รนหาที่อีกแล้ว

ประชาชนซึ่งตกเป็นเหยื่อของอุทกภัยน้ำตาไหลทั้งแผ่นดิน หลายครอบครัวแทบสิ้นเนื้อประดาตัว ต้องเริ่มต้นชีวิตใหม่ทั้งที่หนี้สินท่วมหัว ยังไม่รู้ว่าจะหาเงินจากไหนมาซื้อสิ่งของจำเป็นสำหรับชีวิต

รัฐบาลนำโดยผู้นำไร้เดียงสาด้อยสติปัญญาความรู้ความสามารถ ขาดประสบการณ์ ด้านบริหารบ้านเมือง พยายามตีหน้าใสใช้ขี้ข้าเป็นโล่ เอาตัวรอดจากคำถามยากๆ ของผู้สื่อข่าว

เมื่อมีผู้นำไม่เจียมตน ไม่มีความเป็นผู้นำแท้จริง ไม่คำนึงถึงข้อจำกัดด้านความรู้ความสามารถของตนเอง ประเทศไทยจึงเหมือนถูกลงโทษด้วยเวรกรรมต่อเนื่อง เป็นสภาวะที่อนาคตมืดมน

ซ้ำร้ายขณะที่ประชาชนอยู่ในความทุกข์บ้านเมืองมีปัญหาหนี้ครัวเรือน หนี้สาธารณะและสารพัดปัญหาอันเกิดจากวิกฤตธรรมชาติและการทุจริตคอร์รัปชันเรื้อรัง ก็ยังมีเคราะห์ซ้ำกรรมซัด

แทนที่รัฐบาลจะเน้นการแก้ปัญหาเร่งด่วนเรื่องเศรษฐกิจและความอยู่รอดของประเทศ แต่ทุรชนที่มาจากการเลือกตั้งสายขี้ข้า นักกฎหมายสายโจร และบริวารพยายามแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อเปิดช่องให้ทำความชั่วร้ายได้เหมือนเดิม

ทุรชนซึ่งอ้างว่าเป็นตัวแทนของปวงชนชาวไทยมีความสงสัยแบบแกล้งโง่ หรือผสมความบัดซบ ไม่เข้าใจคำว่าจริยธรรมว่าแต่ละคนต้องมีระดับไหน ต้องการเขียนข้อจำกัดความโดยการแก้ไขรัฐธรรมนูญ

ถ้าเป็นคนดี รู้จักผิดชอบชั่วดี มีคุณธรรม ย่อมเข้าใจคำว่าจริยธรรมไม่ต้องมาถามว่าควรจะมีกี่เปอร์เซ็นต์ และมีกี่ระดับ เพราะเปอร์เซ็นต์เป็นคำพูดของพวกทุรชน โจรการเมือง ที่ต่อรองค่าหัวคิว หุ้นลม เงินเก๋าเจี๊ยะ โดยพฤติกรรมทุจริตคอร์รัปชัน

เช่นกัน คำว่าซื่อสัตย์สุจริตไม่จำเป็นต้องมีเปอร์เซ็นต์หรือมีระดับ คนที่ต้องการเขียนคำจำกัดความว่าความซื่อสัตย์สุจริตควรอยู่ในระดับไหนแสดงให้เห็นว่านั่นคือทุรชนหรือโจรแท้นั่นเอง

จากคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญก่อนหน้านี้ทำให้นายขายาวถุงเท้าแดงตกจากเก้าอี้นายกรัฐมนตรี ทำให้นักเลือกตั้งสายกังฉิน นักกฎหมายโหงวเฮ้งโจรเดือดร้อน หลายคนอดเป็นรัฐมนตรีหรือดำรงตำแหน่งทางการเมืองเพราะมีปัญหาเรื่องจริยธรรมและมีข้อสงสัยเรื่องความซื่อสัตย์สุจริตให้เป็นที่ประจักษ์

ทุรชนการเมืองอยากจะสร้างความชัดเจนว่าจริยธรรมเป็นอย่างไร ครอบคลุมพฤติกรรมแค่ไหนหรือความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์นั้นเป็นอย่างไร ล้วนแต่เป็นคนที่ถูกมองว่ามีความชั่วร้ายในกมลสันดาน

คนดีประพฤติธรรม มีมโนธรรมจิตสำนึกที่ดีรู้จักแยกแยะความผิดชอบชั่วดี ต้องไม่มีความสงสัย ว่าจริยธรรมหรือความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์นั้นเป็นอย่างไร

