูงและเป็นไปตามมาตรฐานสากล สิ่งนี้สร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าของเราว่า พวกเขาจะสามารถรู้เท่าทันภัยไซเบอร์และป้องกันได้อย่างทันท่วงที ไม่ว่าแฮกเกอร์จะมาในรูปแบบไหนก็ตาม” Mr.Joel Wong ระบุ.