ผู้นำตุรกีชวนชาติมุสลิมรุมอิสราเอล

ขณะที่กองทัพอิสราเอลยังคงปฏิบัติการทั้งทางบกและอากาศสังหารชาวปาเลสไตน์ทุกวันทั้งในฉนวนกาซา และขยายมาฝั่งตะวันตกของแม่น้ำชายแดน ชาวปาเลสไตน์แต่ละวันมีภาระต้องเก็บศพ ช่วยเหลือผู้บาดเจ็บและต้องเอาชีวิตรอดด้วย

สงครามระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์ยังไม่มีวี่แววว่าจะจบสิ้น แม้จะมีการเจรจาต่อรองกันแต่ก็ถูกมองว่าเป็นกลยุทธ์ของอิสราเอลในการยื้อเวลาในการทำลายชาวปาเลสไตน์ให้พ้นจากแผ่นดินเกิด

ขณะเดียวกันผู้นำอิสราเอล นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู เผชิญกับการขับไล่โดยประชาชนซึ่งจัดชุมนุมใหญ่ทุกวันหยุดสุดสัปดาห์ เพื่อเรียกร้องให้ยุติสงครามและเอาตัวประกันคืนจากการยึดของกลุ่มฮามาส ซึ่งยังคงเหลืออีก 97 คน

ไม่กี่วันก่อนตัวประกันถูกสังหาร 7 รายหนึ่งในนั้นเป็นชาวอเมริกัน ซึ่งไม่มีหลักฐานว่าใครเป็นผู้สังหารหรือเป็นเหยื่อของการทิ้งระเบิดโดยกองทัพอิสราเอล

การชุมนุมของชาวอิสราเอลวันเสาร์ที่ผ่านมามีสูงถึง 780,000 ราย ถือว่าสูงสุดครั้งหนึ่งในการขับไล่ผู้นำประเทศ ซึ่งนำพาอิสราเอลเข้าสู่สภาวะลำบากทางด้านการเมือง เศรษฐกิจ และสังคม และถูกเมินโดยประชาคมโลก เพราะสงครามฆ่าล้างเผ่าพันธุ์

แต่เนทันยาฮู ไม่ยอมลาออกอ้างว่าต้องทำศึกให้จบสิ้นเพื่อความปลอดภัยของอิสราเอล แท้ที่จริงแล้วถ้าหลุดจากตำแหน่งเมื่อไหร่จะต้องขึ้นศาลในคดีทุจริตอย่างน้อยสองคดีและอาจต้องติดคุก

ดังนั้น การเจรจาโดยตัวแทนของสหรัฐฯ คือรัฐมนตรีต่างประเทศแอนโทนี บลิงเคน ไร้ความหมายเพราะไม่สามารถบังคับอิสราเอลได้ และกลุ่มทุนเงินชาวยิวในสหรัฐฯ มีอำนาจเหนือนักการเมืองในสภาฯ

ล่าสุดมีเสียงเรียกร้องจากผู้นำตุรกีประธานาธิบดีแอร์โดอัน เรียกร้องให้มีการรวมกลุ่มชาติอิสลามเพื่อต่อต้านการขยายตัวอิทธิพลของอิสราเอล ซึ่งจะเป็นวิธีเดียวที่จะสกัดกั้นสิ่งที่เรียกว่า “การก่อการร้ายโดยรัฐ” และขบวนการโจร

เสียงเรียกร้องของผู้นำตุรกีให้สร้างเครือข่ายพันธมิตรของกลุ่มประเทศมุสลิมอ้างว่าจะเป็นวิธีเดียวในการต่อต้านการขยายตัวของอิทธิพลของอิสราเอลซึ่งมีสหรัฐฯ หนุนหลังอยู่

ผู้นำตุรกีไปเสนอความคิดนี้ขณะที่ไปพูดที่สมาคมโรงเรียนอิสลามในวันเสาร์ที่ผ่านมา และก่อนหน้านี้ก็ประกาศว่าพร้อมที่จะส่งทหารไปช่วยรบอิสราเอลถ้าหากสงครามขยายตัวเข้าเลบานอน

แอร์โดอัน ชื่นชมกลุ่มติดอาวุธฮามาส ว่าเป็นผู้กล้าหาญในการสู้รบกับอิสราเอลแม้สงครามจะยืดเยื้อกว่า 8 เดือน และมีชาวปาเลสไตน์เสียชีวิตมากกว่า 40,000 ราย บาดเจ็บมากกว่า 91,000 ราย บ้านเมืองในฉนวนกาซาเสียหายมากกว่า 80%

ข้ออ้างของผู้นำอิสราเอลว่าต้องจัดการกับกลุ่มอาวุธในกาซา ถูกมองว่าเป็นแผนที่จะกวาดล้างชาวปาเลสไตน์ไม่ให้เหลือและให้ชาวยิวที่อพยพมาจากประเทศอื่นเข้าไปครอบครอง

