xs
xsm
sm
md
lg

ปฏิเสธพปชร.ต้อนรับปชป. : แผนทำลายพรรค

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: สามารถ มังสัง


พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ
พลังประชารัฐในส่วนของบิ๊กป้อมหรือพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ได้ถูกพรรคเพื่อไทยปฏิเสธไม่ให้เข้าร่วมรัฐบาล แต่ยอมให้ พปชร.ในส่วนของผู้กองธรรมนัส พรหมเผ่า เข้าร่วม จึงทำให้พรรคนี้แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม โดยที่กลุ่มหนึ่งเป็นรัฐบาล และอีกกลุ่มหนึ่งเป็นฝ่ายค้าน

ในขณะเดียวกัน พรรคเพื่อไทยได้อ้าแขนรับพรรคประชาธิปัตย์กลุ่มของนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน ซึ่งเป็นฝ่ายบริหารพรรคในปัจจุบันเข้าร่วมรัฐบาล โดยเสนอตำแหน่งรัฐมนตรี 2 ตำแหน่งเป็นผลตอบแทน

แต่ ปชป.ส่วนหนึ่งทั้งที่เป็น สส.และมิได้เป็น สส.ซึ่งเป็นเสาหลักทางด้านความคิดและอุดมการณ์ทางการเมืองในรูปแบบของ ปชป.อันได้แก่ อดีตนายกฯ ชวน หลีกภัย นายบัญญัติ บรรทัดฐาน และนายนิพนธ์ บุญญามณี เป็นต้น ไม่เห็นด้วยกับการเข้าร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทย แต่ด้วยความเป็นนักการเมืองที่เคารพกติกาประชาธิปไตย จึงไม่ต่อต้านและคัดค้านมติพรรคที่เห็นด้วยกับการเข้าร่วม จึงกลายเป็นฝ่ายค้านในขั้วของรัฐบาล

จากการกระทำดังกล่าวของพรรคเพื่อไทย ทำให้มองเป็นอย่างอื่นไม่ได้นอกจากต้องการให้ พปชร.และ ปชป.แตกแยกไม่มีเอกภาพในการบริหาร และกลายเป็นพรรคอ่อนแอ จึงเท่ากับทำลายพรรคทั้งสองโดยตรง

ส่วนว่าการที่พรรคเพื่อไทยทำเช่นนี้มีอะไรเป็นมูลเหตุจูงใจนั้น ถ้าย้อนไปดูความเป็นมาในอดีต ก็พอจะอนุมานได้ดังนี้

1. ในกรณีของ ปชป.เป็นไปได้ที่ว่าเกิดจากความแค้นที่พรรคนี้มีส่วนสำคัญในฐานะที่ต่อต้านการออกกฎหมายนิรโทษกรรมแบบเหมาเข่ง ทำให้เกิดการชุมนุมขับไล่รัฐบาลพรรคเพื่อไทย และจบลงด้วยการทำรัฐประหาร

2. ในกรณีของ พปชร.แม้มองเห็นสาเหตุที่ชัดเจนว่า อะไรทำให้ พปชร.เป็นศัตรูทางการเมืองกับพรรคเพื่อไทย

แต่ด้วยเหตุที่พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ อยู่บนเส้นทางที่จะเดินไปสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีได้ จึงกลายเป็นคู่แข่งทางการเมือง และกลายเป็นศัตรูกันในทำนองว่า ผลประโยชน์ร่วมกันแบ่งปันกันไม่ได้ จึงกลายเป็นศัตรูกัน

ดังนั้น เมื่อ 40 สว.ซึ่งมีความใกล้ชิดกับบิ๊กป้อมไปร้องศาลรัฐธรรมนูญในกรณีของนายเศรษฐา ทวีสิน และทำให้นายเศรษฐาต้องพ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ผู้มีอำนาจเหนือพรรคเพื่อไทย จึงมอง พปชร.เป็นศัตรูการทำลาย พปชร.จึงเกิดขึ้น ไม่ว่าการแตกแยกใน ปชป.และ พปชร.จะเกิดจากเหตุใด พรรคเพื่อไทยก็ตกเป็นจำเลยสังคมในข้อหาที่มีส่วนทำให้สองพรรคแตกแยก

ดังนั้น ถึงแม้ว่าการกระทำดังกล่าวของพรรคเพื่อไทยไม่มีความผิดในด้านกฎหมาย แต่ในด้านจริยธรรมทางการเมืองซึ่งสังคมเป็นผู้ตัดสิน มีผลในทางลบแน่นอน โดยเฉพาะ สส.จาก ปชป.และ พปชร.ที่เข้าร่วมกับพรรคเพื่อไทย และได้รับผลประโยชน์ทางการเมืองจะต้องถูกประชาชนลงโทษด้วยการไม่เลือกคนกลุ่มนี้ในการเลือกตั้งครั้งต่อไป ด้วยเหตุว่าอ้างประชาชนแต่เพื่อผลประโยชน์ของตนเอง

อีกประการหนึ่งที่พรรคเพื่อไทยทำเช่นที่กล่าวมาแล้ว จะส่งผลกระทบในทางลบต่อพรรคเพื่อไทยเองว่าเล่นการเมืองแบบไร้จริยธรรม และในขณะเดียวกันทำให้พรรคฝ่ายค้านโดยเฉพาะพรรคประชาชนได้ข้ออ้างนำไปเป็นประเด็นหาเสียง โดยไม่ต้องลงทุนอะไร ประกอบกับฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยจาก ปชป.โดยเฉพาะอดีตนายกฯ ชวน หลีกภัย ผู้คลุกคลีกับการเมืองมานาน ย่อมมองเห็นเกมนี้อย่างทะลุปรุโปร่ง และในด้านของ พปชร.บิ๊กป้อมก็ใช่ว่าจะเป็นหมูการเมือง ด้วยความรู้ และประสบการณ์ในด้านวางแผนก็ย่อมจะมองประเด็นนี้ออกเช่นเดียวกัน

ส่วนว่าทั้งสองท่านที่ว่านี้จะเดินเกมนี้อย่างไรจะต้องรอดูต่อไป และคงไม่นานจะได้เห็นการตอบโต้จากฝ่ายที่เป็นรองอยู่ในขณะนี้ และเชื่อว่าไม่นานเกินรอแน่นอน


กำลังโหลดความคิดเห็น