แปลกันง่ายๆ คนมีจริยธรรมซื่อสัตย์สุจริตย่อมไม่คิดจะประพฤติชั่ว ไม่คดโกง มีคุณธรรมศีลธรรม ถ้าเป็นนักกฎหมายต้องมีความเที่ยงธรรมจิตใจสูงส่ง ไม่ใช้กฎหมายทำร้ายคนดี หรือแสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบ

ความพยายามแก้ไขรัฐธรรมนูญในประเด็นจริยธรรมและความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ ย่อมสะท้อนให้เห็นว่าเป็นพฤติกรรมของทุรชน ซึ่งก็เห็นกันอยู่ว่าในกลุ่มที่ลอยหน้าลอยตาพูดจาเจื้อยแจ้วเรื่องนี้หลายคนเคยติดคุกมาก่อน หรือมีประวัติน่ารังเกียจเรื่องการทุจริตคอร์รัปชันแต่รอดมาได้เพราะอิทธิพลและเงิน

อีกประเด็นที่นักเลือกตั้งทุรชน หรือนักกฎหมายโหงวเฮ้งโจรต้องการกำหนดเสียงคำวินิจฉัยของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญว่าต้องเป็นเท่านั้นเท่านี้ แสดงว่าไม่เข้าใจคำว่า “เสียงข้างมาก” หรือมีความโง่ดักดาน

คำวินิจฉัย 5-4 หรือ 6-3 หรือ 8-1 ย่อมเป็นเสียงข้างมาก ไม่จำเป็นต้องแถตะแบง ว่าจะต้องไม่ใช่ 5-4 แต่ต้องให้เยอะถึงระดับ 6-3 หรือมากกว่านั้น

นักเลือกตั้งทุรชน นักกฎหมายโหงวเฮ้งโจรทำเป็นไม่เข้าใจว่าคำวินิจฉัยของศาลยุติธรรมนั้นอยู่ภายใต้พระปรมาภิไธยของพระมหากษัตริย์

ทั้งหมดนี้เป็นความพยายามที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อประโยชน์ส่วนตน นั่นก็คือนักเลือกตั้งทุรชน นักกฎหมายโหงวเฮ้งโจร ซึ่งรวมตัวกันเป็นขี้ข้าในระบอบที่หวนคืนกลับมาอีกรอบหลังจากกว่า 20 ปี

ระบอบขี้ข้ารอบใหม่เป็นยุคของ “ทายาทอสูร” เพราะมารตัวพ่อไม่สามารถดำรงตำแหน่งได้ด้วยข้อจำกัดด้านจริยธรรม ความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์

ดังนั้น เราจึงมีคณะรัฐมนตรีซึ่งมีคนด้อยประสบการณ์ ไม่มีหลักฐานความสำเร็จในอาชีพอื่นๆ เพียงแต่ว่าเคยมีบรรพบุรุษเป็นนักการเมืองที่คนรู้จักทั้งด้านดีซึ่งมีน้อย แต่ส่วนใหญ่ล้วนเป็นพวกทุรชน

ความพยายามแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้เพื่อเปิดช่องให้ทำความชั่วร้ายได้เหมือนเดิมสะท้อนให้เห็นความผยองลำพองยโสโอหังในอำนาจที่ได้คืนมาจากการเลือกตั้งรอบใหม่ และการหักหลังอย่างเลือดเย็นในพวกเดียวกัน

อย่างที่ว่า “ความซื่อสัตย์ย่อมไม่มีในหมู่โจร” นั่นเอง
นี่ไม่ใช่พฤติกรรมของผู้มีจริยธรรมและความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์แน่นอน แต่เป็นความชั่วร้ายที่สามารถพิสูจน์ได้เพราะเกิดให้เห็นตำตา คนทั้งบ้านทั้งเมืองได้รับรู้และต้องทนอยู่กับระบอบขี้ข้าผยอง

จึงไม่น่าแปลกใจที่ชาวบ้านได้เห็นพฤติกรรมของคางคกขึ้นวอ กิ้งก่าได้ทอง และขบวนการเชลียร์ของขี้ข้าระดับต่างๆ ซึ่งดูแล้วท้าทายอำนาจประชาชนและอำนาจที่เคยล้มรัฐบาลที่ทำให้นักเลือกตั้งทุรชนต้องหนีหัวซุกหัวซุน หรือติดคุกจนทุกวันนี้

ใครจะรู้ประวัติศาสตร์ย่อมซ้ำรอยได้เสมอ และครั้งใหม่อาจเกิดโดยไม่ต้องใช้เวลานานด้วย