การสังหารกลุ่มผู้นำเฮซบอลเลาะห์กว่า 20 คนในเลบานอนโดยกองทัพอากาศอิสราเอลซึ่งใช้ระเบิดถล่มบังเกอร์จัดสรรให้โดยสหรัฐฯ ได้สร้างความไม่แน่นอนในวิกฤตตะวันออกกลาง
กองทัพอิสราเอลได้ระดมกองกำลังรถถังและยานรบจอดชายแดนตอนใต้ของเลบานอน ก่อนจะส่งกำลังภาคพื้นดินเข้าไปสู้รบกับกองกำลังติดอาวุธ แต่นั่นจะเกิดขึ้นหลังจากที่กองทัพอากาศอิสราเอลทิ้งระเบิดถล่มเป้าหมายต่างๆ ของเฮซบอลเลาะห์เพื่อตัดกำลังก่อน
นี่เป็นเป้าหมายของผู้นำอิสราเอล นายเบนจามิน เนทันยาฮู ซึ่งได้กางแผนที่แสดงให้เห็นว่าดินแดนส่วนหนึ่งของประเทศเลบานอน เป็นส่วนหนึ่งของดินแดนที่พระเจ้าสัญญาให้กับอิสราเอล และพร้อมทำสงครามกับอิรัก ซีเรีย และอิหร่านที่มีกองกำลังติดอาวุธหลายกลุ่มต่อต้านอิสราเอล
ไม่ว่าอิสราเอลจะทำอะไรรวมทั้งการฆ่าคนแย่งพื้นที่จากผู้อื่นก็มักจะอ้างคำสั่งของพระเจ้าเสมอ ซึ่งไม่สามารถพิสูจน์ได้โดยหลักฐานทางวิทยาศาสตร์เพราะดินแดนต่างๆเปลี่ยนมือไปในช่วงหลายหมื่นปีของการสู้รบของมนุษย์
แม้แต่ดินแดนปาเลสไตน์ก็ถูกแย่งชิงโดยอิสราเอลด้วยการสนับสนุนของโลกตะวันตกโดยเฉพาะอังกฤษซึ่งรับเงินจากตระกูลรอธส์ไชลด์ ซึ่งมั่งคั่งต่อเนื่องก่อนสงครามโลกครั้งที่สอง และมีอิทธิพลการเงินและการเมืองในหลายประเทศทั้งยุโรปโดยเฉพาะสหรัฐฯ
คนมองว่าสหรัฐฯ กับอิสราเอลเป็นประเทศเดียวกันเพราะพลเมืองเป็นชาวยิว ซึ่งมีจำนวนมากกว่า 8 ล้านคนในสหรัฐฯมากกว่าจำนวนประชากรอิสราเอลซึ่งเป็นชาวยิวแท้ๆ เพียงแค่ 7 ล้านคน
คงเลี่ยงไม่ได้ว่าสงครามระหว่างอิสราเอลกับเลบานอนจะต้องเกิดขึ้นมากกว่าที่เป็นอยู่ เพราะกองทัพอากาศอิสราเอลใช้ความเหนือกว่าถล่มพื้นที่เลบานอนทุกวัน ขณะที่กองกำลังของเฮซบอลเลาะห์ก็ยิงจรวดโจมตีอิสราเอลโดยมีเป้าหมายหลัก คือเมืองท่าไฮฟาและเทลอาวีฟ รวมทั้งพื้นที่ด้านในของอิสราเอล
สถานการณ์จะเป็นอย่างไรยังยากที่จะคาดการณ์ได้เพราะขณะนี้อิสราเอลได้เปิดแนวรบ 3 ทางด้านหนึ่งเป็นการสู้รบกับกลุ่มฮูตีในเยเมนโดยใช้เครื่องบินถล่มคลังน้ำมันและโรงงานไฟฟ้า การสู้รบในฉนวนกาซายังคงสังหารชาวปาเลสไตน์ และล่าสุดได้สังหารชาวเลบานอนไปมากกว่า 700 นาย
เหยื่อทั้งหมดในฉนวนกาซาและเลบานอนล้วนเป็นผู้หญิงและเด็กทำให้ประชาชนประมาณ 1 ล้านคน อพยพไปสู่ซีเรียเพื่อความปลอดภัยเพราะคาดการณ์ได้ว่าจะเกิดสงครามใหญ่แน่
การสูญเสียผู้นำกลุ่มใหญ่ของเฮซบอลเลาะห์ ได้สร้างความชะงักด้านโครงสร้างของแกนนำขณะที่จะใช้โอกาสบุก ขณะที่อิหร่านยังไม่มีท่าทีว่าจะเปิดศึกกับอิสราเอลตามความคาดหมายเพราะไม่อยากรบกับสหรัฐฯ
การที่อิสราเอลได้โจมตีประเทศข้างเคียงเพราะมั่นใจว่าสหรัฐฯ จะคุ้มครองและให้การสนับสนุนทางด้านอาวุธและเงินโดยไม่บิดพลิ้วเพราะเป็นพันธกิจของผู้นำสหรัฐฯ ที่ต้องสนับสนุนอิสราเอลโดยไม่มีเงื่อนไข
ด้วยเหตุนี้เองอิสราเอลจึงได้ใจไม่สนใจองค์กรระหว่างประเทศและสนธิสัญญาต่างๆทำตัวเป็นรัฐก่อการร้ายอย่างเป็นทางการ ดังเช่นการใช้เครื่องติดตามตัวและระเบิดวอล์กกี้ Talkie ติดตั้งระเบิดสังหารประชาชนในเลบานอนและซีเรีย
อิสราเอลจึงเป็นรัฐก่อการร้ายโดยสมบูรณ์โดยมีสหรัฐฯสนับสนุน รู้เห็นเป็นใจโดยเชื่อมั่นว่าไม่มีใครทำได้ทำให้อิสราเอลอยู่เหนือกฎหมายระหว่างประเทศและละเมิดสนธิสัญญา
การก่ออาชญากรรมสงคราม การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ การสนับสนุนลัทธิเหยียดผิวและการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศอย่างต่อเนื่อง ทำให้อิสราเอลถูกโดดเดี่ยวจากประชาคมโลก
ผู้นำกองทัพอิสราเอลต้องการทำลายประเทศเลบานอนเพื่อล้างอายหลังจากพ่ายแพ้ในปี 2006 หลังจากที่ครอบครองพื้นที่ตอนใต้ของเลบานอนนาน 15 ปีแต่ไม่สามารถยืนหยัดอยู่ได้
อิสราเอลจึงมีศัตรูรอบทิศและต้องทำสงครามแทบจะทุกลมหายใจเข้าออกมีสองประเทศในตะวันออกกลางเท่านั้นที่มีความสัมพันธ์ทางการทูตคืออียิปต์และกาตาร์ ส่วนประเทศอื่นรังเกียจอิสราเอลเพราะนโยบายฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ไม่เลือกว่าเป็นผู้หญิงและเด็ก
ทั้งโลกกำลังจับตาเฝ้าดูว่าสถานการณ์ในตะวันออกกลางจะลุกลามไปมากเพียงใด และส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกเนื่องจากพลังงานทั้งน้ำมันและก๊าซมีแหล่งสำคัญที่ตะวันออกกลาง
และต้องดูว่าชาติมหาอำนาจจะเข้ามาเกี่ยวข้องมากน้อยเพียงใด เพื่อรักษาผลประโยชน์และความอยู่รอดของตัวเอง