ทุกวันนี้ผู้นำอิสราเอลพยายามจะให้เกิดสงครามขยายตัวโดยเฉพาะระหว่างสหรัฐฯ และอิหร่านซึ่งถือว่าเป็นคู่แค้นของอิสราเอล ความพยายามที่จะโจมตีอิหร่านยังทำไม่ได้เพราะไม่สามารถบินผ่านน่านฟ้ากลุ่มประเทศมุสลิมได้

และอิหร่านทุกวันนี้มีศักยภาพแข็งแกร่งด้วยการสนับสนุนด้านอาวุธและระบบป้องกันภัยทางอากาศ โดยรัสเซียและสหรัฐฯ เองก็ไม่ต้องการเผชิญหน้าโดยตรงกับรัสเซียทั้งในสงครามตะวันออกกลางและศึกยูเครนกับรัสเซีย

คำประกาศของผู้นำตุรกีจะจริงจังแค่ไหนขึ้นอยู่กับการแสดงออกว่าตุรกีพร้อมจะรบกับอิสราเอลด้วยการให้ความช่วยเหลือกลุ่มต่างๆ ที่ทำศึกกับอิสราเอลในปัจจุบันหรือไม่

ทุกวันนี้นอกจากกลุ่มติดอาวุธฮามาสแล้วยังมีการสู้รบต่อเนื่องกับกลุ่มเฮซบอลเลาะห์ ในเลบานอน สร้างความเสียหายด้านตอนเหนือของอิสราเอลต้องอพยพประชาชนกว่า 200,000 คนให้เป็นภาระของประเทศ

จากการสู้รบนานกว่า 8 เดือนกองทัพอิสราเอลแสดงออกถึงอาการอ่อนล้า คณะรัฐมนตรีเริ่มขาดความสามัคคีมีความเห็นแตกต่างกันว่าจะทำอย่างไรในการหยุดสงคราม แต่เนทันยาฮูเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัวมากกว่า โดยไม่ต้องการติดคุก

และสิ่งที่ผู้นำอิสราเอลซื้อเวลาคือต้องการจะรู้ว่าใครจะเป็นผู้นำสหรัฐฯ คนใหม่ในการเลือกตั้งต้นเดือนพฤศจิกายน ซึ่งจะมีผลต่ออนาคตของอิสราเอล แม้จะเป็นธรรมเนียมปฏิบัติและภารกิจของผู้นำทุกคนว่าจะต้องเป็นพันธมิตรกับอิสราเอลโดยไม่มีเงื่อนไข

ด้วยเหตุนี้กลุ่มเงินทุนชาวยิวในสหรัฐฯ จึงควบคุมการเมืองทั้งสมาชิกสภาผู้แทนและผู้ที่สภาฯ ด้วยความแข็งแกร่งเพราะนักการเมืองต้องพึ่งพาเงินทุน ดังนั้น นโยบายต่างประเทศจึงถูกควบคุมโดยกลุ่มนายทุนชาวยิว

มีเสียงล้อเลียนว่าประธานาธิบดีสหรัฐฯ ตัวจริงก็คือเนทันยาฮู เพราะการกล่าวสุนทรพจน์ในสภาคองเกรส มีทั้ง สส. และสว.ลุกขึ้นยืนปรบมือ 38 ครั้ง นั่นเป็นเพราะอิทธิพลของเงินชาวยิวที่ต้องการให้เห็นว่านักการเมืองอเมริกันสนับสนุนอิสราเอล

ณ เวลานี้รออยู่ว่าอิหร่านจะโจมตีอิสราเอลเพื่อเอาคืนเมื่อไหร่และจะเกิดอะไรขึ้นถ้าสหรัฐฯ ปกป้องอิสราเอลด้วยการโจมตีอิหร่าน และจะมีใครร่วมทำสงครามอีกด้วย

ความหายนะของฉนวนกาซาทำให้ทุกคนต้องคิดว่าสงครามคือการทำลายล้าง ชาวยุโรปเห็นความล่มสลายของยูเครน และต้องลำบากกับการขาดแคลนพลังงาน โดยเฉพาะเยอรมนีซึ่งสูญเสียพลังเศรษฐกิจเพราะขาดก๊าซธรรมชาติจากรัสเซีย

ศึกตะวันออกกลางและศึกยูเครนกับรัสเซียจะเป็นตัวตัดสินอนาคตของโลกว่าจะอยู่ในสภาพอย่างไร ถ้ารัสเซียสามารถปิดเกมก่อนสหรัฐฯ ได้ประธานาธิบดีคนใหม่ก็จะลดแรงกดดันไปได้บ้าง แต่ไม่ใช่สิ่งที่แน่นอน